ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 141

ตอนที่ 141 คำสั่งเสีย

‘แอ๊ด…’

เมื่อผลักประตูหอพักที่ปิดอยู่ออก นักพรตเฒ่าเอาหัวยื่นเข้ามา

“เถ้าแก่”

แต่ทว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลยสักคน นี่เป็นหอพักของหวังเป่ากัง เมื่อชายที่ตัดผมทรงทหารกลับเข้ามาที่สำนักงานจัดการดูแลหอพัก นักพรตเฒ่าถามเขาว่าโจวเจ๋อไปที่ไหน และอีกฝ่ายก็ตอบว่าโจวเจ๋ออยู่ที่นี่

แต่แล้วคนล่ะ

นักพรตเฒ่าเกาหัวแกรกๆ เป็นไปไม่ได้ที่เถ้าแก่จะไม่ทักทายเขาแล้วออกไปเลย หรือว่าจะขึ้นไปข้างบนแล้วนะ

นักพรตเฒ่าเริ่มเดินขึ้นบันไดไป อันที่จริงมีคนพักในอาคารหอพักแห่งนี้เยอะมากทีเดียว ที่นี่มีทั้งหมดหกชั้น และในแต่ละชั้นก็มีหอพักตั้งสามสิบสี่สิบห้อง แถมในแต่ละห้องยังยัดนักเรียนเข้าไปตั้งแปดคน นับๆ ดูแล้วในนี้มีกี่คนกันล่ะ

แต่ในช่วงกลางคืนนั้น สภาพแวดล้อมของที่นี่ชื้นมาก และทางเดินก็แทบจะไร้สุ้มเสียง มันทำให้คนรู้สึกหวาดผวา ต้องบอกว่านี่เป็นความขัดแย้งที่แปลกประหลาดมากอย่างหนึ่งเช่นกัน

เห็นๆ กันอยู่ว่าอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนมากมาย แต่คุณก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี

และคืนนี้ก็ดูเหมือนว่าความรู้สึกนี้จะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก

ทันทีที่นักพรตเฒ่าขึ้นไปชั้นบนก็เห็นนักเรียนคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าเขา นักเรียนสวมเสื้อสเวตเตอร์สีเหลือง ถืออะไรสักอย่างที่คล้ายกับกระดานวาดภาพไว้ในมือ และจ้องมาที่เขานิ่งๆ

“มองอะไร รีบกลับไปนอนได้แล้ว!”

นักพรตเฒ่าดุ ราวกับว่าครูผู้ดูแลหอพักเข้าสิงตัวเองเสียอย่างนั้น

นักเรียนพยักหน้า ก่อนจะหันกลับและเดินหายเข้าไปในกำแพงตรงทางเข้าบันได

“เอ่อ…”

นักพรตเฒ่าอ้าปากพะงาบๆ

แม่งเอ๊ย นี่มันเป็นโรงเรียนหรือแดนผีสิงกันแน่วะเนี่ย

งานของครูผู้ดูแลหอพักนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนควรทำจริงๆ สรุปว่ามันเป็นการดูแลนักเรียนหรือกำลังเล่นเกมวิ่งหนีผีกันแน่

มือของนักพรตเฒ่าล้วงเข้าไปหยิบเอายันต์สีเหลืองออกมาจากเป้ากางเกง ก่อนจะวางไว้ตรงปลายจมูกและสูดดม กลิ่นหอมของยันต์บรรพบุรุษทำให้เขารู้สึกปลอดภัยอย่างมาก

วินาทีต่อมา นักพรตเฒ่าก็ไม่ได้รีบร้อนขยับตัวมั่วซั่วไปไหน แต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมจะโทรหาเถ้าแก่

เถ้าแก่ ข้าเจอผีที่เจ้ากำลังตามหาอย่างยากลำบากแล้ว!

เพียงแต่ หลังจากที่กดโทรออกกลับปรากฏว่าไม่มีสัญญาณ

แม่จ๋า แย่แล้วจ้า

นักพรตเฒ่าถอยหลังกลับอย่างช้าๆ จากนั้นก็เตรียมจะตะโกน ในเวลานี้ไม่สนแล้วว่าจะรบกวนการนอนหลับของเหล่าดอกไม้แห่งมาตุภูมิหรือไม่ และไม่มีเวลามาห่วงเรื่องรักษาหน้าตาของตัวเองแล้ว เมื่อโจวเจ๋อไม่อยู่ข้างๆ นักพรตเฒ่ารู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก

เพียงแต่ตอนที่นักพรตเฒ่ากำลังจะเริ่มแหกปาก ยังไม่ทันได้ส่งเสียงออกมาเลย กลับรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอของเขา ทั้งตะโกนไม่ออกและเกือบจะหายใจไม่ทันอีกต่างหาก

ทันใดนั้นเหงื่อก็เริ่มผุดขึ้นเต็มหน้าผากของนักพรตเฒ่า เขารู้ดีว่าเป็นผีตนนั้นที่จ้องมองมาที่เขา

เชี่ย

จะรังแกผู้เล่นแรงค์บรอนซ์[1]ไปเพื่ออะไร ถ้ามีฝีมือนักก็ไปหาแรงค์กลอเรียส รูลเลอร์[2]นู่น!

นักพรตเฒ่ากล่าวทักทายบรรพบุรุษสตรีทั้งสิบแปดรุ่นของผีที่รังแกข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่าอยู่ในใจไปหนึ่งรอบ หลังจากนั้นก็หันหลังกลับเตรียมจะลงบันไดอย่างไม่ลังเล

ไม่กล้าหือ ไม่กล้าอือ แต่ข้าซ่อนตัวได้!

ใครจะไปรู้ ทันทีที่นักพรตเฒ่าลงบันไดไปกลับเห็นขั้นบันไดที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าบิดเบี้ยวและสูงต่ำต่างระดับไม่เท่ากันขึ้นมา นักพรตเฒ่าลื่นไถลล้มคะมำลงไป โชคดีที่ทักษะเขาดี ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นผู้สูงอายุคนอื่นล้มไปแบบนี้มีหวังเตรียมจัดงานศพได้เลย

แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ นักพรตเฒ่าก็ล้มคะมำจนใบหน้าฟกช้ำดำเขียวอยู่ดี

เมื่อเขาพยายามที่จะลุกขึ้นยืนนั้น กลับเห็นเด็กหนุ่มสวมเสื้อสเวตเตอร์สีเหลืองที่ถือกระดานวาดภาพในมือยืนอยู่ข้างหน้าเขาเหมือนเดิม

เด็กคนนั้นกำลังมองเขาอยู่ และในขณะเดียวกันปากกาในมือของเขาดูเหมือนจะวาดอะไรบางอย่างบนกระดานวาดภาพ

กระต่ายตกใจร้อนรนยังกัดคนได้เลย นักพรตเฒ่ารีบกระโจนพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับยันต์ในมือ อย่างมากสุดก็แค่สู้กันจนพังไปทั้งสองฝ่ายละวะ!

แต่ทว่าบันไดที่ก่อนหน้านี้ลงไปไม่ได้ ตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นขึ้นไม่ได้อีกต่างหาก นักพรตเฒ่ายังคงวิ่งอยู่ตรงบันไดไม่หยุด แต่ระยะห่างจากเด็กหนุ่มกลับยังคงไว้ที่ประมาณสองเมตรตลอด ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใกล้ได้เลย

นักพรตเฒ่าตัดสินใจกระโดดลอยขึ้นไปทั้งอย่างนั้น และสะบัดยันต์ในมือออกไป

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาว่างเปล่า เขายกมือขึ้น และทันใดนั้นปากกาในมือก็จิ้มออกไป ปากกาเปลี่ยนเป็นสีหมึกเข้ม เพียงชั่วพริบตาก็ย้อมยันต์สีเหลืองสดเป็นสีดำทันที

เมื่อนักพรตเฒ่าเห็นฉากนี้ก็สิ้นหวัง ยันต์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของเขาถูกผีตนนี้กำจัดหมดสิ้นไปอย่างง่ายดาย

จบแล้ว จบสิ้นแล้ว!

นักพรตเฒ่าที่กระโดดขึ้นมาเมื่อครู่ตกลงมาบนบันไดอย่างแรง ทั้งตัวลื่นลงไป เกิดเสียงดัง ‘ตุ้บตั้บ’

เด็กหนุ่มเดินลงมาช้าๆ นักพรตเฒ่าพยายามเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เขาอย่างต่อเนื่อง

และในเวลานี้เอง เสียงที่ไพเราะและวิเศษที่สุดในโลก และเป็นเสียงที่ทำให้นักพรตเฒ่าน้ำตาปริ่มที่สุดในตอนนี้ก็ดังขึ้นมา

“อ้อ คุณอยู่ที่นี่นี่เอง”

เสียงเถ้าแก่โจวดังขึ้นมา

ทันใดนั้นหัวใจของนักพรตเฒ่าก็เต็มไปด้วยความหวังอันท่วมท้น!

เด็กหนุ่มหันไปด้านข้าง เมื่อเห็นโจวเจ๋อที่อยู่ด้านหลัง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับว่ารู้สึกจนปัญญา และก็ดูเหมือนจะปวดหัวด้วยเล็กน้อย

ต่อมาเด็กหนุ่มก็เริ่มเดินไปทางผนัง ตั้งใจจะซ่อนตัวอีกครั้ง ดูเหมือนเขาไม่สนใจที่จะประมือกับโจวเจ๋อเลยแม้แต่น้อย เขารู้ดีว่าชายคนนี้ที่วันนี้เดินเข้ามาในตึกเป็นครั้งแรก รับมือยากแค่ไหน

แต่โจวเจ๋อไหนเลยจะยอมปล่อยให้เขาเดินออกไปได้ง่ายๆ กันล่ะ โจวเจ๋อฝังเล็บเข้าไปในผนังทันที และก้าวถอยหลังพร้อมกับออกแรงกระชากแขนไปด้านหลัง!

‘ตุ้บ!’

เด็กหนุ่มถูกกระชากออกมาและหล่นลงบนบันใด ทั้งกระดานวาดภาพและปากกาปลิวกระจัดกระจายลงบนพื้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล