ตอนที่ 121 ผู้จับกุม
บรรยากาศภายในห้องนอนเย็นเยียบลงทันที ไอเย็นอันน่าสะพรึงเริ่มเติมเต็มที่นี่อย่างช้าๆ
ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่สบายปลิดชีวิตเธอ!
อีกทั้งระหว่างตัวเองกับสาวน้อยโลลิตั้งแต่เริ่มก็อยู่ในโหมดสู้กันเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว และทุกสิ่งก็เกิดขึ้นมาจากตัวของสาวน้อยโลลิเอง
ทำลายเธอ เค้นสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าของเธอออกมา โจวเจ๋อไม่รู้สึกกดดันเลยสักนิด
สาวน้อยโลลิมองโจวเจ๋อ จากนั้นจึงค่อยๆ เอ่ยว่า “เจ้าอยากเป็นผู้จับกุมไหม”
ก่อนที่คนจะตาย มักจะจับฟางเส้นสุดท้ายที่อยู่ข้างกายเอาไว้ตามสัญชาตญาณเพื่อให้ตัวเองมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อ สาวน้อยโลลิที่อยู่ตรงหน้าก็เช่นกัน
เธอรู้ว่าโจวเจ๋ออยากฆ่าเธอ และรู้ว่าโจวเจ๋ออยากได้ผลประโยชน์และสิ่งสุดท้ายที่มีคุณค่าจากเธอ เธอจึงมอบให้เอง
และความโอหังของเธอก่อนหน้านั้น ความกล้าหาญของเธอก่อนหน้านั้น ก็ถูกโจมตีจนย่อยยับหมดสิ้นไปตั้งแต่คืนนั้นตอนที่อยู่ในร้านขายของจิปาถะสำหรับคนตายที่เมืองหรงเฉิง แผลตามตัวของเธอยังไม่ฟื้นฟูกลับมาก็จริง แต่บาดแผลทางจิตใจกลับไม่มีเลย
คืนนั้นเธอคุกเข่าอยู่ตรงมุมหนึ่ง เบิกตาโพลงมองเพื่อนร่วมงานถูกฆ่าตายทีละคน เหมือนกับดอกไม้ไฟที่ถูกจุดในงานมหกรรมทีละอัน ฉากนี้ทำให้การมองโลกของเธอเปลี่ยนไป
ตอนที่ได้ยินคำว่า ‘ผู้จับกุม’ โจวเจ๋อไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด เพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ
ความหมายนอกเหนือจากนี้เหมือนพูดกับสาวน้อยโลลิว่า ‘เชิญเริ่มการแสดงของคุณได้เลย’
ไม่ว่าอย่างไรฟังหรือไม่ฟัง ก็ไม่เสียหาย
“เจ้ารู้ไหมว่าเงื่อนไขขั้นพื้นฐานสองข้อที่จะได้เป็นผู้จับกุมคืออะไร”
โจวเจ๋อไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นเล็กน้อย วางบนจมูกของตัวเองแล้วดมกลิ่น
สาวน้อยโลลิสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธออยากจะสับโจวเจ๋อเป็นชิ้นๆ ให้ได้เสียตอนนี้ แต่ทิศทางของสายลมและสายน้ำกำลังหมุนเปลี่ยน เธอบาดเจ็บสาหัสกลับมาจากเมืองหรงเฉิง รอดตายมาได้นับว่าโชคดีแล้ว เธอในตอนนี้แม้แต่ผีสักตัวก็รับมือไม่ได้
คนถือมีดฉันเป็นเนื้อปลา หลักการง่ายๆ แค่นี้
“การที่จะกลายเป็นผู้จับกุมมีเงื่อนไขสองข้อ ข้อหนึ่งต้องทำผลงานบรรลุเป้า ข้อสองคือมียมทูตอีกสามคนยินดีเป็นลูกน้องของเจ้า ฟังคำสั่งของเจ้า ช่วยให้เจ้าเป็นผู้จับกุม”
โจวเจ๋อยังไม่พูด
“คนที่จะเป็นลูกน้องของเจ้า ต้องมอบวิญญาณของตัวเองเข้ากับบัตรประจำตัวของเจ้า ปล่อยให้เจ้าควบคุมความเป็นความตาย ไม่มีทางทรยศ เมื่อครบเงื่อนไขทั้งสองข้อแล้วก็จะเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุม จากนั้นก็ก้าวต่อไปก็เป็นตำแหน่งผู้ตรวจสอบ”
“คนที่ยอมเป็นลูกน้อง” โจวเจ๋อหัวเราะ “ถ้าหากง่ายขนาดนั้น ยมทูตอย่างพวกคุณไม่สู้กันเองก่อนเหรอ”
ก็เหมือนกับคาถา ‘ทางเดินสู่นรก ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง’ ที่สาวน้อยโลลิร่ายเป็นประจำ ถ้าหากยมทูตอยากเป็นผู้จับกุมจำเป็นต้องผ่านรูปแบบเช่นนี้ หากเอาความเป็นความตายเข้าแลกก็สามารถบังคับให้อีกฝ่ายกลายเป็นลูกน้องของตัวเองได้แล้ว อย่างนั้นในแวดวงของยมทูตไม่กลายเป็นสนามรบของแมลงพิษที่เลี้ยงไว้เหรอ
แต่ในสายตาของโจวเจ๋อ แวดวงของยมทูตจริงๆ แล้วสงบมาก ไม่อย่างนั้นสาวน้อยโลลิคงไม่สามารถเรียกยมทูตมากมายไปเมืองหรงเฉิงด้วยกันได้
“ข้อแรก ระหว่างผู้จับกุมกับยมทูต แตกต่างกันแค่ฐานะ แต่ด้านกำลังไม่ต่างกันเท่าไร มีเพียงเป็นผู้ตรวจสอบแล้วถึงจะได้ครอบครองหนังสือรับรองการแต่งตั้งจากยมโลก ถึงตอนนั้นจึงจะนับว่ามีตำแหน่งเหนือกว่ายมทูตและผู้จับกุมจริงๆ
ข้อสอง ขอเพียงผู้จับกุมที่ตัวเองนับถือได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ตรวจสอบ สัญญาก่อนหน้าเป็นอันโมฆะโดยอัตโนมัติและกลับสู่อิสระดังเดิม
ข้อสาม ตอนนี้เจ้าบังคับข้า ถึงแม้เจ้าจะเป็นยมทูต แต่การที่เจ้าบังคับขู่เข็ญเพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกัน ต้องตกอยู่ในสายตาของยมโลกแน่นอน ยมทูตอีกคนที่เจ้าฆ่ามีปัญหา เท่ากับช่วยแก้ปัญหาให้ยมโลก จึงไม่เป็นไร
แต่เจ้าฆ่าข้า ทางนรกจะต้องบันทึกไว้แน่นอน ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากวันที่เจ้าได้เลื่อนขั้นจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากแน่ กระทั่งถ้าหากเจ้ายังใช้ชีวิตตามอำเภอใจ ยมโลกก็จะออกหมายจับ เหมือนกับคนผู้นั้นที่เมืองหรงเฉิงครั้งนั้น
และด้วยเหตุนี้ ในความสัมพันธ์ของการนับถือบูชายมทูตด้วยกันเอง จึงมีการบังคับและการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันจริง แต่การบังคับด้วยการฆ่ากันเองจนจนมุม ไม่คุ้มค่าเลยหากจะทำแบบนั้น
อยากเป็นผู้จับกุม ก็เพื่อที่จะได้เลื่อนขั้นมีคุณสมบัติเป็นผู้ตรวจสอบ อยากจะหลุดพ้นจากตำแหน่งที่ทำงานใช้แรงงาน และยังสามารถมีป้ายชื่อเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นป้ายที่อยู่ระดับล่างสุดก็ตาม ดังนั้นจึงมีคนบ้าไม่มากนัก ที่ยอมใช้วิธีรุนแรงบังคับยมทูตคนอื่นเพื่อจะกลายเป็นผู้จับกุม”
โจวเจ๋อเหยียดนิ้วก้อยของตัวเองออกมา แล้วแคะหูของตัวเองพลางเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น ถ้าผมฆ่าคุณ ต่อไปก็จะเกิดเรื่องยุ่งยาก”
“แน่นอน”
“ซึ่งหมายความว่า ต่อให้ผมเป็นผู้จับกุมแล้ว แต่เพราะเรื่องในวันนี้ จึงยากที่จะเป็นผู้ตรวจสอบ”
“ใช่แล้ว”
“แล้วทำไมผมไม่ฆ่าคุณโดยตรงเสียเลยล่ะ”
“เจ้าสามารถใช้ผลงานของเจ้า ใช้การกระทำของเจ้า ลบล้างผลกระทบด้านลบที่เจ้าบังคับข้าในวันนี้ และใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ก้าวหน้า ข้าสามารถ…ช่วยเจ้าได้ เพราะวันใดที่เจ้ายังไม่ได้เลื่อนขั้น วันนั้นข้าก็ต้องเป็นลูกน้องของเจ้าเหมือนเดิม ชีวิตตกอยู่ในกำมือของเจ้า”
โจวเจ๋อลุกขึ้นช้าๆ เปิดผ้าม่าน เปิดหน้าต่างที่ยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เดินไปที่ระเบียงแล้วพูดว่า
“ตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก ตอนที่เดินออกมา คุณยืนมองผมจากตรงนี้ ใช่ไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล