ตอนที่ 254 อิงครองโลก!
สุดท้ายโจวเจ๋อก็โทรศัพท์อยู่ดี ชีวิตของนักพรตเฒ่าอย่างไรเสียก็อยู่ในมือของอีกฝ่าย ก่อนหน้านี้พูดว่าอยากจะรวบรวมสัตว์โลกน่ารัก ก็แค่มือบอนเท่านั้น แต่ไม่มีจุดประสงค์อะไรเลย
ปลาเค็มตัวหนึ่งพลิกตัวเพราะความเบื่อเป็นบางครั้ง แต่คุณสั่งให้มันวางแผนระยะยาว คงจะลำบากใจมากสำหรับมัน และเรื่องนี้โจวเจ๋อเห็นความเซ้าซี้ของพวกที่อยู่ในป่าเก่าแก่แล้ว คุณจับหนึ่งตัว ก็จะมีตัวอื่นมาหาคุณอีก ทำให้คุณรำคาญมากจริงๆ
หลังจากนั่งอยู่ในห้องวีไอพีแล้ว พนักงานต้อนรับหญิงนำชาหลงจิ่งมาเสิร์ฟ จากนั้นยืนด้านหลังของโจวเจ๋อแล้วช่วยนวดไหล่ให้เขา
นักพรตเฒ่าตื่นแล้ว สองมือกุมศีรษะตัวเปลือยล่อนจ้อนนั่งยองๆ อยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าที่แค้นเคือง เหมือนลูกค้าที่โดนตำรวจจับได้ตอนซื้อบริการทางเพศ
เถ้าแก่โจวสูบบุหรี่ไม่หยุด ไม่พูดอะไร แต่บรรยากาศที่ไม่พูดอะไรแบบนี้กลับทำให้นักพรตเฒ่าทรมานที่สุด
อันที่จริงก็ถูก เถ้าแก่โจวไม่พอใจเล็กน้อย ตัวเองจับเทพเจ้าสองตนยังไม่ทันหายร้อนก็ต้องปล่อยออกไปแล้ว
“ไม่พอใจเหรอ” พนักงานต้อนรับหญิงแนบใบหน้าของตัวเองติดข้างหูของโจวเจ๋อ แล้วถามเบาๆ
ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้มีเสน่ห์เย้ายวนจริงๆ แม้แต่โจวเจ๋อก็ต้องยอมรับว่าเธอมีแรงดึงดูดมาก
“คุณเปิดสปาคลับแห่งนี้เองเหรอ” โจวเจ๋อถาม
“เหอะๆ ใช่ค่ะ เปิดบริการใกล้จะสามปีแล้ว กิจการดีตลอด”
“เปิดเพื่อหาเงินเหรอ”
ทันใดนั้นโจวเจ๋อรู้สึกว่าต่อให้เป็นเทพเจ้า ดูเหมือนจะใช้ชีวิตลำบากเหมือนกัน เป็นเพราะคนเริ่มนับถือสิ่งที่งมงายน้อยลงเรื่อยๆ ใช่ไหม ดังนั้นคนที่กราบไหว้บูชาเทพเจ้าพวกนี้จึงน้อยลงเช่นกัน
“หาเงิน” พนักงานต้อนรับหญิงเอามือป้องปากหัวเราะ ‘เหอะๆๆ’ อยู่นานสองนาน หัวเราะจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมาแล้วพูดว่า “คุณโจว คุณพูดเล่นได้น่าตลกมากจริงๆ ค่ะ คนอย่างคุณกับฉัน ยังขาดเงินเหรอ”
“…” โจวเจ๋อ
เถ้าแก่โจวสัมผัสได้ถึงความมุ่งร้ายอย่างรุนแรงที่มาจากโลกใบนี้
ก่อนหน้านั้นไป๋อิงอิงมีข้าวของโบราณที่ฝังลงไปพร้อมกับศพ เหล่าสวี่มีห้องชุดยี่สิบกว่าห้อง นักพรตเฒ่าทำรายได้งามจากการไลฟ์สด และหมิงหมิงร้านอินเทอร์เน็ตที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เป็นลูกคนรวย สูบบุหรี่หนึ่งมวนราคาเป็นพันหยวน ตอนนี้เขายังมาเจอปีศาจจิ้งจอกที่มีเงินเหมือนกันอีก
“ฉันเคยเปิดหอนางโลมเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน ตอนนั้นหอนางโลมถูกกฎหมายด้วยนะ”
“ไม่ได้ทำเพื่อเงิน แล้วทำเพื่ออะไร”
“อย่างนั้นคุณเปิดร้านหนังสือ เพื่ออะไร”
โจวเจ๋อเงียบ ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร
พนักงานต้อนรับหญิงปล่อยผมของตัวเอง ชี้ไปรอบๆ แล้วพูดว่า “สำเนียงไพเราะเสนาะหู เวียนวนอยู่กับหญิงโสเภณี ชายหญิงนัวเนียมีความสุข เกิดเป็นราคะไม่รู้จบ ความรัก ความใคร่ ความน่าขยะแขยง ความสกปรก ความต่ำช้า ความชั่ว การประจบสอพลอ ความวิปริต สำหรับมนุษย์คำว่า ‘เพศ’ เป็นคำที่ห้ามพูดออกมา แต่ไม่ว่าอย่างไรกลับอยู่ห่างมันไม่ได้ และเสียดายมัน อยู่ที่นี่ได้เห็น ได้ฟัง ได้ตระหนักรู้ ได้หลุดพ้นออกจากไตรภูมิ คุณโจว นี่คือธรรมที่ฉันได้ฝึกฝน”
โจวเจ๋อได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า
“หลังจากสร้างประเทศก็ไม่อนุญาตให้บำเพ็ญเพียรแล้ว เส้นทางการบำเพ็ญเพียรของปีศาจนับวันยากขึ้นเรื่อยๆ การจุดธูปบูชาของทุกคนเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน คนแก่ที่อยู่ในป่าเก่าแก่พวกนั้นเหมือนเป็นเต่าหดหัว ฉันจึงไม่ชอบพวกเขา แต่จะทำยังไงได้ เมื่อสองร้อยปีก่อนทุกคนต่างเป็นสัตว์น่ารักทั้งนั้น หักกระดูกยังเหลือเอ็น ครั้งนี้พวกมันทยอยมาตกอยู่ในเงื้อมมือคุณ เพราะได้รับการไหว้วานจากป่าเก่า ฉันจึงไม่สนไม่ได้ รู้สึกกลุ้มเหมือนกัน”
“ในป่าเก่ายังมีปีศาจอีกเยอะไหม” โจวเจ๋อถามด้วยความสงสัย
“ไม่เยอะแล้ว มีแต่พวกที่แก่ๆ อย่างพวกเราที่ยังพอได้เรื่อง ที่เหลือ มีน้อยมากที่สามารถเปิดสติปัญญาได้ เหอะๆ คุณโจว พูดจากใจจริงนะคะ คนแก่พวกนี้ คุณจับไปก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องละอายใจหรือพูดเหตุผลอะไรเลย ควรเลาะเส้นเอ็นก็เลาะเส้นเอ็น ควรหลอมวิญญาณก็หลอมวิญญาณ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ทำเป็นหุ่นเชิดให้พวกมันเป็นเทพเจ้าหน้าประตูของคุณก็ไม่ถือว่าผิดอะไร ถึงแม้ฉันจะพูดด้วยเหตุผลกับคุณก่อนหน้านั้น แต่ความจริงไม่มีเหตุผลอะไรให้พูดถึงเรื่องนี้ คุณเก่ง คุณมีวิชา คุณกินพวกเขาตาย พวกเขาก็ได้แต่ยอมรับ
แม่ย่าแปดกับพี่หวง ตอนที่เพิ่งกลายเป็นปีศาจใหม่ๆ ใครบ้างไม่เคยทำลายป่าหรือลงเขามาทำร้ายคน ไม่มีใครมือสะอาดบริสุทธิ์ ต่อมาภายหลังได้บำเพ็ญเพียรจนตบะสูงแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนไป ถึงได้รู้จักสำรวมตัวบ้าง แต่นิสัยโดยพื้นฐานก็ยังเหมือนเมื่อก่อน ถ้าหากคุณไม่เป็นวิชา ฉันสามารถสอนคุณได้ แต่คุณต้องรับปากว่าจะไม่ใช้วิชาเหล่านี้กับฉัน วันหลังถ้าหากมีปีศาจที่ไม่ดูตาม้าตาเรือมาหาเรื่องคุณหรือคุณไปเจอเข้า คุณก็จัดการไปเลย คุ้มค่าใช่ไหมล่ะ”
โจวเจ๋อมองปีศาจจิ้งจอกที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง ก่อนจะถามว่า “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้”
“ทำไม” พนักงานต้อนรับหญิงใช้สองมือคล้องคอของโจวเจ๋อ ตัวครึ่งหนึ่งนั่งอยู่บนตักของโจวเจ๋อ แล้วพูดอย่างสนิทสนมว่า “ฉันเห็นว่าคุณมีค่าน่าทะนุถนอม ไม่ได้เหรอ คนที่สามารถนิ่งเฉยยามที่อยู่ต่อหน้าคนสวยอย่างฉันได้ มีไม่เยอะจริงๆ ดังนั้นฉันถึงชอบคุณ มีความเด็ดเดี่ยวเหล่านี้ ถึงแม้คุณจะแค่เป็นยมทูตในตอนนี้ ไม่แน่ผ่านไปอีกสองสามปีหรือสิบปี อาจจะได้เป็นผู้จับกุม ผู้ตรวจสอบ หรืออาจจะได้เป็นแม้กระทั่งผู้พิพากษาในสักวันหนึ่ง
ตอนนี้ฉันช่วยเหลือคุณก่อน ต่อไปวันหน้าหากคุณเป็นใหญ่เป็นโตแล้ว อย่าลืมฉันล่ะ อีกอย่างพี่หวงกับแม่ย่าแปดก็ไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมันเหมือนกัน คุณสามารถจับพวกเขาได้บ่งบอกถึงความสามารถของคุณแล้ว ฉันจึงคิดว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ตอนแรกที่ฉันเปิดหอนางโลมที่เหอหนาน เคยลงทุนกับหยวนเว่ยถิง เกือบจะสำเร็จแล้ว”
โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย หยวนเว่ยถิงเป็นใคร
นักพรตเฒ่าที่นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ พูดขึ้นมาในเวลานี้ว่า “เถ้าแก่ ก็คือหยวนซื่อข่าย[1]ไง”
โจวเจ๋อขมวดคิ้วมากขึ้น นักพรตเฒ่าที่เพิ่งพูดเกร็ดความรู้จบอยากจะตบปากของตัวเองจริงๆ แล้วด่าตัวเองว่าแกมันปากมาก แกมันเก่ง แกอดทนไม่ต้องทำเป็นเท่ได้ไหม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล