ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 127

ตอนที่ 127 ฮ่าๆๆๆ!

ไม่ว่าอารมณ์ของคุณจะดีหรือร้าย มีสิ่งหนึ่งที่ไม่หันเหและเปลี่ยนแปลงไปเพราะความคิดของมนุษย์ นั่นคือเวลา

เวลาหนึ่งวันผ่านไป ช่วงพลบค่ำมาถึงอีกครั้ง โจวเจ๋อกำลังนั่งเล่นปากกาลูกลื่นในมืออยู่บนโซฟา ยังไม่มีข่าวคราวจากสาวน้อยโลลิเลย

โจวเจ๋อไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำแบบขอไปที เพราะความเป็นความตายของอีกฝ่ายขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขา เป็นครั้งแรกที่เขาขอให้เธอเป็นธุระให้ ถ้าเธอกล้าที่จะเสแสร้งแกล้งทำแล้วแอบ ‘ฟิ้ว’ กลับมานอนรักษาบาดแผลต่อให้หายดี อย่างนั้นก็คงต้องยอมให้เธอชนะไป

อันที่จริง คุณคิดว่าอัฐิของชาติก่อนสำคัญแค่ไหน ก็ไม่ได้สำคัญมากเท่าไร กระทั่งหากอัฐิอยู่ในมือของตัวเองแล้วมีคนแนะนำให้โจวเจ๋อเอาอัฐิลอยอังคารลงทะเลหรือแม่น้ำไปเสีย โจวเจ๋อเองก็จะทำอย่างนั้นเช่นกัน

ปล่อยอดีตไปกับสายลม ปล่อยละอองฝุ่นในอดีตกลับคืนไปเป็นผงธุลีดิน โจวเจ๋อจะไม่เป็นเหมือนตัวเอกในละครดราม่า ที่ให้ความสำคัญกับบางสิ่งในอดีตมากกว่าชีวิตของตัวเขาเอง

แต่ปัญหาก็คือ สิ่งของของคุณเอง แล้วยังเป็นสิ่งของที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคุณอีก คุณสามารถทิ้งมันได้ แต่ดันมีคนกล้าขโมยมันไป นี่มันไม่ได้น่ะสิ

นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องสูญเสียผลประโยชน์ แต่มันเป็นความผิดที่หยาบคายโดยตรงอย่างหนึ่ง

บาทหลวงคนนั้น บาทหลวงชาวญี่ปุ่นคนนั้น โจวเจ๋อหวังอย่างมากว่าจะหาเขาเจอเดี๋ยวนั้นเลย จากนั้นจะแทงบาทหลวงด้วยเล็บมือของตัวเอง

ไม่ใช่ว่าเขาอยากได้อัฐิหรอกหรือ

ถ้าอย่างนั้นหลังจากตัวเองฆ่าเขาแล้ว ก็ทำให้เขากลายเป็นอัฐิเสียเลย และหาขี้หมาผสมเข้าไปให้เขาสักหน่อย

สาวน้อยโลลิยังตามหาอยู่อย่างแน่นอน และโจวเจ๋อก็รู้ว่า ในฐานะที่สาวน้อยโลลิเป็นยมทูตอาวุโส รากฐานของสาวน้อยโลลิในทงเฉิงจะต้องลึกล้ำกว่าตัวเขามากอย่างแน่นอน

ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ยินยอมก็ตาม แต่สิ่งเดียวที่โจวเจ๋อสามารถทำได้ในตอนนี้คือกินๆ นอนๆ ในขณะที่รอก็รักษากำลังวังชาของตัวเองไว้ด้วย

นักพรตเฒ่ามองออกว่าวันนี้โจวเจ๋ออารมณ์ไม่ค่อยดีทั้งวัน

เป็นไปไม่ได้ที่คนทั่วไปจะเพลิดเพลินไปกับความโกรธแค้นที่อัฐิของตัวเองถูกขโมย

แต่เถ้าแก่กลับเพลิดเพลินไปกับมันได้

ในเวลานี้ นักพรตเฒ่ายกกาแฟมาหนึ่งแก้ว เขารู้สึกว่าตัวเองควรพูดอะไรบางอย่างเพื่อบรรเทาจิตใจที่หดหู่ของเถ้าแก่ จึงเอ่ยขึ้นทันทีว่า

“เถ้าแก่ จะต้องหาชาวญี่ปุ่นคนนั้นเจอในเร็วๆ นี้แน่นอน โดยทั่วไปแล้วในผลงานภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และนวนิยายของจีน ชาวญี่ปุ่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงสูงเป็นมาตรฐาน ระยะเวลาการเอาชีวิตรอดนั้นสั้นนัก”

โจวเจ๋อไม่ได้มองนักพรตเฒ่า แต่ยกกาแฟขึ้นจิบ

เขาไม่อยากคุยกับนักพรตเฒ่าในตอนที่ตัวเองอารมณ์ไม่ดี เพราะเขากลัวว่าจะมีสิ่งกระตุ้นจนอยากจะแทงนักพรตเฒ่าจนตาย บางที เถ้าแก่คนก่อนของเขาก็อาจจะเกิดแรงกระตุ้นแบบนี้หรือเปล่านะ

ในเวลานี้ถังซือลงมาจากชั้นบน วันนี้เธอสวมชุดเดรสสีดำ

เธอเป็นผู้หญิงเย็นชาที่งดงามมาก และเป็นผู้หญิงที่มีมาตรฐานในการแต่งตัวสูงและมีความประณีตอยู่เสมอ นี่ดูเหมือนจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำอย่างหนึ่งของเธอ โจวเจ๋อจำได้ว่าเมื่อตอนที่เธอเพิ่งฟื้นตื่นขึ้นมาก็ขอให้นักพรตเฒ่าไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เปลี่ยนแล้ว

“ไปดื่มชา”

ถังซือเอ่ยอย่างเย็นชา

“ผมไม่ไป” โจวเจ๋อไม่มีกะจิตกะใจแบบนั้นจริงๆ

ถังซือมองโจวเจ๋อและยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น

เธอไม่ออดอ้อนและไม่อ้อนวอน เธอมีท่าทีที่เย็นชาอยู่เสมอ และด้วยเหตุนี้เมื่อเธอมองมาที่คุณ คุณจะรู้สึกอึดอัดและไม่เป็นตัวเอง

โจวเจ๋อนั้นเป็นคนขี้ใจอ่อนคนหนึ่ง และก็เป็นคนที่ใจดีคนหนึ่งเช่นกัน

เขาทนไม่ได้ที่คนอื่นถูกรังแกและไม่มีความสุข และมักจะคิดเพื่อคนอื่นเอาใจเขามาใส่ใจเราก่อนเสมอ

แน่นอนว่าปากกาลูกลื่นที่เพิ่งจะหลุดจากการควงเล่นของเขากำลังสั่นไหวเล็กน้อย และพร้อมที่จะเจาะหน้าอกของเขาได้ทุกเมื่อ

อืม ลุกขึ้น

“ปะ ไปดื่มชากันเถอะ” โจวเจ๋อพูด

ถังซือละสายตา ผลักประตูร้านและเดินออกไป

“เถ้าแก่ กลางคืนอากาศค่อนข้างเย็น สวมเสื้อเพิ่มอีกหน่อยสิ” นักพรตเฒ่าพูดอย่างกระตือรือร้น

โจวเจ๋อโบกมือส่งสัญญาณว่าตัวเองไม่ต้องการมัน

จากนั้นโจวเจ๋อก็ผลักประตูออกไปเช่นกัน

จากนั้นก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว

เนื่องจากถังซือยืนอยู่ข้างเสาไฟหน้าประตู และไม่ขยับเขยื้อน ไม่เหมือนว่ารอแท็กซี่ที่เรียกมาแล้วด้วย โจวเจ๋อจึงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเธอทำอย่างนี้เพื่ออะไร

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง

ถังซือก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ยืนนิ่งไม่ไหวติง แม้แต่สีหน้าท่าทางก็ไม่เปลี่ยนไปสักนิด โจวเจ๋อเริ่มนั่งยองๆ และหยิบบุหรี่ออกมา

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

ถังซือก็ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ส่วนโจวเจ๋อนั้นนั่งลงตรงขอบถนน มีก้นบุหรี่เกลื่อนใต้ฝ่าเท้าของเขาเต็มไปหมดแล้ว

มองไปที่ประตูร้านหนังสือที่อยู่ห่างจากตัวเองไปไม่ถึงสองเมตร

โจวเจ๋ออยากจะหยิบค้อนมาเปิดสมองหญิงสาวคนนี้เหลือเกิน แล้วถามว่าในสมองของเธอกำลังคิดอะไรอยู่

คุณอยู่ห่างจากประตูไม่ถึงสองเมตรและยืนรอนานมาก ทำไมถึงไม่ไปนั่งรอในร้านหนังสือล่ะ

ภายในร้าน นักพรตเฒ่าและไป๋อิงอิง รวมไปถึงสวี่ชิงหล่างเดินผ่านไปเป็นครั้งคราว มองดูเถ้าแก่ยังคงนั่งอยู่ข้างนอก พอมองอีกครั้งก็ยังคงนั่งอยู่ข้างนอกเหมือนเดิม

โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง

อยู่ดีๆ ก็มีภาพมายาว่าชีวิตคนเราช่างยากเย็นนัก

ในที่สุดรถยี่ห้อโรวี่คันสีขาวก็แล่นมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านหนังสือ

มาแล้วเหรอ

คู่ดื่มชาใช่ไหม

เนื่องจากโจวเจ๋อเห็นถังซือเคลื่อนไหวและได้เดินไปข้างหน้าแล้ว

โจวเจ๋อจึงลุกขึ้นยืน มองดูประตูรถเปิดออก พลางคิดว่าจะให้กลุ่มพนักงานในร้านที่มองตัวเองอย่างตลกขบขันพวกนั้นใส่ชุดบิกินี่ ถือลูกบอลหลากสี แล้วไขว้ขาตะโกนสองสามครั้งว่า ‘ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับอย่างยิ่ง…’ ดีไหม

แต่ดูเหมือนว่านอกจากไป๋อิงอิงที่ดูได้แล้ว อีกสองคนนั้น…ไม่สิ นอกจากนักพรตเฒ่าแล้วอีกสองคนใส่แบบนี้ยังพอดูดีและเย้ายวนสายตามาก

แต่ต่อมาโจวเจ๋อก็ชะงักไป มีเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ในรถ ก็คือคนขับรถ แต่เมื่อคนขับลงจากรถกลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาปล่อยตัวเต็มเกินไป

รอยคล้ำหนารอบดวงตา ควบคู่ไปกับท่าทีที่คึกคักแบบนั้น ทำให้ผู้คนคิดได้ง่ายๆ ว่าผู้ชายคนนี้เสพยาแล้วขับรถหรือไม่

“ฮ่าๆๆๆ…”

เมื่อคนขับลงจากรถ ก็เอามือกุมท้องตัวเองและหัวเราะ

หัวเราะออกมาเหมือนเสียงหมู

โจวเจ๋อเดินเข้ามาใกล้เขา แล้วก้มหน้ามองเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล