ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 118

ตอนที่ 118 งานเลี้ยงครอบครัวบนปลายลิ้น

‘ก๊อกๆๆ…ก๊อกๆๆๆ…’

เสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก หวังเคอที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกเงยหน้าขึ้น ก่อนจะจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินไปที่ประตู เขามองไปที่จอภาพ กล้องด้านนอกถ่ายให้เห็นชายชราหลังค่อมคนหนึ่ง

ชายชราก้มหน้า จึงเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน หวังเคอไม่คิดที่จะเปิดประตู แต่กลับได้ยินเสียงดัง ‘แก๊ก’ ประตูถูกเปิดออก

หวังเคอถอยหลังไปหนึ่งก้าว ชายชราปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตู จากนั้นสายลมหยินที่อึมครึมก็พัดมาจากประตู อุณหภูมิโดยรอบเริ่มลดลงอย่างช้าๆ

ถุงพลาสติกในมือของชายชราร่วงลงเสียงดัง ‘ตุ้บ’ ผักดอง หัวหอม กระเทียม และขิงที่อยู่ในนั้นกระเด็นออกมา

“อีกสักพักค่อยทำกับข้าว”

เสียงของชายชรามีความหนืดอยู่บ้าง ไม่ใช่เสียงออดอ้อนของสาวน้อย แต่เป็นเสียงที่มีของเหลวสะสมอยู่ในลำคอ

หวังเคอสูดลมหายเข้าลึกๆ เวลานี้เขาได้ถอดแว่นตาออกมาเช็ดอย่างใจเย็น จากนั้นจึงใส่กลับไปแล้วเอ่ยว่า “ถึงแม้ผมจะรู้ว่ามีโอกาสไม่มากที่จะเกลี้ยกล่อมคุณได้ แต่ยังไงก็ต้องลองดู ผมกับโรงพยาบาลนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกันจริงๆ”

“อ้อ”

ชายชราขานรับหนึ่งที จากนั้นเงยหน้า ผิวหนังของเขาเวลานี้เริ่มเหี่ยวย่น ก่อนหน้าแค่เป็นกระฝ้า แต่ตอนนี้ผิวหนังกลับเหี่ยวแห้งเหมือนเปลือกไม้อย่างสิ้นเชิง

มีความหยาบหนาและแตกแห้ง เบ้าตาก็โบ๋ นัยน์ตาที่ว่างเปล่าราวกับมีกลุ่มเปลวไฟสีเขียววูบวาบ

“ใครจะไปสน” ชายชราเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ย่นระยะห่างของเขากับหวังเคอให้ใกล้ขึ้น

“คนอื่นไม่สนใจชีวิตที่ตกต่ำของพวกเรา ทำไมฉันต้องสนใจชีวิตของคนอื่น”

ชายชราเดินเข้าใกล้เขาทีละก้าว หวังเคอถอนหายใจ “ผมคิดว่าตัวเองก็เป็นคนดีคนหนึ่ง แล้วผมก็รู้สึกเห็นใจมากกับสิ่งที่คุณเจอ ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าคุณไปเจออะไรมากันแน่…”

‘พลั่ก!’

คำพูดไร้สาระของหวังเคอยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ถูกทุ่มลงไปที่พื้นทั้งตัวแล้ว มือของชายชรามีกำลังเยอะมาก มากจนคนหนุ่มอย่างหวังเคอเป็นได้แค่ลูกไก่ตรงหน้าเขาเท่านั้น

หวังเคอโดนทุ่มแรงมาก แขนซ้ายหักและไม่รู้ว่ากระดูกซี่โครงหักไปกี่ท่อนแล้ว

“ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่ตำรวจ สิ่งที่ฉันทำ ไม่ต้องพูดถึงหลักฐาน”

ชายชรานั่งยองๆ ข้างหวังเคอ

“ไม่ว่ายังไงคนที่อยู่ในรูปภาพ คนที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนี้ ต้องตายทุกคน”

พอพูดจบ ชายชราก็ยื่นมือออกไปตบหน้าของหวังเคอ นิ้วของชายชราขาดไปสองสามนิ้ว และตำแหน่งที่นิ้วขาดก็ยังมีน้ำหนองสีเขียวไหลออกมาไม่หยุด ดูแล้วน่าขยะแขยงมาก

หวังเคอถอนหายใจยาว พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดที่รุนแรง ดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับโชคชะตาแล้ว

และในเวลานี้ชายชราได้เงยหน้ามองไปที่บันได ภรรยาของหวังเคอยืนอยู่ตรงนั้น ยืนมองทุกอย่างที่อยู่ข้างล่างด้วยความเหม่อลอย เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ตอนนี้ใส่ชุดออกกำลังกาย ดูเหมือนว่าเธอจะออกไปวิ่งตอนเช้า

“กลับไปนอนเถอะ ฉันไม่ฆ่าผู้หญิง”

ชายชราหัวเราะหน้าตาน่ากลัว เขาลุกขึ้น ก่อนจะยื่นมือออกไปลากข้อเท้าของหวังเคอ เขาเดินนำหน้า แล้วลากหวังเคอตามมาด้านหลัง ทั้งสองคนเข้าไปในห้องครัวพร้อมกัน

ภรรยาของหวังเคอเดินลงมาจากข้างบน เธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องครัว

ชายชรามองผู้หญิงที่อยู่นอกประตูด้วยความแปลกใจ ดูเหมือนเขาจะเตรียมตัวรับมือไว้แล้ว

เดิมทีเขาคิดว่าผู้หญิงจะโทรแจ้งความ แต่เธอไม่ทำ

แต่เดิมเขาคิดว่าผู้หญิงจะหยิบของอะไรมาสู้กับเขา เพื่อช่วยชีวิตสามีของเธอ แต่เธอก็ไม่ทำ

กระทั่งชายชรารู้สึกว่าผู้หญิงจะต้องร้องกรี๊ด ร้องไห้ ขอร้องอ้อนวอน หรือวิ่งหนี ซึ่งการกระทำเหล่านี้สามารถเข้าใจได้ แต่การตอบสนองของผู้หญิงกลับทำให้คนต้องอ้าปากค้าง

ผู้หญิงหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องครัวพักหนึ่ง จากนั้นจึงหมุนตัวหิ้วถุงวัตถุดิบจำพวกผักดองและอื่นๆ ที่ชายชราพกมาด้วยเข้ามาด้านใน เธอหยิบเครื่องปรุงต่างๆ ออกมาจากตู้ในห้องครัว ขณะเดียวกันก็เริ่มล้างหม้อ กระทะ และชามให้ชายชรา

หวังเคอที่นอนอยู่บนพื้นเห็นฉากนี้แล้ว จึงยื่นมือลูบหน้าตัวอง แล้วพูดอย่างจนใจ “ที่รัก คุณอาการกำเริบอีกแล้ว”

ชายชรางุนงงและสับสนต่อการกระทำของผู้หญิง ในเมื่อไม่เข้าใจ อย่างนั้นก็ไม่ต้องคิด ชายชราจับหวังเคอขึ้นมาแล้วกดคอของเขาลงไปในอ่างล้างชาม ก่อนจะเปิดก๊อกน้ำแล้วล้างด้วยน้ำเย็น

ผู้หญิงหยิบมีดขึ้นมา เธอไม่คิดจะฟาดฟันชายชรา แต่ช่วยหั่นหัวหอมและกระเทียมให้ชายชราอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเธอมีฝีมือการทำอาหาร ขณะเดียวกันก็ได้เปิดหัวแก๊ส เทน้ำมันลงในกระทะแล้วจุดไฟ

ชายชรานำวัตถุดิบมาหลายอย่างเพื่ออะไร จริงๆ แล้วชัดเจนมาก และผู้หญิงก็เป็นเหมือนลูกมือของชายชรา

ภายในห้องครัวมีความปรองดองเป็นอย่างมาก ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน กำลังเตรียมทำอาหารรสเลิศดังนั้นจึงขยันขันแข็ง

หวังเคอก็ไม่ตอบโต้ เขารู้ดีว่าตัวเองตอบโต้ไม่ไหว

ชายชรายื่นมือออกไปจับเส้นผมของหวังเคอเอาไว้ แล้วยกหัวของเขาขึ้น จากนั้นชายชราก็ใช้เล็บของตัวเองวาดไปมาที่ผิวหนังบนใบหน้าของหวังเคอไม่หยุด เหมือนลูกค้าที่ไปเลือกเนื้อในตลาด กำลังเลือกว่าจะซื้อเนื้อส่วนไหนถึงจะดีที่สุด

“ผัดก่อน แล้วค่อยเอากระดูกมาทำน้ำแกง อร่อยดี”

ภรรยาของหวังเคอยืนพูดอยู่ข้างๆ ชายชรา เธอพูดอย่างจริงจังมาก แสดงว่าเธอผ่านการคิดทบทวนมาดีแล้วขณะเดียวกันก็ยังกลืนน้ำลายไปด้วย เพราะเธอหิวแล้ว

ชายชรารู้สึกชินกับภรรยาที่แปลกประหลาดของเหยื่อแล้ว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงเห็นด้วยกับความเห็นของภรรยาหวังเคอ

ชายชราเตรียมจะใช้เล็บหั่นเนื้อ แต่ภรรยาของหวังเคอกลับยื่นมีดทำครัวให้เขา เพื่อบอกให้ชายชราใช้มีด

เธอชี้ไปที่เล็บของชายชราแล้วพูดว่า “สกปรก ไม่สะอาด”

ผู้หญิงที่แต่งงานมีประสบการณ์การทำครัวเยอะจะรู้ว่า วัตถุดิบที่สดใหม่จะตัดสินความอร่อยของกับข้าวจานหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องเข้มงวดและประณีตกับวัตถุดิบเป็นอย่างมาก ไม่ปล่อยให้ปัจจัยภายนอกใดๆ มีผลต่อรสชาติของอาหาร นี่คือความรับผิดชอบต่อตัวเอง ขณะเดียวกันก็เป็นการรับผิดชอบต่อครอบครัวของตัวเองด้วย

ส่วนชายชราที่กลายเป็นผีดิบได้ ‘กิน’ คนในโรงพยาบาลไปสิบกว่าคนติดต่อกันเพื่อบำรุงตัวเอง ก็ถือว่าเป็นนักกินแล้ว

เขารู้อย่างลึกซึ้งว่าความแตกต่างของอายุ เพศ และสภาพแวดล้อมของบุคคล สามารถตัดสินความแตกต่างของรสชาติอาหารได้ ชายชราสนใจหวังเคอ ตัวผอมแต่เนื้อเยอะ อายุใกล้วัยกลางคน จึงไม่เลี่ยนมาก กระดูกเติบโตสมบูรณ์ดี เหมาะที่จะกินเป็นอาหารอย่างยิ่ง

นี่คือของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้ ชายชรารู้ดีถึงเคล็ดลับวิธีการปรุงอาหารจานนี้ และนี่เป็นคนสุดท้ายที่เขาจะฆ่า ดังนั้นเขาจึงเตรียมเลี้ยงฉลองให้ตัวเองอย่างอลังการ

เขาเชื่อว่าวิธีนี้ จะทำให้ความโกรธแค้นและความเศร้าโศกที่ตัวเองต้องเจอก่อนตายสงบลงได้ นี่เป็นผลลัพธ์สุดวิเศษของอาหาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล