ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 400

สรุปบท ตอนที่ 400 กาแฟ หนังสือพิมพ์ เพิ่มน้ำตาล!: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 400 กาแฟ หนังสือพิมพ์ เพิ่มน้ำตาล! – ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 400 กาแฟ หนังสือพิมพ์ เพิ่มน้ำตาล! ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 400 กาแฟ หนังสือพิมพ์ เพิ่มน้ำตาล!

ผู้หญิงคนนั้นมองโจวเจ๋ออย่างจริงจัง เธอเอียงศีรษะแล้วพูดว่า “ท่านสี่บอกว่า หลังจากฉันขึ้นมาแล้วจะฆ่าคนไม่ได้” เธอทำท่าทางสับสนเป็นอย่างมาก

“ทรมานจริงๆ คุณเลียนแบบคำพูดของฉัน สมควรตายจริงๆ แต่ฉันก็ดันฆ่าคุณไม่ได้อีก ดังนั้น ขอร้องคุณช่วยฆ่าตัวตายได้ไหม”

“…” โจวเจ๋อ

พูดตามความจริง โจวเจ๋อเห็นคนที่ออกมาจากนรกอยู่ไม่น้อย แต่ภาพลักษณ์ที่มีลักษณะแปลกแบบนี้ โจวเจ๋อไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ

“อย่าพูดเล่นแบบนี้ได้ไหม” หลินเข่อเป็นผู้หญิงที่อยู่ในร่างสาวน้อยโลลิ แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กลับตรงกันข้ามกับหลินเข่อเลย

“พูดเล่น?” ผู้หญิงครุ่นคิดจริงจัง “หรือว่าอยากจะนอนกับฉันใช่ไหม คุณยังอยากนอนกับฉันใช่ไหม”

โจวเจ๋อมีสีหน้ากลุ้มใจ เขารู้สึกว่า ถ้าหากจับผู้หญิงคนนี้กลับไปด้วยก็คงดี

หลังจากนักพรตเฒ่าถูกช่วยชีวิตออกมาแล้วต้องเป็นคนเถื่อนไปโดยปริยาย ไม่สามารถออกไปเที่ยวหาสาวใหญ่ได้อีก ถ้าหากจับตัวผู้หญิงคนนี้กลับไปให้นักพรตเฒ่า คาดว่านักพรตเฒ่าน่าจะดีใจเป็นอย่างมาก

ผู้หญิง ‘คุณอยากนอนกับฉันใช่ไหม’

นักพรตเฒ่า ‘อยากนอนพวกเราก็นอนเลย นอนกันอย่างเร่าร้อนสุดๆ ไปเลย!’

เวลานี้หยกหน้าเด็กสั่นกะทันหัน เหมือนกำลังส่งข้อมูลอะไรบางอย่าง ผู้หญิงคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แล้วจึงเผยรอยยิ้มร่าเริงออกมาในทันใด หัวเราะ ‘ฮ่าๆๆๆ’ เหมือนผู้ชาย เธอหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ!

“หยกผีบอกฉันว่า คุณไม่ใช่คนธรรมดา คุณเป็นยมทูต เป็นยมทูต งั้นก็ไม่มีปัญหา” เป็นยมทูตจึงไม่มีปัญหา ถึงแม้ยมทูตจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับต่ำที่สุด แต่อย่างน้อยก็เป็นคนในระบบใช่ไหมล่ะ แม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังสู้คนธรรมดาทั่วไปไม่ได้ พวกคุณเป็นข้าราชการในนรกอยู่ได้แค่นี้เองเหรอ

ผู้หญิงคนนั้นหยิบตราสัญลักษณ์คำสั่งออกมาจากหน้าอก เป็นตราสัญลักษณ์สีม่วง บนนั้นเขียนคำว่า ‘สี่’ ตราสัญลักษณ์นั้นมีกลิ่นอายที่น่าพรั่นพรึงอย่างเห็นได้ชัด มาพร้อมกับความรู้สึกอันน่าเกรงขาม

“ท่านสี่บอกว่า ถ้าหากฉันเจอเรื่องยุ่งยากให้อาศัยตราสัญลักษณ์นี้ ขอให้ยมทูตท้องถิ่นทำงานตามคำสั่งของฉัน!” เธอหันตราสัญลักษณ์ไปหาโจวเจ๋อ

“เคยเห็นไหม”

โจวเจ๋อส่ายหน้า ขอโทษนะ ในฐานะปลาเค็มที่ไม่ถนัดการสื่อสาร โจวเจ๋อไม่รู้จักเจ้าสิ่งนี้จริงๆ ถ้าหากทนายอันหรือสาวน้อยโลลิอยู่ที่นี่ด้วย พวกเขาอาจจะรู้จัก แต่สำหรับโจวเจ๋อเขาไม่รู้จักมัน แต่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก

“นี่คือตราสัญลักษณ์ของผู้ตรวจสอบ เห็นมันก็เหมือนเห็นผู้ตรวจสอบ!” ผู้หญิงคนนั้นตวาด “ตอนนี้ ฉันอยากให้คุณฟังคำสั่งของฉัน!”

‘ผู้ตรวจสอบ’ โจวเจ๋อมุมปากกระตุกโดยไม่รู้ตัว เรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังด้วยเหรอ เหมือนกับเหตุการณ์ใน ‘ไซอิ๋ว’ กับในความเป็นจริง ปีศาจตัวเล็กตัวน้อยและอันธพาลที่ไม่มีคนให้ท้าย นึกจะจับก็จับ นึกจะปราบก็ปราบ และที่น่าเบื่อที่สุดก็คือปีศาจที่มีผู้สนับสนุนอยู่ข้างหลัง เป็นเรื่องที่ทำให้คนปวดหัวที่สุด

“อย่างนั้นคุณอยากให้ผมทำอะไร” โจวเจ๋อถาม

“อืมมม…” เธอครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันอยากให้คุณฆ่าตัวตาย เพราะฉันไม่ชอบคุณมากจริงๆ!”

“…”ไม่เอาน่า ไม่เล่นอะไรไร้สาระแล้ว ฉันเข้าใจ เธอเป็นคนโง่จริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง

โจวเจ๋อพุ่งเข้าหาหยกผีโดยตรง เพราะหยกผีอันนี้ทำให้คนบริสุทธิ์มากมายต้องเสียชีวิต ทำให้นักพรตเฒ่ากับอิงอิงเกือบซวยไปด้วย

ตอนนี้นักพรตเฒ่ายังอยู่ในคุกอยู่เลย โจวเจ๋อในฐานะเถ้าแก่จึงรู้สึกกลัดกลุ้มใจและเป็นห่วง กินไม่ได้นอนไม่หลับจะต้องทำลายเจ้าสิ่งนี้ให้ได้! ถึงแม้ว่าจะทำเพื่อดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่ต้องตายอย่างน่าอนาถ หรือทำเพื่ออิงอิงที่บ้าคลั่งอาละวาดก่อนหน้านั้นก็ตาม

“คุณกล้า!” ผู้หญิงเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ขวางโจวเจ๋อเอาไว้ สายลมอันแข็งแกร่งสีดำพัดผ่านโจวเจ๋อโดยตรง โจวเจ๋อจ้องนิ่ง จากนั้นเกราะซามูไรจึงปรากฏขึ้นมา

‘ปึง!’ สายลมอันแข็งแกร่งหวดไปที่เกราะซามูไรของโจวเจ๋อ วินาทีต่อมา โจวเจ๋อถอยหลังออกไป เกราะตรงหน้าอกแตกออกเป็นช่องขนาดใหญ่ จากนั้นเลือดสดจึงไหลออกมา ถึงกับทำลายการป้องกันได้ด้วยกระบวนท่าเดียว!

“เกราะซามูไรญี่ปุ่นกับรถญี่ปุ่นล้วนเหมือนกัน ไม่แข็งแกร่งมั่นคง”

โจวเจ๋อเก็บเกราะซามูไรกลับไป แทนที่จะเปลืองแรงของตัวเองกับอุปกรณ์ป้องกันที่พึ่งพาไม่ได้ ไม่สู้เก็บแรงเอาไว้เพื่อใช้ในด้านอื่นจะดีกว่า

“ฉันถือตราสัญลักษณ์แล้ว ทำไมคุณยังไม่ฆ่าตัวตาย” ผู้หญิงถามด้วยความโมโห

ผู้หญิงคนนั้นคลานขึ้นมาอย่างเงียบๆ เนื้อตัวของเธอสกปรก หน้าเปรอะ ผมเผ้าก็มีแต่โคลน หูก็เลอะ เธอเอียงศีรษะแลบลิ้นออกมาเลียโคลนที่อยู่บนใบหน้าของตัวเอง นัยน์ตาส่วนลึกเริ่มมีแสงสีแดงเข้มปรากฏขึ้นมา

“ท่านสี่บอกว่า ถ้าหากใครทำให้เจ้าล้ม อย่างนั้นเจ้าก็ไปเด็ดหัวของมันมา!” ผู้หญิงคนนั้นยกมือ จากนั้นสายลมอันแข็งแกร่งจึงเริ่มรวมตัวซ้อนทับกัน ก่อตัวเป็นเงาดำขนาดใหญ่ที่ข้างตัวเธอ

โจวเจ๋อคุกเข่าลงข้างหนึ่ง สายตาจ้องเขม็งไปข้างหน้า ถ้าหากแขนขวาของเขาไม่หักยังเป็นแขนปกติ บวกกับแรงทั้งสิบนิ้วของเขา ตัวเขาอาจจะพอมีแรงมากกว่านี้ แต่ตอนนี้อาศัยแค่มือข้างเดียวเท่านั้น จึงกินแรงมากเกินไปจริงๆ

ถึงแม้ว่าเวลานี้โจวเจ๋อจะไม่รู้สึกว่าครั้งนี้ตัวเองจะเก่งกาจอะไร แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองกำลังทำเรื่องไร้สาระ มีหลายครั้งที่คนเราเย็นชาได้ ไม่ยุ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง แต่ในเมื่อเรื่องนี้ เขายื่นมือเข้ามาแทรกแล้ว และได้เห็นกับตาตัวเอง จะให้เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็น ถือว่าเป็นเรื่องยากจริงๆ

“คนของนรก…น่าขยะแขยงมาก…ใช่ไหม…เหมือนจะดูดี…ทำตัวสูงส่ง…แต่กลับมองโลกมนุษย์…เป็นแปลงปลูกผัก…สำหรับตัวพวกเขาเอง…” เสียงนั่นดังก้องขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของโจวเจ๋อ

“ตอนที่พวกเขาดีใจ..ก็ตัดผักหนึ่งกำ…ตอนที่พวกเขาอารมณ์เสีย…ก็ตัดผักหนึ่งกำ…หลังจากนั้นก็จะพูดว่า…ทำไปเพื่อพวกเจ้า…น่าขยะแขยง…จริงๆ…” โจวเจ๋อไม่ขานรับเสียงนั่น

“มาสิ…หยิบยืมพลังของข้า…บีบคอเธอให้ตาย…ฆ่าให้ตาย…ไม่มีพลังของข้า…อึดอัดมากใช่ไหม”

“คุณช่วยอยู่นิ่งๆ หน่อย” โจวเจ๋อไม่สนใจคำยั่วยุของคนผู้นั้น โจวเจ๋อนั่งลงยองๆ อย่างเงียบๆ คว่ำฝ่ามือลงช้าๆ ‘วืดๆๆๆ!!!!!!!!’ สายลมอันแข็งแกร่งโจมตีเข้ามาด้วยพลังอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร!

หมอกสีดำกลางฝ่ามือของโจวเจ๋อปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง “หนังสือพิมพ์!” หมอกสีดำรวมตัวเป็นแพแล้วฟาดลงไปบนพื้น โคลนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงยุบลงไปทั้งหมด จากนั้นโจวเจ๋อจึงใช้แรงดีดตัวออกไป

‘ปึงๆๆ!!!!’ ตำแหน่งเดิมของโจวเจ๋อ ถูกสายลมที่แข็งแกร่งพัดประสานพลิกกลับไปกลับมา ผู้หญิงเงยหน้าขึ้น มองโจวเจ๋อที่ ‘ลอย’ ขึ้นมา เธอรู้ดีว่าตัวเองพลาดแล้ว และตอนนี้นิ้วทั้งสองของโจวเจ๋อชี้ไปที่เธอ เล็บของนิ้วชี้กับนิ้วนางเปลี่ยนเป็นสีแดง ดูเหมือนเล็บเกือบจะหลุดร่วงลงมา นิ้วทั้งสิบเชื่อมต่อถึงหัวใจ แต่โจวเจ๋อยังคงฝืนทนความเจ็บปวด พูดเสียงขรึมว่า “เพิ่มน้ำตาล…”

‘ฟึบ!’ เล็บทั้งสองหลุดจากนิ้วของโจวเจ๋อโดยตรงแล้วพุ่งออกไปทันที โจวเจ๋อร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานก่อนล้มลงไปบนพื้น เล็บของเขาต่างจากเล็บของคนทั่วไป เพราะเล็บของเขาเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของตัวเอง!

ผู้หญิงยื่นมือออกไป ต้องการใช้เวลารวบรวมสายลมอันแข็งแกร่ง จากนั้นลมแรงสายหนึ่งก็พุ่งออกไปซัดเล็บหนึ่งของโจวเจ๋อกระเด็น แต่เล็บอันที่สองกลับแทงเข้ามาในร่างกาย แทงทะลุหน้าอกของผู้หญิงคนนั้นตรงๆ เธอตัวสั่นทันที ก้มมองหน้าอกของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ถึงแม้จะเป็นแค่บาดแผลเล็กๆ เท่านั้น อาจจะเป็นแผลเท่าขนาดกระสุน แต่ตรงตำแหน่งที่บาดเจ็บ กลับเริ่มมีหมอกสีดำขยายตัวออกมาอย่างรวดเร็ว โดยมีแผลเป็นจุดศูนย์กลาง เนื้อแต่ละชิ้นส่วนเริ่มเน่าเปื่อยลุกลามอย่างน่ากลัว

เธอเงยหน้ามองโจวเจ๋อด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ ส่วนหยกผีที่ก่อตัวอยู่ข้างๆ เมื่อครู่กลับรู้สึกหวาดหวั่นยิ่งกว่า!

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล