ตอนที่ 130 ดูเหมือนบทละครจะผิดไป
ไป๋อิงอิงกลับมาพร้อมกับหอบผ้าปูที่นอนที่เพิ่งซักเสร็จมาด้วย เสื้อผ้าทั้งหมดตาก บนชั้นสอง แน่นอนว่าไป๋อิงอิงซักผ้าด้วยความรวดเร็วมากจริงๆ แต่ไม่ได้ทำลวกๆ อย่างแน่นอน
นางรู้ดีว่าในแง่สุขอนามัยของครอบครัว เถ้าแก่ของตัวเองนั้นแทบจะเป็น โรคย้ำคิดย้ำทำอย่างรุนแรง
พูดง่ายๆ เลยก็คือมันยากมากกับการปรนนิบัติรับใช้
บางครั้งไป๋อิงอิงก็ติติงอยู่ในใจเช่นกัน
ชาติที่แล้วเถ้าแก่ของตัวเองเป็นเด็กกำพร้าถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ใช่ว่าจะไร้เหตุผลเสียทีเดียว มีความเป็นไปได้สูงมากที่ เขาไม่กินถ้าจุกนม ไม่ได้ฆ่าเชื้อก่อน ไม่นอนถ้าผ้าปูที่นอนที่ไม่ผ่านการซักจนสะอาด ไม่ให้พ่อแม่สัมผัสถ้าไม่ล้างมือ จากนั้นพ่อแม่ก็ทนไม่ไหว ถึงได้ทอดทิ้งเขาไป
แน่นอนว่า ถ้อยคำติติงแบบนี้ไป๋อิงอิงกล้าบ่นในใจเพียงเท่านั้น ไม่กล้าพูดออกมาอย่างเด็ดขาด
นางยังต้องทำสีหน้า ท่าทางพร้อมรับการสั่งสอน ทุกครั้ง แล้ว จูงมือเถ้าแก่ไปสู่สรวงสวรรค์แห่งความสะอาดด้วยกัน แถมยังต้องแสดงท่าทีเข้าอกเข้าใจออกมาจากจิตวิญญาณและยินยอมรับความลำบากหรือความทุกข์ด้วยนะ
ความใน ใจก็มีเพียงเท่านี้
‘หากสวรรค์ไม่ ให้กำเนิดข้าไป๋อิงอิง เช่นนั้นเวลาที่ยาวนานล้วนแล้วแต่เป็นเส้นทางที่น่าหวาดกลัว ดั่งค่ำคืนที่เนิ่นนาน’
โจวเจ๋อยืนสูบบุหรี่ริมหน้าต่าง เขาอ่านกระทู้ นั้นแล้ว อันที่จริงมันให้ข้อมูล มากมายเหมือนกัน
ตำบลซิ่งเหริน
ร้านซักแห้ง
ตำแหน่งน่าจะอยู่ที่นั่ น
กระทั่ง โจวเจ๋อ ยังเห็นข้อมูลมากมายที่ไม่อยู่ในกระทู้ เพราะเขาเป็นยมทูต ไม่ใช่คนที่มุทะลุแบบก่อนหน้านี้อีกแล้ว เขา เริ่มเข้าสู่วงการและคุ้นเคยกับงาน อย่างช้าๆ แล้ว
ผีเกิดมาจากคน และคนก็ต้องกลายเป็นผี แต่คนกับผีมีเส้นทางต่างกัน และมีเส้นแบ่งที่ขวางกั้น พวกเขาออกจากกัน
โลกมนุษย์และนรก ดำรงอยู่ร่วมกันและเป็นปฏิ ปักษ์ต่อกัน
คนแบบไหนกันถึงได้เห็นผีง่ายๆ แบบนั้น
คนที่เคยประสบกับเรื่องพิเศษ นั้นเป็น จำพวกหนึ่ง
และยังมีอีกจำพวกหนึ่งใหญ่ๆ ก็คนที่ใกล้จะเสียชีวิต แต่ยังไม่ถึงเวลาตาย เหมือนกับจำนวนเงินในโทรศัพท์ของคุณเหลือไม่มากแล้ว หมายเลข 10086 ก็จะส่งข้อความแจ้งเตือนคุณไม่หยุด
ถึงเวลาแล้ว คุณควรจะไปได้แล้ว
ในตอนนั้นแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีชีวิตก็ตาม แต่กำลังจะกลายเป็นคนตาย และกลิ่นอายความตายที่อยู่ตามตัวก็จะเริ่มทวีหนักขึ้น
การเพิ่มทวีคูณแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะ ไม่สบายหรือป่วยหนักเพียงอย่างเดียว อาจจะหมายความว่าคุณกำลังจะประสบกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง อาจจะเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาจจะสำลักตายขณะดื่มน้ำหรือกินข้าวก็ได้
อย่างไรก็ตาม คุณใกล้จะตายแล้ว
จากนั้นเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะเห็นผี รัศมีระหว่างกันและกันเริ่มเปลี่ยนจากการต่อต้านเป็นการหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ประกอบกับ ที่เจ้าของกระทู้คนนี้ ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีข่าวคราวใดๆ อีกหลังจาก ปี 2009 ก็น่าจะเดาได้ว่าเจ้าของกระทู้ อาจจะตายไปแล้วจริงๆ
แต่การบรรยายเกี่ยวกับหมู่บ้านซานเซียงรวมไปถึงประสบการณ์ของตัวเขาเองได้บันทึกเอาไว้แล้ว บวก กับคำพูดของเด็กสาวที่มาโพสต์ตอบด้าน ล่าง อันที่จริง ได้สรุปเค้าโครงของเรื่องหายนะทั้งหมดนี้ออกมาแล้ว
เป็นหมู่บ้านที่ถูกสังหารในปีที่กองทัพญี่ปุ่นบุกทงเฉิง
แปดสิบปีให้หลัง ผู้คนในหมู่บ้านนั้น ไม่สิ วิญญาณทั้งหมู่บ้านยังคง ถูกขังอยู่ในพื้นที่ ไม่สามารถไปเกิดใหม่และเวียนว่ายตายเกิดได้
พวกเขาไม่ได้กลายเป็นผีร้าย หากพวกเขากลายเป็นผีร้าย ประกอบกับที่ดองอยู่ตั้งแปดสิบ ปี ตอนที่เจ้าของกระทู้ เข้าไปครั้งแรกก็น่าจะจบเห่ไปแล้ว และอาจจะออกไปไม่ได้อีกด้วย
อีกทั้งสาวน้อยยังคงไร้เดียงสา ราวกับว่าเพิ่งเสียชีวิตเสียอย่างนั้น
สรุปแล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้หมู่บ้านที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเช่นนี้ปรากฏขึ้นกันล่ะ
ไป๋อิงอิงตากผ้าเสร็จแล้ว ก็นั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์อย่างลับๆ ล่อๆ เด็กสาวที่ติดอินเทอร์เน็ตกำลังประเมินโจวเจ๋ออยู่ ขณะเดียวกัน ก็คิดว่าจะแอบเล่นเกมสักหน่อย สายตาจับจ้องไปที่หน้าจอ และอ่านเรื่องเล่านั้นอย่างเป็นธรรมชาติไปรอบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นทันที
“เถ้าแก่ นี่ไม่ใช่ ‘บันทึกธารดอกท้อ’ หรอกหรือ”
โจวเจ๋อพยักหน้า
ใช่แล้ว นี่เป็น ‘บันทึกธารดอกท้อ’ ฉบับตีพิมพ์ใหม่
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้คนมักเข้าใจว่า ‘บันทึกธารดอกท้อ’ งานเขียนของเถายวนหมิงเป็นดินแดนในอุดมคติแห่งหนึ่ง เสมอมา แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องราวที่ดูสวยงามนี้เต็มไปด้วยความแปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัว
หากคุณลองมองจากอีกแง่มุมหนึ่ง ‘บันทึกธารดอกท้อ’ เป็นเรื่องผีล้วนๆ เป็นเรื่องราวของชาวประมงที่หลงเข้าไปในหมู่บ้านผี เหมือนกับเจ้าของกระทู้ เลย
สิบนิ้วเขย่าเบาๆ ที่ริมหน้าต่าง ที่แห่งนี้เป็นที่ที่ตัวเขา ต้องไปดู
ไม่ต้องพูดถึงสิ่งล่อใจที่ว่าถ้าสามารถส่งวิญญาณ ทั้งหมดในหมู่บ้านแห่งนั้นลงนรกได้ ตัวเขา ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นพนักงานประจำได้ เพียงแค่คิดว่าเป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน ก็เพียงพอให้ โจวเจ๋อ พยายามลงมือช่วยเหลือแล้ว
เมื่อแปดสิบปีที่แล้วตอนที่ประเทศชาติตกต่ำ พวกเขากลายเป็นวิญญาณที่น่าเวทนาภายใต้คมมีดของผู้รุกราน พวกเขาทนทุกข์ทรมานมาแปดสิบปี ถึงเวลา ที่ควรจะเป็นอิสระแล้ว
โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาสวี่ชิงหล่าง
แต่ทางนั้น กลับ แจ้งว่า ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ให้บริการ นี่ทำให้โจวเจ๋อประหลาดใจเล็กน้อย ตอนนี้สวี่ชิงหล่างไม่ได้อยู่ที่ห้องสมุดท้องถิ่นหรอกเหรอ สัญญาณโทรศัพท์มือถือของที่นั่นแย่ขนาดนั้นเชียวเหรอ
ผ่านไปสักพัก โจวเจ๋อโทรไปอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้ โจวเจ๋อไม่คิดที่จะรีรออีกต่อไป เขาส่งสัญญาณให้ไป๋อิงอิงเฝ้าร้าน ส่วนตัวเองพานักพรตเฒ่านั่งแท็กซี่ไปตำบลซิ่งเหริน
เหตุผลที่พานักพรตเฒ่ามาด้วยนั้นง่ายมาก อย่างแรกความสามารถในการดูแลดวงวิญญาณของนักพรตเฒ่านั้นไม่แกร่งพอ นอกจาก ควานหาเป้ากางเกง โดยทั่วไปแล้วไม่มีกำลังพอที่จะควบคุมดวงวิญญาณ จำเป็นต้องให้ไป๋อิงอิงเฝ้าดวงวิญญาณของเด็กสาวคนนั้นไว้
อย่างที่สองคือเจ้าลิงน้อยกับนักพรตเฒ่าเข้ากันได้ดี และในครั้งนี้ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าสัตว์ตัวนี้เพื่อหา ทางเข้าที่เจ้าของกระทู้ คนนั้นเข้าไปในหมู่บ้านซานเซียง
เมื่อคิดได้ดังนี้
สายตาของโจวเจ๋อก็จับจ้องไปที่เจ้าลิงน้อย ทันใดนั้นเจ้าลิงน้อยที่นอนอยู่บนเข่าของนักพรตเฒ่าก็เงยหน้าขึ้นแยกเขี้ยวยิงฟันใส่โจวเจ๋อ
ฮั่นแน่
เข้าใจความคิดในใจของฉันใช่ไหม หรือแค่รู้สึกว่าฉันกำลังดุด่าแกเฉยๆ กันล่ะ
โจวเจ๋อเอื้อมมือออกไปจับหางของเจ้าลิงน้อย โดย เลี่ยงสายตาคนขับที่อยู่ข้างหน้า พลางจ้องไปที่เจ้าลิงน้อย
ดูเหมือนโตขึ้นมานิดหน่อย และหนักกว่าเดิมด้วย เหอะๆ ความกล้าก็มากขึ้นด้วยสินะ
เจ้าลิงน้อยบิดตัวด้วยความไม่พอใจอย่างมาก มันยังเหม็นขี้หน้าโจวเจ๋ออยู่บ้าง ดังนั้นปกติแล้วเมื่ออยู่ที่ร้านหนังสือมันจะเอาแต่เล่นกับนักพรตเฒ่า ลึกๆ ในกระดูกมันยังคง หวาดกลัวและ หวาดระแวงโจวเจ๋ออยู่
ถึงอย่างไรก็เห็นอยู่ทนโท่ว่าชาติก่อนของเจ้าลิงน้อยถูกโจวเจ๋อใช้เล็บแทงจนตาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล