อ่านสรุป ตอนที่ 355 สุขสันต์วันเกิด! จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 355 สุขสันต์วันเกิด! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 355 สุขสันต์วันเกิด!
ตอนเช้าตื่นมาอาบน้ำ แล้วนั่งประจำตำแหน่งที่สามารถอาบแดดได้ที่ตัวเองคุ้นเคยที่สุด กาแฟรสเข้มข้น กับหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งรีดร้อนๆ กระทั่งดอกไม้ที่จัดวางอยู่บนโต๊ะน้ำชาเป็นพิเศษก็ยังสวยหยาดเยิ้ม ชีวิตหนึ่งวันของปลาเค็มเริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว!
เถ้าแก่โจวดื่มกาแฟ สะบัดหนังสือพิมพ์เล็กน้อย ขณะที่เขากำลังบ่มพลังของปลาเค็มในร่างกาย ทนายอันได้เดินเข้ามา โน้มตัวเข้าหาโจวเจ๋อ “เถ้าแก่ ไปเยี่ยมนักโทษที่เรือนจำเป็นเพื่อนผมหน่อยไหม”
“เมื่อวานซืนเพิ่งไปเยี่ยมมาแล้วไม่ใช่เหรอ” โจวเจ๋อพูด เมื่อวานซืนตัวเขาอุตส่าห์ปีนกำแพงไปเยี่ยมเป็นพิเศษ อีกฝ่ายน่าจะสัมผัสได้ถึงความห่วงใยทุกอย่างที่เขามีต่อลูกค้า
“ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ครั้งนี้ต้องเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปแล้ว ผมต้องการฟังความต้องการของเขาที่มีต่อฐานะใหม่ของตัวเอง แล้วก็ช่วยหาสถานที่พักให้เขาหลังจากออกไป รอให้เสร็จขั้นตอนนี้แล้ว จะได้เคลียร์เงินงวดสุดท้ายก้อนโตเสียที”
“งั้นคุณไปเถอะ” พระอาทิตย์เพิ่งขึ้น โจวเจ๋อกำลังอาบแดดสบาย จึงไม่อยากขยับตัวจริงๆ
“ไปกับผมเถอะ หลังจากนี้ผมอาจจะขยายกิจการอีกสองสามอย่าง และต้องการติดต่อคนที่อยู่ในนรก ถ้าหากคุณไปกับผม ก็จะได้ช่องทางติดต่อคนที่อยู่ในนรกอีกสองสามคน วันหลังหากเจอเรื่องอะไร จะได้สะดวกหน่อย” เขาพูดถึงขนาดนี้แล้ว โจวเจ๋อจึงได้แต่พับหนังสือพิมพ์อย่างจนใจ ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปกับทนายอัน
หลังจากขับรถที่จอดอยู่หน้าประตูออกไป ไป๋อิงอิงกับนักพรตเฒ่าที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ชะโงกศีรษะมองออกไปข้างนอก
“ฮือๆๆ เถ้าแก่ไปแล้ว”
“ไปแล้วๆ”
“อย่างนั้นพวกเราก็เริ่มเตรียมตัวกันเถอะ ไม่รู้ว่าทนายอันจะถ่วงเวลาได้นานแค่ไหน”
“ไม่ต้องกังวล ยังทันเวลา”
“นี่ พวกคุณมาช่วยผมคนหนึ่ง” สวี่ชิงหล่างตะโกนเรียกจากหน้าบันไดชั้นสอง
“ข้ากับอิงอิงยุ่งเหมือนกัน” นักพรตเฒ่าพูดพลางมองไปที่สาวน้อยโลลิที่นั่งนิ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์
สาวน้อยโลลิปรบมือ “พวกคุณจัดการกันเอง ไม่ต้องรวมฉันไปด้วย ฉันตัวเล็กไม่มีแรง ช่วยอะไรไม่ได้หรอก”
“ไม่เป็นไร คุณช่วยสนับสนุนผมอยู่ข้างหลังก็พอ” สวี่ชิงหล่างชี้ไปที่สาวน้อยโลลิ
“ขึ้นมา ขอยืมลิ้นของคุณหน่อย เครื่องตีไข่ในบ้านพังแล้ว”
สาวน้อยโลลิตบเคาน์เตอร์อย่างไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ยังเดินขึ้นไปด้วยอารมณ์โกรธฟึดฟัด
…
เมื่อถึงเรือนจำ โจวเจ๋อกับทนายอันเดินเข้าไปด้วยกัน นักโทษคนนั้นตัวสั่นงันงกเมื่อเห็นโจวเจ๋อ เขาตกใจเป็นอย่างมาก และสีหน้าที่ซีดเผือดของเขา ยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาดูผอมแห้งเกือบไม่เห็นเค้าโครงเดิมแล้ว
“ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องกลัว เขาถูกผมซื้อตัวแล้ว ตอนนี้เป็นแมลงในวงการตำรวจ” ทนายอันรีบพูดปลอบใจ
“…” โจวเจ๋อ
“ผมรู้สึกว่าเป็นเกราะคุ้มกันฟังดูเพราะกว่า” โจวเจ๋ออดไม่ได้ที่จะพูดเตือน
นักโทษส่ายหน้า ถือหูโทรศัพท์แล้วพูดว่า “ไม่ใช่อันนี้ เรื่องของท่านผู้นี้ คราวที่แล้วคุณพูดกับผมแล้ว”
“อย่างนั้นคุณมีสภาพแบบนี้ได้ยังไง โดนคนในคุกทรมานรุนแรงมากเหรอ” ทนายอันรู้สึกละอายใจเล็กน้อยอย่างไรก็ตามตัวเองเป็นคนจัดฐานะ ‘นักโทษข่มขืน’ ให้อีกฝ่าย จุดประสงค์เพื่อฝึกให้เชื่อง ขัดเกลานิสัยของอีกฝ่าย แต่ดูท่าทางแบบนี้แล้ว รู้สึกเหมือนโดนทรมานเกินเหตุ
นักโทษส่ายหน้าพูดว่า “พวกเราคนข้างในเพิ่งมีคนตายหนึ่งคน ซึ่งเป็นไอ้หมอนั่นที่นอนอยู่ตรงข้ามผม”
ทนายอันขึงตาโตรีบถามทันที “คุณเป็นคนฆ่าเหรอ” เพราะคนที่โดนรังแกจะระเบิดออกมาในท้ายที่สุด เริ่มต่อต้านแล้วเหรอ อย่างนั้นธุรกิจครั้งนี้คงล้มเหลวแล้ว
“ไม่ใช่ผม จะเป็นผมไปได้ยังไง ถ้าผมฆ่าคนตอนนี้ อย่างนั้นที่ผมทนทรมานก่อนหน้านั้นไม่เท่ากับสูญเปล่าเหรอ” นักโทษก็พูดด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน
“อย่างนั้นคือตายธรรมชาติ” ทนายอันถาม
“คิดว่าใช่…คิดว่าใช่นะ”
“อะไรคือคิดว่าใช่”
“เขาตายขณะนอนหลับ ตอนนั้นผมกำลังนั่งสมาธิอยู่” นักโทษย้อนนึกถึงฉากของคืนนั้น แล้วอธิบายว่า“เนื่องจากผมนั่งสมาธิไม่เก่งพอ ดังนั้นพอได้ยินเสียงดังนิดหน่อย ผมก็จะตื่นขึ้นมาจากการนั่งสมาธิ คืนนั้นผมจำได้ว่าไอ้หมอนั่นเริ่มพูดละเมอ เหมือนกำลังตะโกนว่า ‘อย่าไล่ตามผม อย่าไล่ตามผม…’ จากนั้นก็หยุดตะโกน เช้าวันต่อมาตอนไปออกกำลังกายตอนเช้า พบว่าเขาไม่ได้ตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน หัวหน้าห้องของพวกเราไปปลุกเขา แล้วจึงพบว่าเขานอนขดตัวอยู่ในนั้นไร้ซึ่งลมหายใจแล้ว”
“เป็นโรคหัวใจหรือโรคติดต่อทางพันธุกรรมอย่างอื่นไหม” โจวเจ๋อที่ถือหูฟังโทรศัพท์ฟังอยู่เช่นกันได้ถามขึ้นในเวลานี้
“ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก ในสถานที่ที่มีคนแออัดอย่างโรงเรียน เรือนจำแบบนี้ คนตายเป็นเรื่องที่ปกติมาก”
“แต่ผมรู้สึกมีลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี” นักโทษพูดด้วยความกระวนกระวายใจ
“คุณเป็นคนที่เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ยังจะกลัวตายอีกครั้งด้วยเหรอ”
“มีช่วงหนึ่งเหมือนผมจะได้ยินคนพูดว่า อีกห้องหนึ่งก็มีคนตายขณะนอนหลับเหมือนกัน ได้ยินว่าเป็นโรคหัวใจแต่ใครจะรู้ล่ะ”
“สุขสันต์วันเกิด” ทนายอันเข้ามาเป็นคนสุดท้ายยืนพิงขอบประตูและปรบมือ เขาเข้ามาอยู่ในร้านหนังสือได้ไม่นาน จึงไม่ค่อยมีความรู้สึกผูกพันอะไรกับโจวเจ๋อ แต่ในเมื่อคนอื่นไหว้วานให้ช่วยจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้โจวเจ๋อ เขาไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ ดังนั้นภารกิจในวันนี้ของเขาก็คือพาโจวเจ๋อออกไปเสียเวลาเล่นตอนกลางวัน เพื่อให้ทุกคนในร้านหนังสือมีโอกาสเตรียมตัว
แต่โปรยเงินหยวนกระจัดกระจายแบบนี้ ดูเฉิ่มเชยจริงๆ ทนายอันแอบคิดในใจ ใครจะชอบฉากที่เฉิ่มโบราณแบบนี้ จากนั้นเขาก็ตกตะลึง เพราะเขาเห็นเถ้าแก่ของตัวเองหลับตา เพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ถูกห้อมล้อมด้วยเงินหยวนแบบนี้ เคลิบเคลิ้มหลงใหล ไม่อาจถอนตัว โอเค เขาขอเก็บคำพูดในใจเมื่อครู่
“แฮปปีเบิร์ธเดย์ทูยู! แฮปปีเบิร์ธเดย์ทูยู! แฮปปีเบิร์ธเดย์ทูยู!…” สวี่ชิงหล่างเข็นรถเค้กเดินออกมาจากที่ไกลๆ นี่คือเค้กวันเกิดก้อนใหญ่ที่เขาทำเองกับมือ บนนั้นมีเทียนเพียงหนึ่งเล่ม
“วันนี้เป็นวันเกิดของผมเหรอ” โจวเจ๋อชี้มาตัวเองแล้วถาม
ตัวเขาเองจำไม่ได้ว่าวันเกิดของตัวเองเป็นวันไหน เมื่อก่อนตอนอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทุกคนจะจัดงานวันเกิดพร้อมกันในวันเด็ก เพราะผู้อำนวยการอยากประหยัดเงิน ตามหลักแล้ววันเด็กต้องจัดกิจกรรมและถ่ายรูป ดังนั้นจึงจัดรวมกันในวันเด็กพร้อมกันทีเดียวไปด้วยเลย หลังจากออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว โจวเจ๋อก็ไม่เคยฉลองวันเกิดอีกเลย
“เถ้าแก่ วันนี้ของปีที่แล้ว ท่านได้เกิดใหม่ และวันนี้ก็ครบหนึ่งปีพอดีเจ้าค่ะ” ไป๋อิงอิงอธิบาย
อ้อ คิดแบบนี้เหรอ เขาลองคิดดู ดูเหมือนจะไม่ผิด วันเกิด มีความหมายแบบนี้จริงๆ การฉลองวันเกิดดำเนินไปจนถึงเที่ยงคืน โชคดีที่คืนนี้ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน ทุกคนจึงเล่นกันอย่างสนุกสนาน หลังจากเวลาเที่ยงคืนผ่านไป ทุกคนจึงทยอยขึ้นไปชั้นบนเพื่อพักผ่อน
ไป๋อิงอิงล้มตัวลงนอนบนเตียงอยู่ข้างกายโจวเจ๋ออย่างว่าง่าย โจวเจ๋อยื่นมือวางบนเตียง ไป๋อิงอิงเข้าใจแล้วจึงนอนทับแขนของโจวเจ๋อ เพื่อให้โจวเจ๋อกอดเธอ
“เป็นความคิดของคุณเหรอ”
“อืม”
“ขอบใจนะ”
“เถ้าแก่ คนที่ต้องพูดขอบใจ คือข้าเจ้าค่ะ”
“ทำไม”
เธอต้องปรนนิบัติรับใช้ฉันทุกวัน ช่วยอาบน้ำให้ฉัน นอนเป็นเพื่อนฉัน จนถึงตอนนี้ยังขอบใจฉันอีก
“สองร้อยปี” ไป๋อิงอิงชูนิ้วขึ้นมาทำท่า ‘สอง’ “อิงอิงนอนอยู่ในโลงศพสองร้อยปีแล้ว รู้สึกอึดอัดและเบื่อมากจริงๆเวลาที่สัตว์ฟักไข่ออกมา จะรู้สึกสนิทสนมกับสิ่งมีชีวิตที่ตัวเองเห็นเป็นครั้งแรก ส่วนข้าหลังจากฟื้นขึ้นมาและออกมาจากโลงศพ คนเป็นๆ คนแรกที่เจอก็คือเถ้าแก่ค่ะ”
นอกประตู สาวน้อยโลลิที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเตรียมจะเข้านอนไม่ได้รีบร้อนเข้าไป ในเมื่อผีดิบโง่เง่าแต่น่ารักตัวนั้นยุ่งอยู่กับการเตรียมงานวันเกิดให้เถ้าแก่มาตั้งนานขนาดนี้ ตัวเองจึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปรบกวนการเก็บงานช่วงท้ายของเธอ
แต่เมื่อได้ยินคำพูดรักๆ ใคร่ๆ ของไป๋อิงอิงแล้ว สาวน้อยโลลิก็ยิ้มมุมปากอย่างมีความหมายลึกซึ้ง พลางคิดในใจว่า ‘ไม่เพียงแต่ตื่นมาเจอโจวเจ๋อเป็นคนแรกอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีเล็บของโจวเจ๋อและกลิ่นอายของผีดิบขั้นสูงบนตัวของเขาด้วย เสน่ห์ของสายเลือดที่เหนือกว่าบวกกับคนเป็นที่เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกหลังจากเหงามานานสองร้อยปี เมื่อความรู้สึกสองอย่างทับซ้อนกัน จุ๊ๆๆ…มากพอที่จะทำให้ประทับใจจนเรียกว่า ‘พ่อ’ พร้อมกับน้ำตาคลอ!’
…………………………………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล