ตอนที่ 171 ร้านหนังสือไม่เอาถ่านแห่งหนึ่ง
เช้าวันรุ่งขึ้น โจวเจ๋อยังนั่งอ่านข่าวภาคค่ำแยงซีบนโซฟาข้างหน้าต่างกระจกของร้านหนังสือตามปกติ พร้อมกับมีกาแฟหนึ่งถ้วยและเค้กชิ้นเล็กๆ วางอยู่ตรงหน้า
ชีวิตของเถ้าแก่โจวนั้นแสนจะสบาย ทำตัวไร้ประโยชน์ ไม่มีความกระตือรือร้นสักเท่าไร ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเสียเปล่า ใช้ชีวิตไปวันๆ แค่พอให้เอาตัวรอดได้
ตอนแรกสวี่ชิงหล่างก็เคยวิจารณ์โจวเจ๋อที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างนี้ มันดูไม่มีอนาคต ดูไม่เอาถ่าน ง่ายๆ คือชีวิตใหม่สูญเปล่า และที่สำคัญที่สุดคือทำให้ ‘เล็บมือทองคำ’ สูญเปล่าไปด้วย
จากนั้น…
จากนั้นสวี่ชิงหล่างก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงเถ้าแก่โจวได้ ยังคงใช้ชีวิตอย่างหงอยเหงาเศร้าซึมต่อไป กลับกลายเป็นตัวเขาเองที่กลมกลืนไปกับเถ้าแก่โจวเสียอย่างนั้น
เดิมทีคนคนหนึ่งแม้ว่าจะมีห้องชุดตั้งยี่สิบกว่าห้อง แต่กลับยังทำกิจการเปิดร้านบะหมี่ด้วยตัวเอง เป็นทายาทรุ่นที่สองที่ไม่ยอมสูญเสียเป้าหมายในการต่อสู้ชีวิต ดันถูกเถ้าแก่โจวชักจูงอย่างช้าๆ จนกลายเป็นคนไม่เอาถ่านที่เริ่มดูแลผิวพรรณและรู้จักดูแลตัวเองไปอีกคน
อันที่จริง โจวเจ๋อรู้สึกว่าชีวิตของเขาในตอนนี้ค่อนข้างดีทีเดียว มีหนังสือนิยายมากมายในร้านหนังสือ มีเรื่องที่เกี่ยวกับการเกิดใหม่ไม่น้อย แต่ละคนหลังจากกลับไปเกิดใหม่ดูขุ่นเคืองเคียดแค้นฝังลึก หรือไม่ก็เป็นเจ้าแผ่นดินประกาศศักดา หรือไม่ก็ยิ้มเย้ยใต้หล้า
นักพรตเฒ่าไม่มีอะไรทำก็พลิกเปิดหนังสือเหล่านี้อ่าน จากนั้นก็มักจะพูดว่าเถ้าแก่ต่างจากคนในหนังสือ
แต่ทว่านักพรตเฒ่าก็ปล่อยวางได้เอง หนังสือน่ะนะ แน่นอนว่าต้องปลอมอยู่แล้ว แถมตัวเอกในหนังสือถ้ายังเอาแต่อาบแดดไปวันๆ เหมือนกับเถ้าแก่ของตัวเองแบบนี้ ยังจะมีใครอ่านอีก
นักอ่านจะวิ่งโร่เข้ามาดูคุณอาบแดด อาบแดด แล้วก็อาบแดด ยังคงอาบแดดไปเรื่อยๆ ทุกวันน่ะเหรอ
บาทหลวงสวมชุดสไปเดอร์แมนทำความสะอาด เขาทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง เก็บทุกรายละเอียด สำหรับคำสั่งของโจวเจ๋อนั้น เขามักจะดำเนินการโดยไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
ไป๋อิงอิงบังเอิญโชคดีอยู่บ้าง โชคดีที่ ‘เพื่อนในสายงานเดียวกัน’ คนนี้เป็นผู้ชาย ไม่อย่างนั้นนางคงต้องเผชิญหน้ากับการแก่งแย่งชิงดี
หลังจากนักพรตเฒ่าผ่านการลังเลในตอนแรก ก็เคยชินกับการมีอยู่ของบาทหลวงแล้ว แม้ว่าในช่วงแรกๆ ที่นอนห้องเดียวกัน มักจะได้กลิ่นเนื้อย่างอยู่เสมอ แต่มันก็คุ้นชินไปอย่างช้าๆ
ในที่สุดตอนนี้นักพรตเฒ่าก็สามารถหาเวลาว่างได้บ้าง จึงเลียนแบบเถ้าแก่ของเขาในการหาโซฟาเอนกาย ดื่มชาสักถ้วย อ่านหนังสือลามก และสนุกกับการใช้ชีวิตผ่อนคลายสบายๆ
กิจการช่วงกลางวันเงียบเหงามากมาโดยตลอด ไม่ค่อยมีลูกค้า
ดังนั้น
เถ้าแก่ร้านหนังสือกำลังอาบแดดอ่านหนังสือพิมพ์
นักพรตเฒ่าจิบชาพลางอ่านหนังสือลามก
สวี่ชิงหล่างกำลังปรับค็อกเทลสูตรใหม่ของเขา
ไป๋อิงอิงถือโทรศัพท์มือถือเล่นเกมคิงส์ออฟกลอรี (เกมหวังเจ่อหรงเย่า)
เจ้าลิงน้อยแอบกินถั่วลิสงของนักพรตเฒ่า กินอิ่มแล้วก็นอนหลับอยู่ตรงนั้น
ทั้งชั้นบนชั้นล่างของร้านเต็มไปด้วยกลิ่นปลาเค็มลอยฟุ้งไปทั่วทุกพื้นที่
ช่างไม่เข้ากันกับบรรยากาศของย่านการค้าอย่างถนนหนานต้าอันเป็นที่ตั้งของร้านที่มีคนพลุกพล่านอย่างสิ้นเชิง
จนกระทั่งช่วงเที่ยงวันถึงได้มีลูกค้าเข้าร้านหนึ่งคน
สวี่ชิงหล่างเงยหน้าขึ้น เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าประตูมา ชายหนุ่มค่อนข้างสูงทีเดียว ดูเหมือนว่าจะเรียบร้อยบอบบาง แต่มีหนวดเคราบนใบหน้าไม่น้อย แค่มองก็รู้ว่าช่วงนี้มีเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้ละเลยการดูแลไป
เมื่อมีคนมารบกวนเขา สวี่ชิงหล่างรู้สึกไม่พอใจมาก เขาหันกลับไปเหลือบมองป้าย ‘ขั้นต่ำหนึ่งร้อยหยวนต่อคน’ แล้วคิดว่าร้านของตัวเองยังไม่โหดพอใช่หรือไม่
คราวหน้าเปลี่ยนเป็น ‘หนึ่งพัน’ ไปเลยดีไหม
ไม่อย่างนั้นจะมีคนที่รู้สึกว่าตัวเองมีเงินหน่อยแล้วอยากสัมผัสบรรยากาศของชนชั้นนายทุนน้อยเข้ามารบกวนเขาอยู่บ่อยๆ
เห็นชัดว่าเป็นกิจการสำหรับผี แล้วคนเป็นจะมาร่วมแจมอะไรบ่อยๆ
จ่ายหนึ่งร้อยหยวนแล้วมานั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟหรือชานมสำเร็จรูปที่นี่
โง่หรือเปล่า
ชายหนุ่มชี้แก้วไวน์ด้านหน้าสวี่ชิงหล่างแล้วเอ่ยขึ้น
“ค็อกเทล”
จากนั้นชายหนุ่มก็นั่งลงด้านหน้าสวี่ชิงหล่าง
สวี่ชิงหล่างพยักหน้า แม้ว่าจะรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกรบกวน แต่ถึงอย่างไรเขาก็อยู่ในสายงานธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เลยยังไม่อะไรกับลูกค้าหรอก
ไม่นานนักก็ชงค็อกเทลหนึ่งแก้วเสร็จ แล้วส่งให้ชายหนุ่มตรงหน้าทันที
ชายหนุ่มจิบหนึ่งอึก ค่อนข้างพอใจทีเดียว จากนั้นก็นอนหนุนหัวหมอบลงบนขอบเคาน์เตอร์ และมองสวี่ชิงหล่างอยู่แบบนี้
ตอนแรกสวี่ชิงหล่างไม่ได้รู้สึกอะไร แต่อีกฝ่ายนอนอยู่ตรงนั้นตลอด จิบเหล้าหนึ่งอึก จากนั้นก็มองเขาต่อ แล้วก็จิบอีกหนึ่งอึก แล้วก็มองเขาต่ออยู่อย่างนั้น
สวี่ชิงหล่างรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกับแกล้มเหล้าของอีกฝ่าย
สวยจนอยากกลืนกินหากใช้กับผู้หญิง ถือว่าเป็นคำชมเสียส่วนมาก แต่เหล่าสวี่รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายมาโดยตลอด
ไม่สิ เขาเป็นผู้ชายอยู่แล้ว ไม่ใช่รู้สึกว่า
นี่มันทำให้เหล่าสวี่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จึงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “รับเหล้าเพิ่มอีกไหมครับ”
“คุณหน้าตาดีมากจริงๆ”
จู่ๆ ชายหนุ่มก็หัวเราะ หน้าตาดูเหมือนคนโง่
สวี่ชิงหล่างถอนหายใจพรืด เลียริมฝีปาก เขากำลังคิดจะต่อยคนแล้ว
“เฮ้ คุณสวยขนาดนี้ ต้องมีผู้ชายมากมายชอบคุณแน่ๆ ใช่ไหมครับ” อีกฝ่ายถามขึ้นอีกครั้ง
สวี่ชิงหล่างถลกแขนเสื้อตัวเองขึ้น เตรียมจะต่อยคนแล้ว
“น่าจะต้องมีบ้างแหละ ฮ่าๆ คุณอยากต่อยผมเหรอ คิดว่าผมดูถูกคุณอยู่เหรอ”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองสวี่ชิงหล่าง จากนั้นยกมือขึ้นจิ้มหน้าตัวเอง
“คุณต่อยสิ ต่อยผมตรงนี้เลยนะ”
เขาต่ำทรามอย่างนี้ กลับทำให้สวี่ชิงหล่างรู้สึกอายที่จะต่อยเขาเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดอย่างเคร่งขรึม
“ด้านนั้นของผมปกติดี”
“อ้อ” ชายหนุ่มตอบ เห็นได้ชัดว่าผิดหวังเล็กน้อย จากนั้นหยิบแก้วขึ้นมาจิบอีกครั้ง
“เป็นไง มีคนถูกใจคุณแล้วเหรอ”
เถ้าแก่โจวที่อาบแดดเสร็จเดินเขามาในเวลานี้พอดี
ตอนนี้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะเมาแล้ว และราวกับโกรธเคืองอยู่เนืองๆ มาตั้งแต่แรกแล้ว ทันใดนั้นก็เขวี้ยงแก้วในมือลงบนพื้นเสียงดัง ‘เพล้ง’
แก้วไวน์แตกละเอียดไปทั่วพื้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล