ตอนที่ 217 ตัวเอง…เมื่อแปดสิบปีก่อน!
ทันใดนั้นตู้นิรภัยที่ทั้งแข็งแกร่งและใหญ่โตก็แตกเป็นรูอย่างกะทันหัน
อุณหภูมิโดยรอบก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว
มือที่ผอมแห้งติดกระดูกนั้นอยู่ห่างจากชายชราในชุดกาวน์สีขาวที่กอดตู้นิรภัยเอาไว้ไม่ถึงสองเดซิเมตรเท่านั้น
ชายชราเงยหน้าขึ้นมองดูมือโครงกระดูกนั้น สีหน้าของเขากระตุกเล็กน้อย ราวกับว่าไม่มีความฮึกเหิมที่ขับเคลื่อนการกล่าวสุนทรพจน์ก่อนหน้านี้อีกต่อไป ร่างกายท่อนล่างของเขากำลังสั่นเทา ถ้าตัวเขาไม่ได้ล้มโผเข้าหาตู้นิรภัยคงจะทรงตัวแทบไม่อยู่ บางทีเขาอาจจะล้มลงกับพื้นแล้วก็ได้ในตอนนี้
เพราะเขาอยู่ใกล้มือนี้ที่สุด ดังนั้นความรู้สึกของเขาจึงสัมผัสได้ลึกซึ้งที่สุด โดยเฉพาะเมื่อครู่นี้ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ตู้นิรภัยที่ก่อนหน้านี้ยังแข็งแกร่งมากพอที่จะทนต่อการกระแทกได้หลายครั้ง ดูเหมือนว่าในชั่วพริบตาได้กลายเป็นเป็นขนมปังกรอบที่กองทัพใช้กิน ทำเอางุนงงไปทั้งอย่างนั้น
ผู้คนที่ยังคงร้องเพลงมาร์ชทหารอยู่ในที่นี้ก่อนหน้านี้ต่างก็พากันเงียบพร้อมกัน พวกเขาทำอะไรไม่ถูกและหวาดกลัวเล็กน้อย
นี่เป็นศูนย์วิจัยของพวกเขา ในวันปกติทั่วไปแล้ว พวกเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายสร้างความหวาดกลัว ตอนนี้ดันสับเปลี่ยนสถานะ ทำให้พวกเขายากที่จะยอมรับได้
อ้อ ไม่สิ
ไม่ใช่ยอมรับไม่ได้ แต่เป็นการยากที่จะคุ้นเคย
‘กุกกัก…กุกกัก…กุกกัก…’
ในเวลานี้สลักขนาดใหญ่ของตู้แช่แข็งค่อยๆ แตกร้าวออกมาอย่างช้าๆ
ตามด้วยประตูตู้แช่แข็งถูกผลักเปิดออกอย่างเชื่องช้า
ร่างของชายชราก็ร่วงลงบนพื้นเช่นกัน เขาอยากจะรักษาการยืนทรงตัวเอาไว้ แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงทรุดตัวลงบนพื้นและเงยหน้าขึ้นมองไปทางตู้แช่แข็ง
ในตู้แช่แข็งมีศพอยู่หนึ่งศพ ศพมีสภาพเสียหายรุนแรงมาก
ศีรษะครึ่งหนึ่งของศพได้หายไป ราวกับมันถูกตัดขาดในฉับเดียว และบาดแผลยังคงราบเรียบเป็นพิเศษ กระทั่งยังมีเงาวาววับแปลกๆ
ภายใต้ใบหน้าครึ่งหนึ่ง มีดวงตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวปิดแน่น และไม่มีเค้าส่อให้เห็นว่าจะลืมตาขึ้นเลยแม้แต่น้อย รอยแตกพาดเป็นแนวยาวตั้งแต่ศีรษะลงไปถึงท่อนล่างของร่างกาย เหมือนกับว่าขุดสร้างคูน้ำไว้บนร่างกาย
มีรอยแหว่งขนาดใหญ่ที่หน้าอกด้านซ้าย สามารถมองทะลุจากด้านนอกไปยังฝั่งตรงข้าม และมองเห็นซี่โครงด้านในได้อย่างชัดเจน
มือเท้าทั้งสี่ของศพบางส่วนมีเนื้อหนังปกคลุมอยู่ แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นกระดูกเปลือยเปล่า เผยให้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวอย่างหนึ่ง
สิ่งที่ศพนี้ทำให้คนเกิดความรู้สึกที่ลึกล้ำที่สุดก็คือโครงกระดูกของเขา ราวกับหินหยกที่มีความโปร่งใสเต็มไปด้วยพลังอย่างหนึ่ง กระทั่งยังสามารถทำให้เกิดความรู้สึกที่น่าพึงพอใจแก่ผู้คนอีกด้วย
คนสวมชุดกาวน์สีขาวทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์เป็น ‘นักวิจัย’ ที่ทำการการทดลองกับสิ่งมีชีวิต พวกเขาได้ทำการทดลองที่โหดร้ายทารุณด้วยตนเองมานับไม่ถ้วน เป็นธรรมดาที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องขีดจำกัดของชีวิตมนุษย์เกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจถึง!
นี่เป็นคนที่ตายจนไม่อาจจะตายได้อีก เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยังมีชีวิตอยู่ และไม่มีเหตุผลที่เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
แต่ว่ามีเพียงเขาคนเดียวในตู้นิรภัย ดังนั้นนอกจากเขาแล้วสิ่งที่กระแทกตู้นิรภัยก่อนหน้านี้จะเป็นใครไปได้
นอกเหนือจากนี้ ก็ยังเป็นมือของเขาที่เจาะทะลุตู้นิรภัยที่ทั้งหนาและกว้างนี้
ในขณะที่ฝูงชนกำลังร้องเพลง
ในขณะที่ฝูงชนกำลังตื่นเต้นที่สุด
เขาก็สาดน้ำเย็นใส่ทุกคน และเติมตัวหยุดลงในท่วงทำนองดนตรีเพลงนี้ทันที
ศพยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น รักษาท่ายกแขนขึ้นเพียงครึ่งหนึ่งไว้อย่างนั้น
นับตั้งแต่ที่ประตูนิรภัยค่อยๆ เปิดออกมาก็ไม่ขยับอีกเลย
เขานิ่งเงียบจนเหมือนกับผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความงดงาม จนกระทั่งสร้างความงดงามประหนึ่งเทพวีนัสแขนหักก็ไม่ปาน
เมื่อเห็นฉากนี้ ชายชราที่ยังคงนั่งขวัญหนีดีฝ่ออยู่บนพื้นเมื่อสักครู่ก็ยกแขนของตัวเองชูขึ้นอีกครั้ง และตะโกนอะไรบางอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น เขายังคงตื่นเต้น ยังคงลิงโลด และยังคงมองโลกในแง่ดีเช่นเดิม
บางที ในทุกๆ ทีมล้วนต้องมีคนลักษณะแบบเขาอยู่ ถึงจะสามารถคงสภาพจิตใจของทีมต่อไปได้ละมั้ง
แต่คราวนี้ ก่อนที่เขาจะทันได้แพร่ความรู้สึกแบบนี้ให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เดิมทีมือโครงกระดูกที่ไม่ขยับเขยื้อนก็หล่นลงมาอย่างเชื่องช้า ราวกับคิดว่าเขาส่งเสียงดังจนเกินไป ร่วงลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ ต้องการจะขัดจังหวะการพูดมากของเขา ทั้งยังเหมือนผู้อาวุโสที่เป็นห่วงเป็นใยคุณ อยากจะลูบหัวของคุณ
นี่เป็นสัมผัสแห่งความรัก
ชายชราไม่กลัว เพราะการเคลื่อนไหวของศพนั้นเชื่องช้ามาก กระทั่งสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เรียกว่าความอ่อนโยน
ชายชรายิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เขายิ่งเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ว่านี่เป็นปาฏิหาริย์ที่เทพีแห่งแสงอาทิตย์มอบให้จักรวรรดิญี่ปุ่นอันยิ่งใหญ่ เป็นโอกาสสำหรับจักรวรรดิที่จะผงาดขึ้นครองมหาอำนาจ และเขาก็เป็นพยานและผู้ค้นพบ
ชื่อของเขา จะถูกกำหนดให้จารึกไว้บนตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุดของศาลเจ้าสันติรัฐ[1]ในวันหน้า!
การทำงานวิจัยประเภทนี้ในสถานที่นี้ บางคนอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจิตใจและตัวตนของพวกเขาได้บิดเบี้ยวไปนานแล้ว
เช่นเดียวกับชายชราในเวลานี้ หลังจากผ่านความไม่กลัวในตอนแรกมาได้ ในใจของเขาก็ถูกความปีติยินดีเข้ามาแทนที่
นักวิจัยในชุดกาวน์สีขาวในบริเวณใกล้เคียงเหล่านี้ไม่มีคนส่งเสียงกรีดร้อง พวกเขามีความหวาดกลัว พวกเขามีความกลัว แต่ไม่มีใครเลือกที่จะออกไป กลับกันต่างก็ยืนอยู่ที่เดิม ราวกับว่ากำลังรอคอยสถานการณ์ก้าวต่อไป
ก้นบึ้งในหัวใจของทุกคนล้วนมีความปีติยินดีเล็กน้อย และมีความคาดหวังอยู่นิดหน่อย มักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าหากพระเจ้าต้องการเลือกที่จะเข้าข้างคนคนเดียวหรือคนกลุ่มหนึ่งแล้วละก็
เป็นไปได้มากว่าต้องเป็นตัวเองแล้วละ
จากนั้น สถานการณ์ก็มีความคืบหน้าขึ้น มือโครงกระดูกร่วงลงบนกลางศีรษะของชายชราเบาๆ
จากนั้น ใบหน้าของชายชราที่ยังคงเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปีติ ในชั่วพริบตาก็คล้ายกับรูปปั้นน้ำแข็งที่ถูกราดด้วยน้ำร้อน เริ่มละลายไปอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าเหี่ยวย่นของเขา เบ้าตาลึกของเขา จมูกที่ค่อนข้างแบนของเขา ศีรษะของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างบนหัวของเขาทั้งหมดต่างเน่าเปื่อยลงไปในชั่วพริบตา เกือบจะในพริบตาเดียวเท่านั้น หัวของชายชรากลายเป็นหัวกะโหลกศีรษะ
แต่ในเวลานี้
ชายชราที่ตระหนักถึงความรู้สึกนี้โดยตรงเพิ่งทำท่าจะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดออกมา ปากของกะโหลกศีรษะเปิดกว้าง แต่เขาไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีกต่อไปแล้ว ราวกับว่าเขากำลังตะโกนแบบไร้ซุ่มเสียง!
เคยมีทหารญี่ปุ่นนายหนึ่งได้เขียนไว้ในบันทึกหลังจากที่ใช้ดาบซามูไรตัดศีรษะชาวจีนอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาสั้นๆ ศีรษะของอีกฝ่ายที่ร่วงลงกับพื้นยังสามารถกะพริบตาได้
แต่ในครั้งนี้ ฉากนี้กลับมาในรูปแบบสุดขั้วและตรงไปตรงมามากขึ้น มันเป็นการเริ่มต้นใหม่ของการทดลองนี้!
หลังจากการตะโกนอย่างไร้ซุ่มเสียง ศพของชายชราก็ล้มลงตึงไปด้านข้างอย่างสลดใจ
พวกนักวิจัยในชุดกาวน์สีขาวที่รวมตัวกันอยู่ภายในและภายนอกห้องทดลองถึงได้เริ่มชุลมุนขึ้นมา และเริ่มลนลานวิ่งหนีออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเผชิญกับฉากที่น่าทึ่งนี้ สภาพจิตใจของพวกเขาก็แตกกระเจิดกระเจิงทันที!
ภายใต้ผลกระทบกระเทือนทางจิตใจที่ไม่คาดคิดนี้ ความเคารพต่อจักรวรรดิและความจงรักภักดีต่อจักรวรรดินั้น เหมือนกับเศษกระดาษที่ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที!
ปีศาจ
ปีศาจตัวจริง
ปรากฏขึ้นแล้ว!
…
ในภาชนะที่ปิดอย่างมิดชิดนั้น มีศพที่น่าสยดสยองของแม่และลูกสาวที่ยังไม่ทันได้จัดการ พวกเธอนอนอยู่ในนั้นอย่างเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล