ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 410

ตอนที่ 410 การรักษาพยาบาล

เมื่อโจวเจ๋อหลับตาลง เขตแดนสีฟ้าก็สลายลงไปพร้อมกัน

คนของร้านหนังสือทั้งหมดต่างฟุบลงกับพื้น หายใจหอบถี่ เหนื่อยล้ามาก ต้องบอกเลยว่า ตอนที่ต่อสู้ แม้ว่าจะเป็นแค่การแหกปากว่า ‘ยอดสุดๆ ไปเลย’ อยู่ข้างๆ แต่ก็ทำเอาเหนื่อยมากเช่นกัน

ทนายอันมองหลุมลึกด้านหน้าสลับกับมองเถ้าแก่ของเขาที่ยืนหลับตานิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น นี่คือสิ่งที่หลินเข่อบอกมาทั้งหมด พลังของคนผู้นั้นที่ซ่อนเร้นอยู่ในร่างเถ้าแก่งั้นเหรอ… ถึงกับกลืนน้ำลายลำบาก ก่อนหน้านี้ เขาแค่เคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็นกับตา คราวนี้ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว เพราะเหตุนี้เองเขาถึงได้ตกใจสุดขีด

กลืนน้ำลายค่อนข้างลำบากทีเดียว ในเวลานี้จู่ๆ ทนายอันก็รู้สึกละอายใจนิดหน่อย ละอายใจที่ตัวเองคอยเอาแต่โน้มน้าวเถ้าแก่ให้ขยันหมั่นเพียรครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องก้าวหน้า เลิกเป็นปลาเค็ม เลิกเกียจคร้าน เลิกทำแบบขอไปที แม้กระทั่งยังเคยผิดหวังในตัวเถ้าแก่เพราะเรื่องพวกนี้

แต่ทว่า ตอนนี้พอมาดูแล้ว มีหนังสือรับรองยมทูตของฝู่จวินอยู่กับตัว ในร่างผนึกผีดิบโบราณผู้ยิ่งใหญ่ไว้ เทียบเท่ากับการยกไอดีเลเวลตันและอุปกรณ์สวมใส่ระดับเทพให้เขาไปหมดแล้ว หากคุณยังบังคับให้เขาไปทำภารกิจ ‘มอบยา’ หรือ ‘ส่งจดหมาย’ ที่หมู่บ้านมือใหม่อีก นี่จะไม่เป็นการบังคับฝืนใจกันหรอกหรือ

ทำไมฉันถึงได้โง่เขลาขนาดนี้นะ! เถ้าแก่อย่างนี้ เขาจะนอนอาบแดด จะเป็นปลาเค็มแล้วมันจะผิดอะไร

เสียงดัง ‘ปุ’ โจวเจ๋อนั่งลงบนพื้น หน้าอกกระเพื่อมไม่หยุด และค่อยๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นก็หลับตาลงอีกครั้งอย่างเหนื่อยล้า ไป๋อิงอิงรีบเข้ามาช่วยพยุงโจวเจ๋อขึ้น

“เถ้าแก่ ท่านเป็นอะไรไหมเจ้าคะ”

โจวเจ๋อส่ายหน้าแล้วกำหมัดสองข้างของตัวเองโดยไม่รู้ตัว มีเรื่องน่ายินดีที่เหนือความคาดหมาย นั่นก็คือแขนที่หักของเขากลับมาหายดีแล้ว เล็บที่ฉีกหักก่อนหน้านี้ก็งอกกลับมาแล้วเช่นกัน แน่นอนว่าความปีติสุขอันเล็กน้อยนี้ อันที่จริงไม่มากพอให้ตื่นเต้นอะไร มันเป็นเพียงแค่วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอีกอย่างหนึ่งก็เท่านั้น

ผนึกของเจ้างั่งก็ใช่ว่าจะไม่มีขอบเขตและจุดสิ้นสุดเช่นกัน หลังจากการปลดผนึก โจวเจ๋อก็สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่า คำว่า ‘ผนึก’ คำนั้น ไม่ว่าเจ้างั่งจะตวัดวาดซ้ำใหม่ต่อไปแค่ไหน มันก็ไม่กลับมาสดสว่างและหนาทึบเหมือนตอนแรกอีกแล้ว มันจางลงไปมากทีเดียว

เจ้าลิงน้อยท้องอืดอยู่ข้างๆ โจวเจ๋อ แอบลอบมองโจวเจ๋อด้วยความละอายใจเล็กน้อย มันรู้ดีว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมันเป็นต้นเหตุ หากว่ามันไม่พุ่งเข้าใส่สถานีตำรวจอย่างโง่เขลา ก็จะไม่เกิดปัญหายุ่งยากตามมาภายหลังหรอก

โจวเจ๋อยื่นมือลูบหัวเจ้าลิงน้อย เจ้าลิงน้อยดูเชื่อฟังมาก ไม่ได้ต่อต้าน ตรงกันข้ามกลับถูไถฝ่ามือของโจวเจ๋อแทน

“เจ้าลิง นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฉันไม่ติดค้างอะไรแกแล้วนะ”

เจ้าลิงน้อยยืนขึ้นและชี้ไปข้างในรั้วอย่างขี้ขลาด ความหมายง่ายมาก ไหนๆ ก็มากันหมดทุกคนแล้วก็ช่วยพานักพรตเฒ่าออกมาด้วยเลยสิ

“ตอนนี้ยังไม่ได้” ทนายอันรีบเดินเข้ามา มือซ้ายของเขามีเลือดแดงฉานไหลหยดลงมา ดูน่ากลัวมาก แต่ก็ยังฝืนทนความเจ็บปวดของตัวเองแล้วพูดว่า “เมื่อภาพเสมือนของเซี่ยจื้อในที่นี้ถูกกำจัดไปแล้ว ร่างแท้จริงของเซี่ยจื้อจะต้องสัมผัสได้แน่ๆ แม้มันอาจจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแน่ชัด แต่มันต้องระแวดระวังต่อที่นี่อย่างแน่นอน พวกเราไม่สามารถเคลื่อนไหวในสถานีตำรวจได้อีกแล้ว แม้กระทั่งการเข้าออกสถานีตำรวจในอนาคต ห้ามเผยพลังของตัวเองออกมาเด็ดขาด หากประมาทแม้แต่น้อยนิด ก็อาจจะถูกเซี่ยจื้อที่ตั้งใจจับตามองที่นี่อยู่สังเกตเห็น”

โจวเจ๋อพยักหน้า เขารู้ว่าเมื่อสักครู่เจ้านั่นในร่างของเขาทำอะไรลงไป เป็นเพียงแค่การกลืนกินภาพเสมือนเข้าไปเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มันออกไปรายงานข่าว ดูเหมือนว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างหมดจดและเด็ดขาดมาก แต่ในความจริงนั้น หากสะเพร่าเพียงน้อยนิดก็อาจทำให้สถานการณ์เกินเยียวยา!

มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่า หากไม่สามารถขวางมันได้สำเร็จ หรือหากเขาไม่มีแหวนทองสัมฤทธิ์ละก็ เมื่อข่าวนี้รั่วออกไป บางทีตอนที่เขาเพิ่งเอนตัวนอนลงบนโซฟาในวันรุ่งขึ้น ศัตรูอย่างเช่นพวกทวยเทพ พุทธะ และผู้มีอำนาจในนรกต่างๆ มากมายอาจมารวมตัวกันที่ชั้นหนึ่งของร้านหนังสือ ต่างพากันเล่นเกมทายนิ้วเพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นคนแยกชิ้นส่วน แย่งกันเป็นหัวโจกในการล้างแค้น แค่นึกถึงภาพ ก็ทำให้คนตัวสั่นเป็นลูกนกได้แล้ว

หลังจากทุกคนเก็บกวาดเรียบร้อยก็กลับร้านหนังสือด้วยกัน

ในห้องขัง นักพรตเฒ่าที่เรียกร้องความเป็นธรรมจนเหนื่อย ในเวลานี้ยังคงหลับสนิทอยู่ และไม่ได้รับรู้ถึงความวุ่นวายข้างนอกที่เกิดขึ้นเพราะเขาเลยแม้แต่น้อย

ตอนกลับไปที่ร้านหนังสือก็เป็นเวลาตีห้ากว่าแล้ว โจวเจ๋ออาบน้ำและกำลังเตรียมขึ้นไปนอนชั้นบน ในเวลานี้ มีคนเคาะประตูร้าน เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งอายุราวๆ ห้าสิบปี ทั้งคู่แต่งตัวเรียบง่าย สีหน้าอมทุกข์

ไป๋อิงอิงไปเปิดประตูและถามขึ้น “ขอโทษนะคะ พวกคุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”

ในเวลานี้ ผู้หญิงคุกเข่าลงบนพื้น ส่วนผู้ชายก็คุกเข่าตามลงมา

“ได้โปรดเถอะ ช่วยพวกเราด้วยนะ ช่วยพวกเราด้วย” พูดแล้วผู้หญิงคนนั้นก็เตรียมเปิดถุงพลาสติกในมือตัวเอง ในนั้นดูเหมือนจะใส่ของเอาไว้ไม่น้อยเลย

“อิงอิง ไล่พวกเขาไปเถอะ อย่าปล่อยให้เธอเปิดถุง!” โจวเจ๋อที่ยืนอยู่บนบันไดยังไม่ได้ขึ้นไปตะโกนออกมา

“เจ้าค่ะ!” อิงอิงนึกว่าทั้งสองคนนี้มีจุดประสงค์อื่น จึงเตะถุงในมือผู้หญิงคนนั้นลอยกระเด็นทันที เห็นเพียงถุงในมือลอยละลิ่วออกไป มีเอกสารมากมายร่วงหล่นลงมา

ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงคนนั้นยังถูกไป๋อิงอิงคว้าคอกระชากขึ้นมา “บอกมา พวกแกมีจุดประสงค์อะไรกันแน่!”

ชายที่อยู่ข้างๆ รีบลุกขึ้นไปช่วยชีวิตภรรยาของเขาทันที แต่แรงของผู้ชายเพียงคนเดียว ไม่ช่วยให้มือของอิงอิงมีท่าทีว่าจะปล่อยออกแม้แต่น้อย

“…” โจวเจ๋อ

น่าปวดหัวหน่อยๆ

โจวเจ๋อทำได้เพียงเดินลงมาจากบันไดและส่งสัญญาณบอกให้สาวใช้ของตัวเองปล่อยมือ ผู้หญิงล้มลงกับพื้น หอบหายใจถี่ ส่วนผู้ชายคุกเข่าอยู่ข้างกายเธอ ท่าทางโกรธมากแต่ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา

“เถ้าแก่เจ้าคะ” ไป๋อิงอิงไม่เข้าใจ

โจวเจ๋อถอนหายใจ โน้มตัวลงไปเก็บเอกสารที่เพิ่งถูกอิงอิงเตะออกไปจากในถุงพลาสติกขึ้นมา บนนั้นมีตราประทับของคณะกรรมการหมู่บ้านท้องถิ่น พิสูจน์ได้ว่าสามีภรรยาคู่นี้เป็นครัวเรือนยากจนในท้องถิ่น และยังมีเอกสาร เช่น สำเนาผลการตรวจต่างๆ จากห้องปฏิบัติการในโรงพยาบาล และใบตรวจโรคที่แพทย์ออกให้อีกด้วย

เถ้าแก่โจวมีความถนัดในด้านนี้ ในทุกวันนี้ เรื่องการระดมทุนเพื่อการรักษาพยาบาลมากมายท้ายที่สุดจะเกิดปัญหาต่างๆ นานาตามมา สาเหตุส่วนใหญ่มาจากประชาชนทั่วไปไม่คุ้นเคยกับปัญหาทางการแพทย์

อย่างเช่น โรคอะไรต้องใช้เงินประมาณเท่าไรในการรักษา ต้องใช้เงินเท่าไรในการกายภาพบำบัด ประกันสุขภาพในเมืองและประกันสุขภาพชนบทสามารถเบิกได้เท่าไร นอกจากบุคลากรทางการแพทย์มืออาชีพรวมถึงคนส่วนน้อยที่บังเอิญมีคนป่วยเป็นโรคที่คล้ายๆ กันในครัวเรือนแล้ว ส่วนใหญ่ที่เหลือโดยพื้นฐานล้วนไม่เข้าใจและสับสนทั้งสิ้น

แต่หลังจากโจวเจ๋อตรวจสอบดู ผู้ป่วยน่าจะเป็นลูกสาวของพวกเขาที่ตรวจพบมะเร็งเม็ดเลือดขาว ทำการจับคู่สำเร็จแล้ว และจำเป็นต้องทำการปลูกถ่าย อีกทั้งสิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อประหลาดใจก็คือ ชื่อของเด็กสาวบนประวัติผู้ป่วยที่ชื่อว่า ‘โจวเจ๋อหย่า’ กับชื่อของเขาเพียงแค่เพิ่มมาหนึ่งตัวอักษรเท่านั้น

“ยังขาดอีกเท่าไร” โจวเจ๋อถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล