ตอนที่ 231 ต่างถิ่น
‘คัมภีร์ปลาเค็ม’ แถวที่หนึ่ง บทที่หนึ่ง ข้อที่หนึ่ง ‘มนุษย์ ต้องรู้จักความพึงพอใจ’ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชายคนหนึ่งเป็นราชาปลาเค็ม เถ้าแก่โจววาด ‘กรงเล็บใหม่’ ของตัวเองไปมาสองสามที เหมือนเด็กคนหนึ่งดีใจที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ สักพักเขาจึงเก็บกลับมา วิ่งลงไปชั้นล่างอาบน้ำอีกครั้ง จากนั้นจึงกอดสาวใช้นอนหลับปุ๋ย
สำหรับพฤติกรรม ‘ยึดมาเป็นของตนเอง’ แบบนี้ อันตรายมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจิตสำนึกที่อยู่ภายในร่างกายได้เกิดความรู้สึกเกลียดชังกระทั่งเริ่มต่อต้านขึ้นมา โชคดีที่โจวเจ๋อยับยั้งกลับไปได้ในท้ายที่สุด แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ความรู้สึกแบบนี้ก็ตื่นเต้นไม่เบา
เถ้าแก่โจวเหมือนคนที่ ‘แอบขโมยไก่’ ได้สำเร็จ จึงนอนหลับสบายด้วยจิตใจที่มีความสุขแบบนี้ และอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนใช้พลังเยอะเกินไป โจวเจ๋อจึงตื่นนอนตอนบ่าย หลังจากลุกจากเตียงแล้วพบว่าร่างกายของตัวเองปวดเมื่อยไปทั้งตัว เหมือนคนที่ปกติไม่ค่อยออกกำลังกายจู่ๆ ฉุกคิดขึ้นมาได้ตะโกนว่าจะลดน้ำหนัก แล้วจึงกัดฟันออกกำลังกายหนึ่งที
โจวเจ๋อในฐานะที่เคยเป็นหมอคนหนึ่ง ย่อมรู้ว่ามีสาเหตุจากการหลั่งกรดแล็กติกมากเกินไป จึงไม่สนใจ และยังคงลงมาล้างหน้าแปรงฟันอย่างสบายใจเฉิบเหมือนเดิม จากนั้นจึงมานั่งลงที่ชั้นหนึ่ง
ไป๋อิงอิงเอาน้ำชากับหนังสือพิมพ์ของวันนี้มาเสิร์ฟทันที หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไป๋อิงอิงตั้งใจรีดเป็นพิเศษเรียบร้อยแล้ว ในอดีตก่อนที่ผู้ดีจะอ่านหนังสือพิมพ์สาวใช้จะต้องรีดหนังสือพิมพ์ก่อน สาเหตุเพราะเทคนิคการตีพิมพ์สมัยก่อนยังไม่ดี การรีดเล็กน้อยจะสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำหมึกติดนิ้วมือสกปรกได้ แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว ทว่าไป๋อิงอิงชอบพิธีการแบบนี้ โจวเจ๋อจึงไม่พูดอะไรมาก
จวบจนปัจจุบันนี้ เถ้าแก่โจวได้รับการเอาใจทุกสิ่งทุกอย่างจากไป๋อิงอิง เหมือนกับคุณชายที่ถือกรงนกออกไปเดินเล่นยามเช้าทุกวันในสมัยราชวงศ์ชิงตอนต้นเป็นอย่างมาก
นักพรตเฒ่ากำลังนั่งดูข่าวอยู่ข้างเคาน์เตอร์ ส่วนเจ้าลิงนั่งอยู่ในอ้อมอกของเขา เขาดูข่าวพร้อมกับช่วยหาเหาให้เจ้าลิงไปพลาง อันที่จริงเจ้าลิงรักสะอาดมาก และรู้จักทำความสะอาดขนให้ตัวเอง แต่นักพรตเฒ่ารู้สึกคุ้นชินกับความรู้สึกแบบนี้ หาเหาเจอหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะขนของเจ้าลิงนั้นนุ่มมาก ความรู้สึกยามที่ได้สัมผัสก็ดีมาก นวดๆ คลึงๆ สบายมือเป็นอย่างยิ่ง เจ้าลิงเองก็เพลิน เอียงศีรษะซบแผ่นอกของนักพรตเฒ่าด้วยใบหน้าที่สุขใจ สภาพว่างมากสุดๆ ไม่มีอะไรทำของหนึ่งคนกับหนึ่งลิง ดูขี้เกียจและแย่กว่าคนในเมืองที่มานั่งดื่มน้ำชาอ่านหนังสือพิมพ์ในสำนักงานทุกวันเสียอีก
“อ้าว เถ้าแก่ ซูเปอร์สตาร์คนนี้ฆ่าตัวตายเหรอ” นักพรตเฒ่าชี้ไปที่หน้าจอโทรทัศน์แล้วตะโกนพูดกับโจวเจ๋อ
“ใครเหรอ” โจวเจ๋อไม่เงยหน้า เขาไม่สนใจข่าวในวงการบันเทิงเท่าไร
“นักร้องชายคนนั้นที่ร้อง ‘%¥@@#’ ยังไงล่ะ”
“อ้อ” รู้จักเพลง แต่ไม่รู้จักนักร้อง
“เมื่อตอนเช้ามืดเขาเปิดเผยว่าตัวเองนอกใจ แล้วยังบอกว่าตัวเองเสพยา นอกจากนี้ยังบอกว่าตัวเองเป็นเกย์ แม่เจ้าโว้ย นี่คือตื่นรู้ในพระธรรมเหรอ ตัวเองแฉประวัติด้านมืดของตัวเองในอินเทอร์เน็ตจนหมดเกลี้ยง จากนั้นก็กระโดดตึกฆ่าตัวตายในโรงแรม โถๆ ข้ายังชอบเพลงสองสามเพลงของเขาอยู่เลย” ขณะที่พูด นักพรตเฒ่าได้ยื่นมือไปลูบขนของเจ้าลิง
“เจ้าลิงก็ชอบมาก ใช้โทรศัพท์เปิดเพลงนี้บ่อยๆ”
“อ้อ” เถ้าแก่โจวยังเพลิดเพลินกับความรู้สึกอุ่นสบายที่มาจากการรีดหนังสือพิมพ์ต่อไป เขาไม่สนใจข่าวด้านนี้จริงๆ คนตายเหรอ เขาเจอมาเยอะแล้ว
ผู้ชาย ผู้หญิง คนตัวสูง คนตัวเตี้ย คนอ้วน คนผอม คนสวย คนฉลาด คนเลว สามีที่ดี ฯลฯ ในสายตาของเถ้าแก่โจวแทบจะกลายเป็นเป็ดเค็มหนานจิงที่อยู่บนไลน์ผลิตไปแล้ว เปลือยล่อนจ้อนแล้วก็ใส่ชุดห่อให้เรียบร้อย จากนั้นก็ส่งให้นรกมารับ
ได้ยินว่าหมอนิติเวชชอบนอนหลับในที่ทำงานของตัวเอง เพราะแบบนั้นสามารถทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่มีคนอยู่เป็นเพื่อนตัวเอง แต่ไม่ได้เกิดปัญหาทางจิตจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรคนเราก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถในการปรับตัวให้คุ้นชินสูง
“เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน” นักพรตเฒ่าหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู แล้วพูดด้วยความตกใจ “เถ้าแก่ ซูเปอร์สตาร์คนนี้ร้องเพลงโชว์ที่ทงเฉิงเมื่อวานนี้ แล้วเขาก็กระโดดตึกลงมาจากโรงแรมทงเฉิง”
“อ้อ”
ตลอดเวลาที่ผ่านมาโรงแรมทงเฉิงเป็นอาคารแลนด์มาร์กในดวงใจของคนทงเฉิง เมื่อสิบกว่าปีก่อนคนทงเฉิงชอบพูดโม้ว่าเมื่อวานตัวเองไปกินข้าวที่โรงแรมทงเฉิง
นักพรตเฒ่ารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น มองข้ามการพูดแบบขอไปทีของเถ้าแก่ของตัวเองอย่างสิ้นเชิง แล้วพูดต่อ “เถ้าแก่เจ้าคิดว่าคืนนี้เขาจะมาที่ร้านหนังสือของพวกเราไหม ข้าต้องเตรียมน้ำตาวัวแล้ว ถ้าหากเขามาละก็ พวกเราอาจจะได้ยินเขาร้องเพลงต้นฉบับสักหนึ่งเพลง”
โจวเจ๋อเงยหน้าเหลือบตามองนักพรตเฒ่า “ไม่ใช่คนตายทุกคนที่จะมาร้านหนังสือของพวกเรา” โจวเจ๋อเอ่ยเตือน
ถ้าหากคนตายต้องมาร้านหนังสือทั้งหมด อย่างนั้นจีดีพีของร้านหนังสือคงน่ากลัวมากเกินไป เถ้าแก่โจวคงจะยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลาดื่มกาแฟเลยด้วยซ้ำ คาดว่าการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ตรวจสอบคงไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
แต่ในความเป็นจริงวิญญาณส่วนใหญ่จะลงนรกด้วยตัวเอง มีแค่วิญญาณที่ไม่เชื่อฟังจำนวนน้อยมากเท่านั้นที่จะใช้ช่องทางของร้านหนังสือเพื่อลงไปในนรกภูมิ
“เถ้าแก่ ข้าคิดว่าเขาถูกใส่ร้ายมาก เจ้าดูนะ ก่อนที่เขาจะตายได้เผยประวัติด้านมืดของตัวเองทั้งหมด จากนั้นก็ฆ่าตัวตาย ในนี้ต้องมีอะไรที่ไม่เป็นธรรมแน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล