ตอนที่ 213 รอยยิ้ม (2)
ฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่บรรยากาศนั้นไม่เข้ากันเลย
โจวเจ๋อพบว่าเขายืนอยู่บนถนนที่กำลังค่อยๆ หดลงอย่างเงียบๆ และพื้นดินใต้ฝ่าเท้าก็พร่าเลือนไปด้วย
ไม่ว่าสายตาจะมองไปหนใด ล้วนกำลังถูกบีบหดลงอย่างต่อเนื่อง
ค่อยๆ เปลี่ยนรูปเป็นแบบจำลองของฝันร้าย
ไม่สิ ที่จริง ไม่สามารถพูดได้ว่าถอดแบบ พูดได้เพียงว่ามันเป็นความต่อเนื่องอย่างหนึ่งเท่านั้น
เมื่อหันหลังกลับไปก็พบว่าข้างหลังไม่ใช่ร้านหนังสืออีกต่อไป แต่เป็นประตูเหล็กที่ปิดสนิทหนึ่งบาน
เมื่อมองขึ้นไป ม่านสายฝนก็หายไปไม่เห็นแล้ว สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือของเหลวที่ไม่รู้จักซึ่งหยดออกมาจากรูถี่ๆ บนผนัง
เป็นฝันนั้นอีกแล้วเหรอ เขากลับเข้าไปในความฝันอีกแล้วเหรอ
กลับไปยังสถานที่ที่สิ้นสุดไปเมื่อครั้งที่แล้ว กลับไปยังที่ที่ฝันร้ายถูกหยุดค้างไว้ชั่วคราว หลังจากกดปุ่มนั้นลงไป ดูเหมือนว่ามันจะให้เวลาคุณพักครึ่งนิดหน่อย
ต่อมาสิ่งที่คุณควรได้รับ สิ่งที่คุณควรสัมผัส สิ่งที่คุณควรเผชิญ แท้จริงแล้วหนีไม่พ้นเลยเสียด้วยซ้ำ
โจวเจ๋อไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ความฝันนี้ โซ่ตรวนนี้ ทำไมถึงได้มีพลังมหาศาลขนาดนี้
เมื่อนึกถึงตอนที่เขาเข้าไปในหมู่บ้านซานเซียงในตอนแรก ‘การทำงาน’ ของแหวนทองสัมฤทธิ์วงนั้น ทำให้หมู่บ้านซานเซียงกลายเป็นโครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีมาจนถึงทุกวันนี้ แต่มันก็ไม่ถึงกับ ‘ดึงดูด’ ผู้คนเข้าไปเอง
หมู่บ้านซานเซียงแค่เพียงอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ คุณต้องพยายามอย่างหนักเพื่อค้นหามันก่อนถึงจะเข้าไปได้ ไม่เหมือนกับความฝันนี้ที่อ้าปากแล้วกลืนคุณเข้าไปก่อน
จุดจบของความฝัน
จุดเริ่มต้นของความฝัน
ในเรื่องพวกนี้แฝงไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลอย่างเห็นได้ชัดมาก ราวกับว่าโจวเจ๋อที่เป็นตัวหลักของความฝันนี้ไม่มีความสำคัญอะไรกับเรื่องนี้เลย
ไม่ว่าโจวเจ๋อจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เขาก็ต้องเข้ามา และจำเป็นต้องเข้ามา
โจวเจ๋อสูดหายใจเข้าลึกๆ
ว่ากันตามตรง เถ้าแก่โจวที่อยู่ในสถานะคนไม่เอาถ่านมาโดยตลอดไม่ชอบความรู้สึกนี้ที่สุด เขาชอบเป็นอิสระและยอมเสียเวลาชีวิตในช่วงวัยรุ่นของเขาไป แต่ไม่ยอมให้ใครมาชี้นิ้วสั่งชีวิตของเขาหรือกระทั่งบังคับเขาให้ทำอะไรบางอย่าง
และด้วยเหตุนี้ ในเวลานี้เถ้าแก่โจวเลือกที่จะไม่ใช้ความรุนแรงและไม่ร่วมมือด้วย และกลับเข้าสู่ความฝันอย่างงุนงงอีกครั้ง
ก็ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นเขาก็จะเป็นเพียงผู้ชมยืนดูอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ คนหนึ่ง
โจวเจ๋อหลับตาลง แม้กระทั่งทำท่าทางกางแขนออกรับ
ในห้องที่พื้นที่คับแคบ ของเหลวเหล่านั้นยังคงสาดลงบนร่างของโจวเจ๋ออย่างต่อเนื่อง มันเหนียวหนืดเล็กน้อยและปลายจมูกก็ได้กลิ่นคล้ายกับยาฆ่าเชื้ออยู่ตลอดเวลา
แต่ว่าสิ่งที่โจวเจ๋อเคยคิดเอาไว้กลับไม่ปรากฏขึ้นมา
อย่างเช่นผิวหนังแตกระแหง หรือไม่ก็ตุ่มพองเต็มไปหมด หรือไม่ก็เนื้อเน่าละลายจนกระดูกโผล่ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นเลย
แน่นอนว่า ความรู้สึกแบบนี้ก็รับไม่ไหวเอาเสียเลย รู้สึกคล้ายกับตัวอย่างที่แช่อยู่ในฟอร์มาลิน
ด้านหน้ามีม่านสีขาวพันไว้หนาแน่น
โจวเจ๋อเดินเข้าไปและเอื้อมมือไปฉีกมันออก จากนั้นกระชากมันอย่างแรง
ด้านหน้าเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเหมือนกับด้านหลังของเขา
แต่มีหญิงสาวท้องโตคนหนึ่งกำลังเกาะผนังพยุงตัวและอ้วกไม่หยุด ดูเจ็บปวดมากอย่างเห็นได้ชัด
ร่างกายของเธอน่าจะอ่อนแอมาก และเวลานี้พื้นที่นี้ยังมีกลิ่นระคายจมูกอย่างรุนแรงขนาดนี้อีก มันทำให้เธอรู้สึกแย่มากจริงๆ
หญิงตั้งครรภ์อีกแล้วเหรอ ทำไมที่นี่ถึงมีหญิงตั้งครรภ์มากมายขนาดนี้
โจวเจ๋อก้มหน้าโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็อึ้งไปเล็กน้อย
ท้องของเขาแห้งจนแฟบ
เอ๋?
ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ
โจวเจ๋อเอื้อมมือไปสัมผัสตำแหน่งที่นักพรตเฒ่ามักจะหยิบยันต์ออกมา นี่เป็นร่างกายของผู้ชาย!
เมื่อกลับเข้ามาในความฝันในครั้งนี้ เปลี่ยนตัวละครหลักแล้วเหรอ
ยังมีหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้อีก
มิน่าล่ะถึงได้รู้สึกคุ้นตาขนาดนี้ แท้จริงแล้วเป็นตัวละครหลักที่เขาฝันในครั้งที่แล้วนี่เอง
โจวเจ๋อเดินเข้าไป คิดอยากจะช่วยพยุงหญิงสาวลุกขึ้น
นับว่าเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง แม้เขาจะรู้ว่ามันเป็นความฝันก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็เคยอยู่เป็นเพื่อนหญิงสาวคนนี้มาก่อน
และในเวลานี้เอง ประตูเหล็กที่เดิมทีอยู่ข้างหลังโจวเจ๋อถูกผลักเปิดออก ส่งเสียงเสียดสีจนแสบหู จากนั้นมีคนสวมชุดป้องกันสารเคมีหลายคนเดินเข้ามา รองเท้าบูทกันฝนของพวกเขาเมื่อเหยียบลงบนพื้นทำให้เกิดเสียง ‘เอี๊ยดอ๊าดๆ’ ออกมา
สองคนในนั้นเอื้อมมือตรงมาจับไหล่ของโจวเจ๋อ แล้วลากโจวเจ๋อไปข้างหลัง
อันที่จริงแรงของพวกเขาไม่นับว่าแรงมาก แต่ถึงแม้ว่าครั้งนี้โจวเจ๋อจะเปลี่ยนจากมุมมองของหญิงสาวเป็นมุมมองของชายหนุ่ม ร่างกายก็ยังคงอ่อนแอมากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
ต่อให้คนที่แข็งแกร่งขนาดไหน เมื่อถูกกักขังไว้ในที่แห่งนี้ กินอาหารที่คล้ายกับน้ำล้างผักทุกวัน ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน คาดว่าอีกไม่นานก็หมดสภาพได้เหมือนกัน
หญิงตั้งครรภ์คนนี้ก็ถูกจับขึ้นมาเหมือนกัน ทั้งสองคนถูกลากออกไปข้างนอกพร้อมกัน
โจวเจ๋อพยายามหันหน้าไปมองรอบๆ ต่อไป จนกระทั่งทางเดินรอบข้างเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ และในตอนสุดท้ายได้ยินเสียงดังสนั่นมาแต่ไกล
ไม่ใช่เสียงจากในห้องขัง
เพราะความจริงแล้วโจวเจ๋อเคยอยู่ในห้องขังมาก่อน แม้ว่าจะมีคนในห้องขังจำนวนมาก แต่ที่นั่นจะเงียบเป็นพิเศษ ทุกคนต่างหมดเรี่ยวหมดแรง และไม่มีใครโง่พอที่จะจับกรงเหล็กตะโกนคำพูดไร้สาระ ‘ปล่อยผมไป ได้โปรดปล่อยผมออกไป’ ประเภทนั้นออกไปหรอก
โคมไฟด้านบนเริ่มสว่างไสวขึ้นและหนาถี่มากขึ้น
โจวเจ๋อถูกยกขึ้นมาวางไว้บนรถเข็นเปลคันหนึ่ง จากนั้นตรงข้อมือและข้อเท้าของเขาถูกมัดไว้แน่นอีกครั้ง
โจวเจ๋อเคยได้ยินนักพรตเฒ่าพูดมาก่อน มีห้องของคู่รักบางห้องจะมีหัวข้อโปรเจกต์ซาดิสต์แบบนี้อยู่ คนจะถูกมัดกางแขนกางขาเอาไว้บนเตียง เพื่อเพิ่มความสนุกเร้าใจ
รถเข็นเปลถูกผลักไปข้างหน้าเรื่อยๆ เมื่อโจวเจ๋อหันศีรษะไปด้านข้าง ก็พบว่ามีรถเข็นเปลอีกคันอยู่ข้างๆ มีหญิงตั้งครรภ์นอนอยู่บนนั้น
เมื่อเทียบกับความไม่แยแสของโจวเจ๋อแล้ว หญิงตั้งครรภ์ดูสติแตกอย่างเห็นได้ชัด เอาแต่ร้องไห้โวยวายไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเธอพบแล้วว่ามันผิดปกติ
สามีของเธอ สมมติว่าชายหนุ่มที่ป้อนข้าวให้เธอคนนั้นเป็นสามีของเธอก็แล้วกัน พยายามต่อสู้อย่างหนักเพื่อแย่งชิงโซ่ตรวนให้มาเธอ จะต้องไม่ใช่เพื่อให้มาสนุกกับช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน
โจวเจ๋อรู้สึกเสมอว่า ทุกคนในห้องขังจะต้องมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโซ่ล่ามเท้านี้อย่างมาก แน่นอนว่านี่เป็นความเข้าใจผิดที่ผู้คุมเรือนจำจงใจให้มันเกิด กระทั่งจงใจใช้คำโกหกแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล