ตอนที่ 131 ออกจากกรง
ความเป็นไปของเรื่องราว ดูเหมือนจะค่อยๆ เบี่ยงเบนไปในทิศทางที่ไม่สามารถควบคุมได้ อย่างน้อยๆ โจวเจ๋อก็ไม่ได้เตรียมใจกับเรื่องนี้ในตอนแรก
สภาพของสาวน้อยและการแสดงออกทั้งหมดตอนเดินเข้าไปในร้านหนังสือของตัวเอง ทำให้โจวเจ๋อคาดคิดไม่ถึงว่าคนในหมู่บ้านนี้ ไม่สิ ผีในหมู่บ้านนี้จะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
เห็นๆ กันอยู่ว่าตัวเองมาช่วยขจัดความทุกข์ให้พวกเขาและช่วยเหลือพวกเขา
แต่ตอนนี้พวกเขากลับมองตัวเองเป็นอาหารชัดๆ
คุณปู่ยิ่งแก่ยิ่งแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่วราวกับสายลม ยามชูจอบขึ้นมา มีแม้กระทั่งกลิ่นอายความดุร้ายของหนุ่มขวานซิ่งเฉินเหย่าจิน
ส่วนสาวน้อยคนนั้นผมเปียลอยเด้งขึ้นมา เผยใบหน้าดุร้าย รวดเร็วฉับพลัน กรีดร้องอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่เป็นการแสดงออกของผีร้าย ดวงวิญญาณธรรมดาไม่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้
ในตอนนี้
คนแก่จะกระโจนใส่โจวเจ๋อ ส่วนเด็กนั้นจะกระโจนใส่เจ้าลิง
เจ้าลิงชูค้อนของเล่นพลาสติกของตัวเองก่อน แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าผีร้ายดูโหดร้ายน่ากลัว มันจึงรีบเข้ามายืนอยู่ด้านหลังโจวเจ๋อทันที
นี่เป็นความเชื่อถือจากใจ มันแทบจะกลายเป็นบรรยากาศในร้านหนังสือไปแล้ว และแม้แต่สัตว์ก็ติดเชื้อไปด้วย
ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้เจ้าลิงมีท่าทีรังเกียจและไม่แยแสโจวเจ๋อ แต่ในช่วงเวลานี้มันตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าจะไม่ติดใจเอาความเรื่องราวในอดีตแล้ว
แม้ว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนไป ราวกับหยิบบทละครมาผิดเรื่อง แต่โจวเจ๋อก็ไม่ถึงกับถูกผีร้ายทั้งสองทำให้กลัวจนสติเตลิดขนาดนั้น
ทันใดนั้น เขาก้าวไปข้างหน้า เล็บมือทั้งสองข้างงอกยาวออกมา ปรากฏกลุ่มหมอกควันสีดำอยู่โดยรอบ
ทุกวันนี้ เพราะการเข้าสู่สภาวะผีดิบบาดเจ็บสาหัสมาสองครั้งสองครา โจวเจ๋อรู้สึกว่าการใช้งานเล็บของตัวเองรวมไปถึงพลังที่มาพร้อมกันดูคล่องไปเสียทุกอย่าง
เทียบกับการต่อสู้ในครั้งแรกแล้ว เหมือนหญิงดุร้ายที่ตะไบเล็บจนมันดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว
‘พลั่ก!’
‘พลั่ก!’
เมื่อหมอกสีดำประทะร่างของคุณปู่และสาวน้อย การเคลื่อนไหวของทั้งสองดูเหมือนว่าเป็นการกดปุ่มลดความเร็วเสียอย่างนั้น ส่วนโจวเจ๋อกลับเดินก้าวเข้าไปอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสองอย่างเบาหวิว
เสื้อผ้าพลิ้วไหว เดินปล่อยอารมณ์ไปตามลานว่าง สองมือค่อยๆ วางลงมาที่ศีรษะของพวกเขาอย่างช้าๆ ราวกับเทพเซียนสัมผัสศีรษะ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม
ในเวลานี้ สิ่งเดียวที่เสียใจน่าจะเป็นเพราะนักพรตเฒ่าไม่ได้เข้ามาด้วย ไม่เช่นนั้นนักพรตเฒ่าผู้แนบชิดสนิทเหมือนแฟนคงจะแชะรูปช็อตนี้เก็บไว้ชื่นชมในภายหลังอย่างแน่นอน
จากนั้นตัวเขาเองก็จะสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ แสดงถึงความไม่มีค่าพอที่จะชายตามองให้เปลืองตา
ความหมายแฝงก็คือ นี่เป็นแค่การควบคุมขั้นพื้นฐาน นั่งลงเสีย
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เล็บของโจวเจ๋อเพิ่งจะเจาะหัวของปู่หลานคู่นี้และกำลังจะประกาศจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่างจู่ๆ ร่างของคุณปู่และสาวน้อยก็บิดเบี้ยวและอันตรธานหายไปในที่สุด
ความเร็วเช่นนี้ แม้แต่ ‘ฟิ้ว’ ของสาวน้อยโลลิก็ยังช้ากว่าพวกเขานัก!
มือทั้งสองข้างของโจวเจ๋อยังลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ ตัวเองโพสท่าไว้เรียบร้อย แต่คนที่จะมาร่วมแสดงด้วยกลับหนีไปแล้ว ทำให้รู้สึกเก้อเขินอยู่นิดหน่อย
เมื่อเอามือลงและหันตัวกลับมา โจวเจ๋อก็งงงันเมื่อพบว่าร่างของปู่หลานปรากฏขึ้นอีกครั้งบนถนนที่ไกลออกไป
คุณปู่กำลังแบกจอบและจูงมือหลานสาวอยู่
ดูเหมือนว่าคนแก่และเด็กเพิ่งจะกลับมาจากทุ่งนา มีกลิ่นอายของความสุขและความอิ่มอกอิ่มใจอย่างหนึ่ง เหมือนกันกับ ‘คนแก่และเด็กมีความสุขและสนุกสนาน’ ที่บันทึกไว้ใน ‘บันทึกธารดอกท้อ’
เจ้าลิงน้อยก็งุนงงเล็กน้อยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าสมองของลิงจะเสริมเพิ่มแค่ไหนก็ไม่เข้าใจฉากนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
คนแก่และเด็กเดินเข้ามาอีกครั้ง คุณปู่มองโจวเจ๋อและถามขึ้นอย่างสงสัย
“พ่อหนุ่ม คุณมาจากที่ไหนหรือ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” โจวเจ๋อยักไหล่
แม่งเอ๊ย คราวนี้ไม่รู้จริงๆ แล้ว
“หลงทางหรือ” คุณปู่ใจดี
“ประมาณนั้นแหละมั้งครับ” โจวเจ๋อถอนหายใจ
“ที่นี่คือหมู่บ้านซานเซียง อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก คุณเดินตามถนนสายนี้ไปทางใต้ ก็สามารถเข้าตัวเมืองได้แล้ว” คุณปู่จิตใจดีช่วยชี้ทางให้
สาวน้อยกำลังเล่นกับน้ำตาลปั้นรูปคนที่อยู่ในมือของตัวเอง ร่างดูผอมกะหร่องไปบ้าง แต่ก็ยังน่ารักและไร้เดียงสาเหมือนเดิม
ภาพลักษณ์ของปู่หลานคู่นี้กับภาพลักษณ์ที่จะเขมือบคนเมื่อกี้นี้ช่างต่างกันสุดขั้ว
“ครับผม เข้าใจแล้ว” โจวเจ๋อพยักหน้า
จากนั้นปู่หลานคู่นี้ก็พูดคุยและหัวเราะร่าพากันเดินเข้าไปในหมู่บ้าน
โจวเจ๋อแหงนมองท้องฟ้า ก่อนหน้านี้ไม่เคยสังเกตมาก่อน แต่ตอนนี้สังเกตเห็นแล้วว่าดวงจันทร์บนท้องฟ้าดูเหมือนจะมีแสงสีเลือดตรงขอบเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล