ตอนที่ 369 วิชาอู๋ซวง
อันที่จริงประสบการณ์การเผชิญหน้ากับยมทูตของเถ้าแก่โจวมีเยอะมาก หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ เขามีประสบการณ์การต่อสู้กับคนภายในองค์กรมากกว่าคนทั่วไป เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามภายใน!
ยามที่ตัวเองทำตัวเหมือนไอ้งั่งอวดเก่งใช้วิชาอู๋ซวงอย่างอิสระ ยมทูตก็กินๆๆ! ผีสางก็กินๆๆ! เจ้าที่ก็กินๆๆ!
บางครั้งเถ้าแก่โจวรู้สึกคิดถึงช่วงเวลาที่เป็นไอ้งั่งในอดีตจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเหมือนพุดเดิลตัวหนึ่ง ที่ไม่สนใจว่าคุณจะเป็นสุนัขโกลเด้นรีทริฟเวอร์หรือว่าสุนัขไซบีเรียนฮัสกี เขากล้าทำทุกอย่าง แต่ผลเสียของการกระทำในครั้งนั้น ก็คือเร่งเวลาการฟื้นขึ้นมาของคนผู้นั้นให้เร็วขึ้น เหมือนกับที่คนผู้นั้นพูดในคุกก่อนหน้านั้น
เขาใช้เวลามากสุดครึ่งปีก็สามารถฟื้นขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์! ซึ่งทั้งหมดต้องโทษเถ้าแก่โจวที่เมื่อก่อนไม่รู้จักบันยะบันยัง ถ้าหากไม่ใช่เพราะได้พบปากกาด้ามนั้นโดยบังเอิญ ชีวิตของเถ้าแก่โจวคงเข้าสู่ช่วงเวลานับถอยหลังแล้ว สามารถเขียนหนังสือ ‘ถ้าคุณให้แสงสว่างกับฉันครึ่งปี’ ได้เลย
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ตอนที่โจวเจ๋อเผชิญหน้ากับกู่เหอเขาได้ยื่นมือคลำปากกาที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองด้วยความเคยชิน ในหัวของเขาดูเหมือนจะจินตนาการได้ถึงคนผู้นั้นที่มีใบหน้าคล้ายตัวเองที่ถูกผนึกอยู่ในทะเลแห่งความตาย ซึ่งกำลังหัวเราะอย่างลำพองใจ กำลังรอให้โจวเจ๋อเรียกหาเขา กำลังรอให้โจวเจ๋อเป็นฝ่ายปลดผนึกแล้วเรียกเขาว่าพ่อ!
แต่ขอแค่ยังมีความหวัง โจวเจ๋อจะไม่ปลดผนึกนั่นอีก เดิมทียังเหลือเวลาอีกครึ่งปี อย่าหาเรื่องให้ตัวเองกลายเป็นเหลือเวลาสามเดือน จากนั้นถ้ารนหาเรื่องอีกก็จะเหลือเวลาแค่หนึ่งเดือนกว่า ถึงตอนนั้นการตายหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนหรือตายทันที จริงๆ แล้วไม่มีความแตกต่างกันมากเท่าไร
กู่เหอเอียงศีรษะ เส้นสีดำเริ่มลามลงไปเต็มลำคอของเขา กู่เหอในตอนนี้ดูเหมือนหุ่นเชิดตัวหนึ่ง และเส้นสีดำนั่นก็เหมือนเชือกที่อยู่บนตัวของหุ่นเชิดคอยควบคุมทุกการกระทำของเขา
หลังจากความโลภภายในใจถูกกระตุ้นอย่างสิ้นเชิง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ตัวเขาเองก็ควบคุมไม่ได้ ทันใดนั้นกู่เหอทำสีหน้านิ่ง ลูกตาดำของโจวเจ๋อหดตัวลงทันที เจิ้งเฉียงที่อยู่ข้างๆ ตะโกนว่าระวัง!
เงาร่างของกู่เหอปรากฏขึ้นมาตรงกลางระหว่างทั้งสองคนแล้วต่อยหมัดไปที่คนทั้งสอง เมื่อมีการป้องกันตัว จึงไม่โดนต่อยหนักเกินไป โจวเจ๋อใช้สองแขนบังด้านหน้าของร่างกายเพื่อป้องกันหมัดนี้ ส่วนเจิ้งเฉียงมีหนามแหลมเต็มฝ่ามือของตัวเอง ปะทะกับหมัดของกู่เหอไปหนึ่งที
กำปั้นของกู่เหอมีเลือดไหลทันทีและยังมีเศษหนามติดอยู่ไม่น้อย แต่วินาทีต่อมา เขาหันหลังให้เจิ้งเฉียงแล้วบุกโจมตีโจวเจ๋อทันที บางทีในสายตาของกู่เหอ เจิ้งเฉียงที่มีหนามแหลมเต็มตัวมันเจ็บมือเกินไป จึงคิดว่ารับมือกับโจวเจ๋อง่ายกว่า
“…” โจวเจ๋อ
ขณะเดียวกันกู่เหอยังพูดว่า “คุณไปได้ ผมจะไม่ขวางคุณ”
นี่คือการล้อมสามด้านเปิดหนึ่งด้านเพื่อไว้ชีวิตเจิ้งเฉียง โชคดีที่ครั้งนี้เจิ้งเฉียงไม่โง่อีกครั้ง เขาร่วมมือกับโจวเจ๋อทันที อย่างน้อยก็ยังพอมีความหวัง เขาไม่ได้ไร้เดียงสาเชื่อว่ากู่เหอจะปล่อยเขาไปจริงๆ ถึงแม้กู่เหอจะพูดจากใจจริง เขาก็ไม่กล้าเดิมพัน!
ถ้าหากโจวเจ๋อโดนจัดการจนเหลือตัวเขาคนเดียวละก็ เขาคงไม่มีโอกาสต่อต้านเลยจริงๆ
เมื่อสามหมัดอัดมาติดต่อกัน โจวเจ๋อจึงฝืนต้านรับด้วยเกราะซามูไรเท่านั้น ไม่มีแม้แต่แรงใช้เล็บตอบโต้กลับ และกระบวนท่าของกู่เหอยิ่งก็ยิ่งกระหน่ำโจมตีเหมือนกังฟู ยกแล้วยกเล่าไม่ให้โจวเจ๋อมีโอกาสหายใจเลย นี่คือคนที่เป็นวิชากังฟูของจริง!
เจิ้งเฉียงพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง หนามงอกยาวบนตัวอีกครั้งเหมือนวูล์ฟเวอรีนที่เปิดสูตรโกง แล้วกระแทกเข้ามาที่หลังของกู่เหอ แต่เงาร่างของกู่เหอได้หายไปในเวลานี้ กลายเป็นว่าเจิ้งเฉียงกระโจนเข้าใส่โจวเจ๋อ ‘เคร้ง!!!!’
ก่อนหน้านั้นโจวเจ๋อโดนต่อยติดต่อกันหลายหมัด เมื่อโดนเจิ้งเฉียงกระแทก ในที่สุดก็ฝืนไม่ไหวล้มลงไปกับพื้นเกิดรูเล็กหนาแน่นบนเกราะซามูไรของเขา ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาจำได้ว่ายังมีเกราะซามูไร เมื่อครู่ตัวเขาคงจะมีเลือดไหลมากกว่าสิบจุดเป็นอย่างน้อย
เจิ้งเฉียงยังไม่ทันดึงโจวเจ๋อขึ้นมา เพราะวินาทีถัดไป กู่เหอได้มาปรากฏกายข้างตัวของเขา แล้วฟาดหมัดที่เต็มไปด้วยเลือดเข้ามาอีกครั้ง
เจิ้งเฉียงเอียงศีรษะหลบ ‘ปึง!’ หมัดกระดูกสีขาวอันน่าสะพรึงกลัวชกกำแพงพัง จากนั้นจึงฟาดแขนเข้าไป ทำเอาเศษปูนกระเด็น แขนของเขาเหมือนเหล็กเส้นหนึ่งฟาดเข้าไปที่คอของเจิ้งเฉียง
เจิ้งเฉียงลอยกระเด็นออกไปก่อนจะกระแทกลงไปบนพื้น คอของมนุษย์เป็นจุดที่อ่อนแอที่สุด ตอนนี้เขาตัวกระตุกอยู่กับพื้นไม่หยุด ไม่มีแรงแม้แต่จะคลานขึ้นมา
โจวเจ๋อคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น หายใจหอบหนัก อันที่จริงพลังของกู่เหอเป็นเรื่องรอง และโจวเจ๋อไม่คิดว่าผู้จับกุมกับยมทูตจะมีช่องว่างของพลังที่แตกต่างกันมากขนาดนี้ อีกทั้งตัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่ห่างจากการเป็นผู้จับกุมไกลมากนัก
หรือเวลาที่คุณเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุมจะได้รับสวัสดิการพิเศษอะไร เพิ่มพลังให้คุณเหรอ แต่สาวน้อยโลลิกับทนายอันไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ดูเหมือนต้องได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ตรวจการถึงจะนับว่าจาก ‘เสมียน’ ได้เลื่อนขั้นเป็น ‘ข้าราชการ’ และต้องอยู่ในระดับผู้พิพากษาเท่านั้น นรกถึงจะมอบปากกาและสมุดหยินหยางให้คุณผู้พิพากษา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล