ตอนที่ 370 สลับเกี้ยวรักอลวน
แสงแดดยามเช้าสว่างจ้าตา ตอนที่เถ้าแก่โจวลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนโซฟาของร้านหนังสือตรงหน้าของเขามีกาแฟกับหนังสือพิมพ์
โจวเจ๋อยิ้ม ยื่นมือนวดคลึงบริเวณขมับของตัวเอง เขายังรู้สึกเจ็บศีรษะอยู่ ดูเหมือนจะยังไม่ฟื้นกลับมาจากความมึนศีรษะอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ ฉากนี้ดูคุ้นเคยเกินไปจริงๆ ก่อนหน้านั้นปากกาที่ชื่อเจ้างั่งก็จงใจสร้างสถานการณ์แบบนี้เพื่อเอาใจเขา
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนกันตรงที่ หนังสือพิมพ์ไม่ได้ถูกรีดให้เรียบและมีความชื้น ด้านบนของร้านหนังสือยังมีน้ำฝนหยดลงมาไม่หยุด ไป๋อิงอิงทำงานช้าอืดอาด นักพรตเฒ่าก็ไม่กระตือรือร้นทำงาน
ถึงแม้ข้างนอกมีแสงแดดสดใส ฝนไม่ตก แต่ภายในร้านหนังสือกลับเหมือนน้ำในถ้ำ มีแอ่งน้ำตื้นตามพื้น และในน้ำยังมีปลาตายกับกุ้งเน่า กลิ่นเหม็นเน่าและอับชื้นคละคลุ้งไปทั่ว ส่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวน่าอาเจียนออกมา
โจวเจ๋อใช้มือข้างหนึ่งยันโต๊ะน้ำชา แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งยันคางตัวเอง เขามีความรู้สึกขยะแขยงบางอย่าง แต่พยายามบังคับตัวเองให้ส่ายหน้า ดวงตาบ้างก็ชัดเจนบ้างก็ขุ่นมัวสลับกัน
ด้านตรงข้ามของโจวเจ๋อมีเงาดำนั่งอยู่ เงาดำนั่นใส่หน้ากากตัวตลก สวมชุดสีดำ โดยมีกาแฟหนึ่งแก้วและหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าเขา เมื่อมองเห็นกาแฟที่อยู่บนโต๊ะน้ำชาของอีกฝ่าย พร้อมกับได้กลิ่นกาแฟขี้ชะมดที่คุ้นเคย เถ้าแก่โจวจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้จะอยู่ในความฝัน มีคนแปลกหน้าดื่มกาแฟของตัวเอง เถ้าแก่โจวก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
“ขาดคุณแค่คนเดียว” ภายใต้หน้ากากตัวตลกเหมือนจะแอบซ่อนดวงวิญญาณของคนวัยหนุ่มสาว เสียงของอีกฝ่ายมีความเป็น ‘สาว’ เวลาพูดอย่างชัดเจน แต่กลับเป็นเสียงของผู้ชาย ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังร้องเพลงให้คนฟัง คล้ายกับนั่งอยู่ข้างล่างเวที กำลังดูการแสดงของนักแสดงสาวสวย
“ขาดผมอีกคน” โจวเจ๋อสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ยังลุกขึ้นจากที่นั่ง ทว่าตอนที่โจวเจ๋อเดินออกมาจากที่นั่งกลับพบว่าใต้เท้าของตัวเองเหนียวเหมือนโดนติดด้วยกาวขยับไม่ได้
โจวเจ๋อพยายามใช้กำลัง แต่กลับเซล้มสองสามก้าว แล้วจึงกลับไปนั่งบนโซฟาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าบนโซฟาจะเต็มไปด้วยกาวเหนียว ทำให้หลังของโจวเจ๋อติดแหง็กอยู่บนนั้น
เถ้าแก่โจวเหมือนแมลงวันที่ติดกาวดักแมลง หลังจากดิ้นสองสามทีก็ขี้เกียจทรมานตัวเองแล้ว
“บาปเจ็ดประการ กำลังจะรวบรวมครบแล้ว และได้เยอะมากกว่าที่ผมคิดไว้” ตัวตลกลุกขึ้น เขาไม่โดนพันธนาการจึงเดินไปหาโจวเจ๋อ
บนเสื้อผ้าสีดำของเขาปรากฏจุดขึ้นมาหกจุด และกำลังหมุนเวียนสลับกันอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ขาดแค่หนึ่งอย่างเท่านั้น
ราคะ โลภะ ตะกละ อัตตา ริษยา โทสะ ขาดแค่ความขี้เกียจของเหล่าโจว
“คุณเป็นอะไรกันแน่” โจวเจ๋อถาม
“ผมไม่ใช่สิ่งของ” อีกฝ่ายตอบเช่นนี้
“จริงใจมาก” โจวเจ๋อตกตะลึงเล็กน้อย เพราะจริงใจจนรู้สึกปวดใจ
“ขาดคุณอีกคนเดียวเท่านั้น” ภายใต้หน้ากากตัวตลกดูเหมือนจะมีดวงตาที่ลึกล้ำคู่หนึ่ง และนัยน์ตาคู่นี้สามารถอ่านใจคนได้ ดึงความปรารถนาที่อยู่ภายในใจออกมา ความปรารถนาเหมือนดั่งไฟ สามารถดึงมังกรไฟออกมา สามารถกลืนกินร่างของเจ้าบ้านได้เพียงพอ!
แต่ตัวตลกดูเหมือนจะมึนงงพอสมควร เพราะฉากที่อยู่ในร้านหนังสือมาพร้อมกับกลิ่นของความเสื่อมโทรมและเหม็นสกปรก ต่างจากสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นอย่างมาก และแตกต่างจากสิ่งที่เถ้าแก่โจวต้องการเช่นกัน ดูเหมือนเกิดความผิดพลาดบางอย่างในช่วงหนึ่ง ทว่าแม้แต่ตัวตลกก็ไม่แน่ใจว่าเกิดความผิดพลาดตรงไหนกันแน่ เป็นเพราะว่าตัวเองอ่อนแอเกินไปหรือเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า
“ขอเปลี่ยนเล็กน้อย” ตัวตลกยกมือ น้ำขังบนพื้นร้านหนังสือเริ่มหายไป น้ำหยดบนคานบ้านค่อยๆ หายไปเช่นกัน ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวแล้ว ทุกอย่างเริ่มยึดตามสภาพจริงของร้านหนังสือ
โจวเจ๋อมองตัวตลกที่อยู่ตรงหน้า มองเขากำลังเปลี่ยน กำลังปรับทุกอย่าง เหมือนกำลังดูเพชฌฆาตเลือกตุ๊กตามาประดับบนเครื่องประหารหัวสุนัข ทั้งหมดทั้งมวลเพียงเพื่อให้นักโทษประหารรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านโจวในฐานะยมทูตก็เป็นคนมีหน้ามีตายามเมื่อมีชีวิตอยู่
“คุณคิดว่าแบบนี้ดูดีไหม” ตัวตลกถามโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อหัวเราะแต่ไม่พูด ตัวตลกเดินเข้าหาโจวเจ๋อ ระยะห่างจากโจวเจ๋อไม่ถึงสองเมตร เขารู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกดีใจ จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ปล่อยให้ก่อไฟเผาร่างตัวเองอย่างเดียวดูยุ่งยากเกินไป สมองของคุณได้รับผลกระทบแบบนี้ ไม่ค่อยมีสติอยู่แล้ว สำหรับผมจึงสะดวกมาก กระทั่งรับมือง่ายกว่าคนอื่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล