ตอนที่ 213 รอยยิ้ม (1)
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จ โจวเจ๋อเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งลงโซฟาชั้นล่าง ตอนนี้เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้วยังอีกนานกว่าจะรุ่งสาง แต่โจวเจ๋อไม่ง่วงอีกต่อไป
หลังจากที่คนปกติได้ฝันอย่างนั้นแล้ว ก็คงยากที่จะกลับไปนอนต่อได้ในระยะเวลาอันสั้น
ไป๋อิงอิงชงกาแฟและยกมาเสิร์ฟให้โจวเจ๋อ จากนั้นยืนอยู่ข้างๆ ราวกับเด็กน้อยที่ทำเรื่องผิดมาและทำตัวไม่ถูก
โจวเจ๋อโบกมือปัดๆ บ่งบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว นางสามารถขึ้นไปพักผ่อนหรือเล่นเกมได้ แต่ว่าไป๋อิงอิงก็ยังไม่ยอมไป ในมุมมองของนางนั้นไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม นางก็ดูดซับพลังงานชั่วร้ายจากตัวของโจวเจ๋อจริงๆ และเห็นได้ชัดว่าร่างกายเถ้าแก่ของนางยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
มันก็เหมือนคนที่ป่วยหนักอยู่แล้วแต่ยังขับร้องเพลงอยู่ทุกราตรี เป็นการรนหาที่ตายจริงๆ
หลังจิบกาแฟไป โจวเจ๋อก็จุดบุหรี่หนึ่งมวน บอกตามตรงเขาก็รู้สึกแปลกๆ เล็กน้อยเหมือนกันว่าทำไมตอนที่เขาฝันร่างของเขาถึงได้แผ่กระจายพลังงานชั่วร้ายออกมาได้ เขาเชื่อว่าไป๋อิงอิงไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขาหรือรอไม่ไหว ในความเป็นจริง ไป๋อิงอิงค่อนข้างพอใจในรูปลักษณ์ ‘นางพญาผมขาว’ ของนาง ช่วงนี้ก็สวมใส่สไตล์เสื้อผ้าเป็นแบบสมัยโบราณ แต่มันกลับมีเสน่ห์เฉพาะตัว
เรื่องนี้ทำได้เพียงถือเป็นหนามหยอกอกตัวเองเท่านั้น หากคิดอะไรไม่ออกก็ทำได้เพียงปล่อยไปก่อน ถึงอย่างไรตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องไปจัดการและแก้ไข
ครึ่งชั่วโมงต่อมา มีรถตำรวจแล่นมาจอดที่หน้าร้านหนังสือ
แม่นางสวี่ที่ยังคง ‘ดูดซับความบริสุทธิ์ล้ำค่าของตะวันและจันทรา’ อยู่ข้างๆ เหลือบไปเห็นตำรวจมา ก็รีบเด้งตัวลุกขึ้นทันทีและไม่อยากอยู่ที่ชั้นล่างต่ออีก
เขาเคยบ่นเรื่องอากาศในสถานกักกันไม่ปลอดโปร่ง นอนก็ไม่หลับ เฝ้าสถานกักกันทั้งคืนทำร้ายผิวของเขาอย่างรุนแรง
คนที่เข้ามาคือจางเยี่ยนเฟิง โจวเจ๋อส่งข้อความไปหาเขา
จางเยี่ยนเฟิงถือซองเอกสารในมือ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ไป๋อิงอิงก่อน แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยเล็กน้อย
“เธอเป็นใคร”
ครั้งก่อนที่ตำรวจเข้าไปในร้านหนังสือ โจวเจ๋อให้พวกไป๋อิงอิงออกไปก่อน ดังนั้นจางเยี่ยนเฟิงจึงไม่รู้จักไป๋อิงอิง และแม้ว่าระบบข้อมูลของตำรวจจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน ก็ไม่สามารถป้อนข้อมูลของไป๋อิงอิงได้
“หลานสาวของผม”
โจวเจ๋อพูดอย่างขอไปที
จางเยี่ยนเฟิงไม่ติดใจเรื่องนี้ต่อ แต่นั่งลงตรงข้ามกับโจวเจ๋อ
“เอากาแฟหรือชาดีครับ” โจวเจ๋อถามขึ้น
จางเยี่ยนเฟิงลูบใบหน้าที่เหนื่อยล้าเล็กน้อยของเขา ทั้งได้กลิ่นกาแฟหอมเข้มข้นด้านหน้าโจวเจ๋อจึงเอ่ยขึ้น “กาแฟก็แล้วกัน”
ไป๋อิงอิงไปชงกาแฟ โจวเจ๋อหันข้างและตะโกนบอก
“เอาเนสกาแฟสำเร็จรูปนะ”
“…” จางเยี่ยนเฟิง
กาแฟถูกยกมาเสิร์ฟ จางเยี่ยนเฟิงยังโสดอยู่ กระดกดื่มไปรวดเดียว จากนั้นชี้ไปที่ซองเอกสารบนโต๊ะแล้วพูดขึ้น “ไม่อยากดูหน่อยเหรอ”
โจวเจ๋อส่ายหน้า “น่าจะยังไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไร”
“เหอะๆ”
จางเยี่ยนเฟิงขำ และจุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวนและถามขึ้น
“เรียกผมมาทำไม”
“เพราะว่าเพิ่งหลับไป”
“อะไรนะ”
“จากนั้น ผมฝันน่ะ”
โจวเจ๋อบิดขี้เกียจไปหนึ่งที
ฉากในความฝันที่หวนคิดถึงมันสุดจะทนได้
แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับพื้นที่ปิดผนึกที่เข้าไปในตอนท้าย แม้มาจากประสบการณ์ ‘มุมมองของหญิงมีครรภ์’ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง
“เป็นฝันแบบไหนกัน” สีหน้าจางเยี่ยนเฟิงเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา
บนโลกใบนี้
เขาและโจวเจ๋อที่ขาของคนทั้งสองมีโซ่ตรวนถูกมัดตรึงไว้ ในเมื่อเขาสามารถฝันได้ ถ้าอย่างนั้นโจวเจ๋อเองก็สามารถฝันได้เป็นธรรมดา
“สถานที่นั้นน่าจะไม่ใช่โรงพยาบาล” โจวเจ๋อกระแอมและพูดต่อ “ที่นั่นน่าจะเคยเป็นค่ายกักกันลับใต้ดินแห่งหนึ่ง คล้ายกับค่ายกักกันเอาชวิทซ์[1]ของนาซี”
จางเยี่ยนเฟิงหรี่ตาลง “ค่ายกักกันเหรอ”
“ใช่ ความฝันของผมน่าจะทับซ้อนกับส่วนของคุณ ผมก็ฝันถึงเรือนจำแห่งนั้นด้วย
แต่เป็นไปได้ว่าคุณและผมอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนั้นความฝันของผมดูเหมือนจริงมากกว่าคุณและรายละเอียดก็มากกว่าของคุณเช่นกัน มีนักโทษจำนวนมากถูกคุมขังอยู่ที่นั่น ทุกๆ ห้องขังต่างก็แออัดจนเป็นที่น่าทุกข์ใจ”
ขณะที่พูด โจวเจ๋อก็ยื่นมือชี้ไปที่โซ่ตรวนที่เดิมทีมองไม่เห็นบนข้อเท้าของเขาแล้วพูดต่อ
“โซ่ตรวนเส้นนี้เป็นสิ่งของที่ผู้คุมเรือนจำโยนออกมา มันดูเหมือนจะไม่ใช่สัญลักษณ์ของการผูกมัด อย่างน้อยๆ สำหรับบรรดาผู้ต้องขังเหล่านั้น ราวกับว่าเป็นตัวแทนของสิ่งที่งดงามอย่างหนึ่ง และตราตรึงความรู้สึกงดงามที่แตกต่างกัน”
โจวเจ๋อนึกถึงชายหนุ่มที่แย่งชิงโซ่ตรวนและช่วยหญิงสาวในฝันคนนั้นขึ้นมา
ตอนที่หญิงสาวสวมใส่โซ่ตรวนออกไปนั้น
เขายืนอยู่ข้างหลังกรงเหล็กและสายตาเปี่ยมไปด้วยความเฝ้าปรารถนาที่ดีและอวยพรให้อีกฝ่ายมีความสุข
แต่เขาคงไม่อาจรู้ได้ว่า หญิงสาวที่สวมโซ่ตรวนตอนสุดท้ายแล้วไปลงเอยในสถานที่แบบไหน
ที่นี่เกิดความขัดแย้งรุนแรงมาก เพราะโจวเจ๋อรู้สึกว่าเขาวิเคราะห์สภาพแวดล้อมสุดท้ายในความฝันตอนนั้นไม่น่าจะผิดพลาด
การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกักกันเอาชวิทซ์ของนาซีไม่ใช่เรื่องยากเลย มีหลายคนที่เกี่ยวข้องต่างก็เคยเขียนบันทึกความทรงจำที่คล้ายกัน มีย่อหน้าหนึ่งที่โจวเจ๋อเคยอ่านเมื่อตอนเรียนหนังสือและจำมันได้แม่น นั่นก็คือหลังจากที่ชาวยิวจำนวนมากเข้าไปในห้องนั้น ต่างก็คิดว่ามันเป็นสถานที่ที่ให้พวกเขาเอาไว้อาบน้ำอาบท่า แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ออกมาจากรูเล็กๆ เหล่านั้นไม่ใช่น้ำอุ่นแต่เป็นก๊าซพิษ
จางเยี่ยนเฟิงเงียบไม่พูดไม่จา เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
“ผมเดาว่าในข้อมูลนี้ น่าจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ใช่หรือเปล่า” โจวเจ๋อชี้ซองเอกสารบนโต๊ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล