ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 407

ตอนที่ 407 ท่านเคยถูกเจ้าลิงล้มคว่ำมาก่อน

หลังจากได้ฟังคำอธิบายของทนายอัน เดิมทีเถ้าแก่โจวไม่มีความหวาดวิตกแม้แต่น้อย จู่ๆ ในเวลานี้ก็เริ่มลุกลี้ลุกลนเหงื่อผุดไหลลงมาจากหน้าผาก

ตัวทนายอันเองเป็นเพราะต้องโทษติดตัว ส่วนไป๋อิงอิงนั้นเป็นผีดิบที่ยังค้างอยู่บนโลกนี้เดิมมันก็เป็นความผิดอยู่แล้ว เป็นการต้องโทษตามหลักกฎหมาย แต่สำหรับโจวเจ๋อแล้ว หากเซี่ยจื้อจำเขาได้จริงๆ อย่างนั้นก็คงไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามหลักกฎหมายตามความยุติธรรมแบบธรรมดาทั่วไปแล้ว อาจจะอาศัยอำนาจส่วนรวมแก้แค้นส่วนตน เบียดบังผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นของส่วนตัว สามารถทุบหัวเขาได้เลย

ทุกวันนี้คนเราแม้แต่จะบังคับใช้กฎหมายให้เป็นกลางยังยากเลย นับประสาอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน

ทะเลแห่งความตาย…

ครองตำแหน่งเป็นหมาหวงก้างแต่ไร้ความสามารถ…

ที่ว่ามาหมายถึงใครกันแน่ เรื่องนี้เถ้าแก่โจวยังคงรู้ตัวอยู่

โจวเจ๋อไม่คิดว่าเซี่ยจื้อจะมีท่าทีที่อ่อนโยนเมื่อเผชิญหน้ากับชายผู้นั้นที่ทำให้มันเปลี่ยนจากรูปงามหล่อเหลาราวเทพบุตรกลายเป็นสัตว์เขาเดียวหรอกนะ จากนั้นเหมือนการพบปะเพื่อนเก่า นัดกันไปต่อที่แผงร้านมื้อดึกอีก

‘โฮก!’

เจ้าลิงเปล่งเสียงคำรามอีกครั้ง แม้ว่าสิ่งที่มันเผชิญหน้าจะเป็นการฉายภาพร่างแยกของสัตว์เทพก็ตาม มันยังคงมีท่าทีแข็งกร้าว ไม่สนว่าเพิ่งจะผ่านอะไรมา อย่างน้อยๆ มันก็ไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่ากลัวจนหัวหด บางทีนี่อาจจะเป็นธรรมชาติที่อยู่ในส่วนลึกจิตใจของเจ้าลิงละมั้ง

‘โครม!’

หวดหมัดออกไป หัวของสัตว์เทพถูกเจ้าลิงหวดขยับเอียงไปเล็กน้อย เจ้าลิงใช้โอกาสนี้ลุกขึ้น แต่วินาทีต่อมา ก่อนที่เจ้าลิงจะทันได้ออกห่าง สัตว์เทพหันไปด้านข้างอย่างรวดเร็วและซัดร่างเจ้าลิงอย่างแรง

‘ตุ้บ!’

เจ้าลิงลอยกระเด็นออกไป เนื้อตัวโชกไปด้วยเลือด

ลำแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่เขาข้างเดียวของสัตว์เทพ ร่างของเจ้าลิงถูกแทงทะลุในพริบตาเดียว เดิมทีเจ้าลิงก็ถูกโจมตีลอยกระเด็นออกมาอยู่แล้ว ในเวลานี้มันยิ่งดูเหมือนว่าวที่สายป่านขาดร่วงลงบนพื้นอย่างน่าสลดใจ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังร่วงลงมาต่อหน้าโจวเจ๋อและคนอื่นๆ อีกด้วย

แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพเสมือนของสัตว์เทพ และไม่นับว่าเป็นร่างแยกที่มีอยู่จริงเสียด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ปีศาจวานรที่เพิ่งฟื้นฟูพลังได้เล็กน้อยจะสามารถต่อกรด้วยได้

ทนายอันคุกเข่าและหมอบต่ำลง เขากำลังอธิษฐาน ภาวนาให้เซี่ยจื้อมองว่าเขาเป็นแค่ ‘ลมที่ถูกผายออกมา’ และปล่อยเขาไป

เขาถูกถอดยศถอดตำแหน่ง หากมองในมุมของหลักทำนองคลองธรรมแล้ว เขาน่าสังเวชมากพอแล้ว หากยังติดใจเอาความต่อไป มันก็จะเป็นการผีซ้ำด้ำพลอย รังแต่จะทำลายชื่อเสียงของตัวเองไปเปล่าๆ และด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครในนรกว่างจัดไม่มีอะไรทำเลยจงใจออกมาแหกปากจะฆ่าเขาเพื่อช่วยสวรรค์ผดุงคุณธรรม

แต่ถ้าว่ากันด้วยกฎหมายแล้ว โทษที่ตัวเขาอันปู้ฉี่ก่อขึ้นในตอนแรกนั้น มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต!

หากเซี่ยจื้อจะยึดปฏิบัติตามหลักกฎหมาย เขาอันปู้ฉี่เห็นทีจะหนีไม่พ้น แต่ตอนนี้เซี่ยจื้อเป็นแค่ภาพเสมือน น่าจะไม่ซักไซ้เอาความกับเขาหรอกใช่ไหม

สีหน้าไป๋อิงอิงดูแย่มากเช่นกัน แต่เธอยังยืนหยัดอดทนเอาไว้ การมีอยู่ของเธอเดิมก็เป็นความผิดอยู่แล้ว แต่ในแง่ของโทษทัณฑ์ อันที่จริงยังดีกว่าทนายอันอยู่บ้างเล็กน้อย ถึงอย่างไร การถือกำเนิดประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

ในเวลานี้อิงอิงก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่หน้าโจวเจ๋อ มือข้างหนึ่งกุมหน้าอกตัวเองและมืออีกข้างหนึ่งยันพื้นไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอต้องปกป้องเถ้าแก่ที่อยู่ข้างหลังเธอ ไม่ว่าเถ้าแก่จะบาดเจ็บอยู่หรือไม่

ในเวลานี้เถ้าแก่โจวไม่ได้ผลักอิงอิงออกไปก่อนและเอ่ยว่า ‘ผู้ชายไม่ควรปล่อยให้ผู้หญิงยืนขวางหน้าได้’ ถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมต้องเสแสร้งทำเป็นกล้าหาญด้วยล่ะ

มันมองไม่เห็นฉัน

มันมองไม่เห็นฉัน

มันต้องมองไม่เห็นฉันแน่ๆ

เถ้าแก่โจวท่องย้ำในใจซ้ำไปซ้ำมา

ครั้งก่อนที่โจวเจ๋อเจออดีตคนคุ้นเคยของเจ้านั่นในร่างเขาที่โรงเรียนมัธยมผิงเฉา ดูเหมือนว่าระดับในนรกของคนผู้นั้นจะสูงทีเดียว ตอนนั้นมันอันตรายมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่คนผู้นั้นพูดออกมาเองว่าในปีนั้นเคยถูกเจ้านั่นในร่างเขาข่มขืนมาก่อน โชคดีที่คนผู้นั้นดูเหมือนจะถูกบีบคั้นจากรักเก่าอยู่บ้าง หรือก็คือขี้เกียจเกินกว่าจะแก้แค้นในเวลานี้ ไม่เพียงไม่ทำให้โจวเจ๋อลำบากใจเท่านั้น ยังจงใจมอบสมุดหยินหยางให้โจวเจ๋ออีกต่างหาก บอกว่ารอเขาลงนรกไปหานางในสักวันหนึ่ง

ครั้งนั้นเป็นเพียงแค่กระต่ายตื่นตูมไปเอง

ครั้งนี้มันกลับต่างกันออกไป

เมื่อมองเจ้าสัตว์เขาเดียวตัวนั้น โจวเจ๋อรู้สึกหายใจติดขัดเล็กน้อย ลองคิดในมุมกลับกัน หากเขาถูกหักเขาข้างหนึ่งไป แล้วทำให้ภาพลักษณ์ทุกอย่างของตัวเองในสายตาผู้คนเปลี่ยนไปเป็นสัตว์เขาเดียวอย่างสิ้นเชิงมานานนับพันปี มันจะเป็นความความเกลียดชังและความโกรธแค้นมากมายแค่ไหนกัน โดยเฉพาะทุกครั้งที่เห็นรูปลักษณ์และรูปปั้นหินของตัวเองที่ศาลเจ้า ความชิงชังคงทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก!

ความเกลียดชังที่สะสมมาตลอดนับพันปี จุ๊ๆ ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเซี่ยจื้อเป็นแค่ภาพเสมือน อีกทั้งมีความสามารถในการนึกคิดไม่มากนัก หรือเจ้านั่นในร่างเขายังคงซ่อนตัวเป็นอย่างดี ตั้งแต่ต้นจนจบเซี่ยจื้อก็ยังไม่เคยมองมาที่เขาเลย

เจ้าลิงคลานขึ้นมาอีกครั้ง บนตัวของมันหลายจุดล้วนเผยให้เห็นกระดูก และล้อมรอบไปด้วยรังสีพลังปีศาจทะมึนทึบตลอดเวลา

‘โฮก!’

เจ้าลิงยังคงคำรามก้องอย่างทรงพลังต่อเนื่อง

ไม่มีพลังชีวิตของซุนหงอคง แต่กลับติดโรคของซุนหงอคง

“รีบหนีไป!” โจวเจ๋อตะโกนบอกเจ้าลิง

การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าตอนนี้ เจ้าลิงมีทางเลือกเดียวคือการวิ่งหนี

แต่เจ้าลิงกลับเหลือบมองสถานีตำรวจที่อยู่ภายในรั้ว และจ้องมองไปยังเซี่ยจื้อที่กำลังขวางอยู่ตรงหน้ามัน จากนั้นก็พุ่งกระโจนเข้าไปอีกครั้ง!

จู่ๆ ในส่วนลึกของดวงตาเซี่ยจื้อก็เปล่งประกายแสงแวววาว คราวนี้อารมณ์ที่แท้จริงปรากฎขึ้นมาในแววตาของมัน เป็นการดูหมิ่นและเป็นการเหยียดหยาม!

‘ปัง!’

ขาข้างหนึ่งทรุดลง เจ้าลิงใช้แขนข้างเดียวพยุงตัว แต่ยันค้ำไว้ได้ไม่ถึงสามวินาที เจ้าลิงก็เข่าทรุดลงไปทันที

‘วืด!’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล