ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 24

ตอนที่ 24 คนนี้เป็นใคร

เมื่อออกมาจากคฤหาสน์ โจวเจ๋อไม่ได้รีบเรียกรถ แต่อยากจะเดินเล่นบนถนนยามค่ำคืนนี้เพียงคนเดียว

หวังเคอบอกว่าปัญหาของตัวเองไม่ใหญ่มาก แค่ตัดขาดเครือข่ายความสัมพันธ์ก่อนหน้าของสวีเล่อก็พอ แน่นอนว่าตอนนี้ก็เหมือนตัดขาดไปแล้วจริงๆ

ตัวเองทำแบบนั้นกับหมอหลิน สงสัยช่วงนี้หมอหลินคงไม่สนใจตัวเองอีกแน่นอน ส่วนบ้านพ่อตาแม่ยาย เขาเองก็ไม่ได้กลับไปสองสามวันแล้ว

และสิ่งที่แก้ไขยากเพียงสิ่งเดียวอาจจะเป็นร้านหนังสือของตัวเอง อย่างไรก็ตามเงินของการเปิดร้านหนังสือ ก็เป็นเงินของพ่อตา

งั้นก็ปล่อยแบบนี้ไปก่อน ช่วงนี้ตัวเองต้องการความสงบนิดหน่อย

ข้างหน้ามีสะพานแห่งหนึ่ง โจวเจ๋อเดินขึ้นไปแล้วนั่งลงบนขั้นบันไดชั้นแรก หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ

และด้วยความบังเอิญ โจวเจ๋อดันไปกดเปิดแอปพลิเคชั่นไลฟ์สตรีมมิ่งอันหนึ่ง ตอนที่สวีเล่อยังมีชีวิตอยู่ได้ติดตามผู้ประกาศช่องของเกมและสาวสวยมากมาย แต่โจวเจ๋อไม่สนใจของพวกนี้ จากนั้นเลื่อนลงไป โจวเจ๋อเห็นช่องของนักพรตเฒ่าคนนั้นที่ดูครั้งที่แล้วยังคงไม่เปิดไลฟ์สตรีมเหมือนเดิม

นานขนาดนี้ยังไม่เปิดไลฟ์สตรีม สงสัยคงไม่เล่นแล้วจริงๆ

ธุรกิจไลฟ์สตรีมดูเหมือนสบาย นั่งทำเงินอยู่ในบ้าน แต่มีแรงกดดันเยอะมาก อย่าพูดถึงว่าไม่ทำไลฟ์สตรีมหนึ่งหรือสองเดือนเลย แค่ไม่เปิดไลฟ์สตรีมสองสามวันก็หมดความหมายแล้ว

แต่ในเวลานี้เอง โจวเจ๋อพบว่าบัญชีของตัวเองมีหนึ่งข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน พอเปิดดู จึงพบว่าเป็นข้อความของนักพรตเฒ่าที่อยากคุยส่วนตัวกับตัวเอง และส่งมาเมื่อวานซืน

“ข้ามาทงเฉิงแล้ว ที่รัก ออกมาเจอกันหน่อยไหม”

จากนั้นแนบเบอร์โทรศัพท์ของนักพรตเฒ่ามาด้วย

โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย นักพรตเฒ่านอกจากฝากข้อความแล้วยังมีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก จากนั้นโจวเจ๋อจึงเลื่อนเปิดดูข้อมูลในบัญชีของสวีเล่อ

เป็นเบอร์ผู้หญิง

และที่อยู่ก็คือทงเฉิง

สวีเล่อเมื่อก่อนน่าจะเคยลองไลฟ์สดเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงมีห้องไลฟ์สตรีมมิ่งเป็นของตัวเอง แต่ความนิยมน้อยจนน่าสงสาร

โจวเจ๋อในที่สุดก็เข้าใจว่าความรู้สึกแปลกพวกนั้นมาจากไหน ข้อความของนักพรตเฒ่านี้ มีความหมายเรื่องอย่างว่าอย่างชัดเจน เพราะเรื่องอย่างว่าจึงมาที่ทงเฉิง และตามหาแฟนคลับของตัวเองที่อยู่เมืองทงเฉิงแห่งนี้ จากนั้นก็หว่านแหและกอบโกย

โจวเจ๋อไม่สนใจนักพรตเฒ่าผู้นี้ สิ่งที่เขาสนใจคือ เด็กหนุ่มคนนั้นที่กินข้าวต้มอย่างยากลำบากที่เคยปรากฏตัวอยู่ในวิดีโอของนักพรตเฒ่า

แต่โจวเจ๋อก็ยังตอบข้อความกลับไป โดยใช้เบอร์ของตัวเอง

จากนั้นก็ลุกขึ้น บิดขี้เกียจ ตอนที่โจวเจ๋อเตรียมจะออกไป เขารู้สึกคิดถึงตู้เย็นของตัวเองอยู่บ้าง

ทว่าโทรศัพท์กลับดังขึ้นในตอนนี้

เขาหยิบขึ้นมา สายที่โทรเข้ามาโชว์เบอร์จากเมืองหรงเฉิง

โจวเจ๋อรับสาย

“ฮัลโหล โยม เจ้าอยู่ที่ไหน!”

นักพรตเสียงดังมาก เหมือนกับพูดโทรศัพท์ใส่โทรโข่ง และดูเหมือนจะมีเสียงของรถไฟอยู่รอบๆ

“คุณอยู่ที่ไหน” โจวเจ๋อถาม

นักพรตเฒ่าคนนั้นว่างมากนักหรืออย่างไร เขามีแฟนคลับเยอะแยะไม่ใช่หรือ ทำไมถึงตอบกลับข้อความของตัวเองเร็วทุกครั้ง

หรือว่าแฟนคลับสาวคนนั้นจะน่าดึงดูดมากจริงๆ

“เอ๊ะ…” นักพรตเฒ่าตกใจ เงียบไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าแฟนคลับที่ตัวเองอยากจะนัด กลับเป็นผู้ชาย!

เป็นผู้ชาย…ที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง!

เศร้าสร้อย

ผิดหวัง

มืดมน!

จากนั้นนักพรตเฒ่าจึงรีบเปลี่ยนเสียงทันที ร้องไห้เสียงแหบแห้งพลางเอ่ยว่า

“น้องชาย ข้าหิวมาก เรามาเจอกันแล้วดื่มด้วยกันเถอะ!”

พอนั่งรถไปหา โจวเจ๋อเจอนักพรตเฒ่าในสถานที่น่าขนลุกใต้สะพานทางรถไฟแห่งหนึ่ง นักพรตเฒ่าใส่ชุดนักพรตสกปรกตัวหนึ่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง และยังมีรอยฟกช้ำอยู่บนใบหน้า ลักษณะเหมือนผู้ลี้ภัยตัวเป็นๆ ก่อนหน้านั้นเขานอนอยู่บนกระดานพลาสติกที่อยู่ข้างล่าง

ในละแวกนั้นมี ‘ร้านอาหารหลงถาน’ แห่งหนึ่ง โจวเจ๋อสั่งก๋วยเตี๋ยวให้เขาสองชาม ไก่ผัดถั่วลิสงพริกแห้งหนึ่งจานและปลาซิวตากแห้งอีกหนึ่งจาน นักพรตเฒ่ากินอย่างเอร็ดอร่อยมาก

“น้องชาย เจ้าช่างมีน้ำใจนัก!” นักพรตเฒ่ากินก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามแล้ว ในที่สุดก็ค่อยๆ ลดความเร็วลง จากนั้นจึงพูดกับเถ้าแก่ขอเหล้าเหลืองหนึ่งเหยือก แล้วจึงแสยะยิ้มอย่างละอายใจ เขาไม่มีเงินสักหยวน อาหารมื้อนี้สุดท้ายโจวเจ๋อต้องเป็นคนเลี้ยง

“ทำไมคุณมีสภาพเป็นแบบนี้” โจวเจ๋อวางแก้วน้ำลงตรงหน้า เขาไม่แตะอาหารบนโต๊ะแม้แต่คำเดียว

“เฮ้อ อย่าพูดเลย” นักพรตเฒ่าดื่มน้ำซุปหนึ่งคำ แล้วจึงเบะปาก “ช่วงนี้โชคไม่ดี เดิมทีข้าตามทีมงานกองถ่ายมาดูโลเคชั่นที่ทงเฉิง”

“เปลี่ยนอาชีพแล้วเหรอ”

“นับว่าใช่ ช่วงนี้จึงไม่อยากไลฟ์สดแล้ว” นักพรตเฒ่าถอนหายใจ “คนเรานะ ก็ต้องมีความฝันใช่ไหมเล่า”

“ก็ใช่” โจวเจ๋อพยักหน้า

“ความฝันต่อจากนี้ของข้า ก็คือได้แสดงหนังเรื่อง ‘ผีกัดอย่ากัดตอบ’ ไม่ว่ายังไงขอให้ตัวเองมีความสุขก็พอ” พอพูดถึงความฝัน มาดของนักพรตเฒ่าเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“อยู่ในกองถ่ายจนเป็นแบบนี้เหรอ” โจวเจ๋อพูดด้วยความสงสัย

“ฮิๆ เดิมทีข้าเป็นนักแสดงประกอบตัวเล็กๆ อยู่ในกองถ่าย เท่านั้น แต่ใครจะรู้ลิขิตโชคชะตาเล่า”

เหล้ามาแล้ว

นักพรตเฒ่ารินเหล้าให้โจวเจ๋อหนึ่งแก้ว และให้ตัวเองเต็มแก้ว จากนั้นก็จิบที่ละน้อย แล้วหรี่นัยน์ตาขึ้นมา

“จุ๊ๆๆ รสชาติยอดเยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ”

โจวเจ๋อหยิบน้ำร้อนขึ้นมา แล้วดื่มไปหนึ่งจิบ

“ผู้ช่วยผู้กำกับไม่ใช่คน อยากแอบกินลับหลัง หลับนอนกับนักแสดงสาว ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนั้นอายุยังไม่ถึงสิบแปดปีด้วยซ้ำ เฮ้อ สาวน้อยร้องไห้ ไม่ยอม ข้ามาเห็นเข้าพอดี จึงเข้าไปต่อยผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้น”

นักพรตเฒ่ายื่นมือตบหน้าอกของตัวเอง แล้วเอ่ยว่า

“หาเงินก็ส่วนหาเงิน มีชื่อเสียงก็ส่วนของการมีชื่อเสียง แต่พวกเราไม่ว่าทำอะไร จะขัดต่อจิตสำนึกที่ดีไม่ได้ใช่ไหมเล่า น้องชายคิดว่า มีเหตุผลไหม”

“อืม” โจวเจ๋อขานรับหนึ่งที “ดังนั้นคุณจึงถูกไล่ออก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล