ตอนที่ 436 ย่าทวด
มีอยู่บางร้านชอบเปิดในย่านตัวเมือง ยิ่งผู้คนหลั่งไหลมากันเท่าไรกิจการก็ยิ่งดีเท่านั้น แต่ก็มีอยู่บางร้าน เนื่องด้วยเหตุผลพิเศษหลายประการจึงไม่จำเป็นต้องดึงดันเปิดในย่านตัวเมือง เช่นเดียวกับร้านอาหารส่วนตัวที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปบางแห่ง ยิ่งลับตาคนมากเท่าไรก็ยิ่งมีคุณค่าสูง พวกนักกินอาหารก็ยิ่งแห่กันไปมากขึ้นเท่านั้น
‘ไห่เฉาคลับ’ แห่งนี้เปิดที่เขตชานเมืองเหยียนเฉิง กระทั่งเป็นพื้นที่ชานเมืองในเขตชานเมืองอีกที มีตำบลเล็กๆ ในบริเวณใกล้เคียง ไกลออกไปก็ยังมีเขตอุตสาหกรรมกึ่งร้างอยู่อีกด้วย
ในช่วงปีแรกๆ เขตอุตสาหกรรมหรือแม้กระทั่งเขตอุตสาหกรรมไฮเทคนั้นได้รับความนิยมไปทั่วทุกที่ ราวกับว่าหากในเมืองของตัวเองไร้เขตไฮเทคสักแห่งสองแห่งก็จะรู้สึกว่าราคาตก แต่ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ในตอนสุดท้ายเขตอุตสาหกรรมหลายๆ แห่งทำได้เพียงปิดฉากลงอย่างเลวร้าย และด้วยเหตุนี้ความนิยมของสถานที่แห่งนี้จึงยิ่งลดลงตามไปด้วย
แต่ทว่า ทางเข้าของ ‘ไห่เฉาคลับ’ แห่งนี้กลับมีรถหรูจอดเรียงราย คนที่ดูร่ำรวยมีสตางค์เข้าออกที่นี่กันกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า หลายคนขับรถจากในเมืองมาที่นี่ แม้กระทั่งตั้งใจขับมาจากเมืองหรืออำเภอใกล้เคียงก็มีไม่น้อยเลย
การตกแต่งตั้งแต่ก้าวเข้าประตูไปจนถึงภายใน ล้วนแสดงให้เห็นว่าคลับแห่งนี้ไม่ธรรมดา หรูหรา มีระดับ การบริการเอาใจใส่ครบครัน และด้วยเหตุนี้จึงมีชื่อเสียงเลื่องลือจนนักชิมแวะเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ในสำนักงานชั้นสูงสุดของคลับ มีชายหนุ่มสวมเสื้อแขนสั้นสีดำนั่งไขว่ห้างสูบซิการ์อยู่หลังโต๊ะทำงาน ห้องทำงานของเขาเป็นผนังห้องทั้งสี่ด้าน ไม่มีหน้าต่าง แต่เมื่อเขากดปุ่ม ผนังก็เริ่มเลื่อนลง และสิ่งที่เผยให้เห็นคือผนังกระจกทางเดียวสามด้าน มีผนังสองด้านที่หันหน้าไปทางห้องแต่งตัวของสาวๆ ส่วนผนังอีกด้านหนึ่งกลับหันไปทางสถานที่ที่สาวๆ พักผ่อนรอการถูกเลือก
หญิงบริการเรียงกันเป็นแถว ไม่รู้ว่าพฤติกรรมของตัวเองถูกสอดส่องอยู่
แน่ละ หากพวกเธอรู้ว่าถูกเจ้านายใหญ่แอบมองอยู่ละก็ บางทีอาจจะทุ่มสุดตัวมากกว่าเดิมก็ได้
ชายหนุ่มสูบซิการ์พลางชื่นชม ดูเหมือนว่าเขาจะชื่นชอบความรู้สึกนี้มาก ชอบเสียจนดวงตาที่เล็กอยู่แล้วค่อยๆ หรี่ลง
“ท่านประธานหูคะ มีคนมาขอพบท่านค่ะ” เสียงปลายสายสอบถาม
“ใครล่ะเนี่ย” ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ปกติแล้วเขาไม่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการบริหารคลับแห่งนี้ เพียงแค่เป็นเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังเท่านั้น นอกจากผู้บริหารระดับสูงของคลับไม่กี่คนแล้ว คนที่เหลือก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมีเจ้านายใหญ่อยู่เบื้องหลัง
“บอกว่าเป็นพี่สาวของท่านค่ะ”
“พี่สาวของผมเหรอ” ชายหนุ่มลังเลชั่วครู่และพูด “ให้เธอเข้ามา”
จากนั้นชายหนุ่มเตรียมจะกดปุ่มให้ผนังปิดกลับมาอีกครั้ง
“ไม่ต้องทำหรอก ข้าเห็นหมดแล้วละ” เสียงเย็นชาดังขึ้นข้างหลังชายหนุ่ม ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว รีบกุลีกุจอลุกจากเก้าอี้และคุกเข่าลงทันที
“ข้าน้อยคารวะย่าทวด ย่าทวดจงเจริญ”
หญิงสาวที่ปรากฏตัวคือจิ้งจอกขาวที่กลายร่างเป็นมนุษย์ ต้องขอบคุณชุ่ยฮวา จิ้งจอกขาวฟื้นพลังขึ้นมาบ้างแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ถึงจุดสูงสุดก็ตาม แต่อย่างน้อยๆ ก็สามารถคืนร่างเป็นมนุษย์ได้โดยที่ไม่ต้องวิ่งเปลือยกายไปๆ มาๆ เฉกเช่นสัตว์เดรัจฉานให้อับอายทุกวัน
เรื่องนี้ถือว่าทนายอันรักษาคำพูด ประกอบกับชุ่ยฮวาก็นับว่าเป็นผู้มีพระคุณของเขาด้วย หลังจากจบเรื่องแล้วก็ส่งชุ่ยฮวากลับนรกไปจริงๆ
จิ้งจอกขาวเดินไปข้างเก้าอี้และนั่งลง ชายหนุ่มคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่กล้ากระดิกตัว
“เจ้า สบายจังเลยนะ ดูเหมือนว่าจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาโดยตลอด”
“ย่าทวดโปรดใจเย็น ย่าทวดใจเย็นก่อน ข้าน้อยเคยส่งคนไปตามหาย่าทวดแล้ว แต่คลับแห่งนั้นในทงเฉิงกลับว่างเปล่า แม้แต่เหล่าพี่น้องก็จากไปแล้ว ข้าน้อยตกใจแทบตาย แต่ข้าน้อยก็ไม่กล้าไปที่ใดยังอยู่ที่นี่เช่นเดิม เอาแต่เฝ้ารอให้ย่าทวดมาปรากฏตัวและเรียกใช้ข้าน้อยอย่างไรเล่า”
ชายหนุ่มที่แต่เดิมดูภูมิฐานเปี่ยมไปด้วยมาดเจ้านายในเวลานี้กลับพูดพลางเช็ดน้ำตาปอยๆ ดูน่าสงสารเสียจริงเชียว
“เอาละๆ ข้าไม่ได้หมายความอื่นใดหรอก การที่เจ้าเต็มใจอยู่ที่นี่ก็ยังนับว่าเจ้ามีความกตัญญูอยู่บ้าง”
“ข้าน้อยกตัญญูต่อย่าทวด ฟ้าดินเป็นพยาน หากไม่มีการชี้นำของย่าทวด บัดนี้ข้าน้อยก็ยังเป็นคนโง่เขลาอยู่ในป่าเก่าแก่ขอรับ!”
“จัดการหาที่พักให้ข้า ข้าต้องการพักผ่อนเงียบๆ”
“ใช่กลับไปที่ป่าเก่าแก่หรือไม่”
“หาสถานที่แถวนี้ที่ฮวงจุ้ยดีๆ หน่อยก็แล้วกัน”
จิ้งจอกขาวไม่ได้บอกเหตุผล จริงๆ แล้วเป็นเพราะตอนนี้เธอยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ บวกกับพฤติกรรมและอารมณ์ก่อนหน้านี้ของเธอ ทำให้ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในป่าเก่าแก่ไม่ค่อยจะดีนัก
ป่าเก่าแก่ย่อมเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาบาดแผลแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ต้องคอยกังวลว่าพวกคร่ำครึจะหาโอกาสซ้ำเติม แม้ว่าจะไม่ถึงตายก็ตาม แต่จะถูกเยาะเย้ยอย่างแน่นอน
มันคล้ายกับผู้หญิงที่ออกจากหมู่บ้านขู่ฮาฮาไปเป็นหญิงบริการระดับสูงแล้วสวมใส่เครื่องเงินและทองกลับมา พวกชาวบ้านเหล่าญาติพี่น้องยิ้มแย้มและอิจฉาตาร้อน แต่ไม่วายนินทาลับหลังอยู่ดี แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้กลับมาโดยไม่มีอะไรเลย เดาว่าพวกชาวบ้านต้องถ่มน้ำลายตะโกนใส่ว่า ‘แพศยา สารเลว!’
จิ้งจอกขาวลูบหน้าผาก รู้สึกเศร้าเล็กน้อย อันที่จริงมีเหตุผลอีกประการหนึ่ง นั่นก็คือทนายคนนั้นได้ประทับตราบทบัญญัติสามประการกับเธอก่อนล่วงหน้าแล้ว โดยไม่ให้เธอออกห่างจากทงเฉิงไกลเกินไป ต้องการเธอเมื่อไร เธอก็ต้องกลับมา นี่เป็นเงื่อนไขที่ยอมให้ชุ่ยฮวารักษาเธอ
เมื่อนึกถึงทนายความคนนั้น จิ้งจอกขาวก็กัดฟันด้วยความโกรธ จักรพรรดิไม่รีบร้อนแต่ขันทีดันรีบร้อนไปได้ เถ้าแก่ร้านหนังสือคนนั้นยังขี้เกียจเกินจะสนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เขาดันทำตัวเป็นกุนซือหัวหมา[1]ขยันขันแข็งจนทำให้คนคาดไม่ถึง
จิ้งจอกขาวกวาดตามองโต๊ะทำงานพลางถามตามอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย
“เจ้าไม่ได้ทำเรื่องซี้ซั้วที่นี่ใช่ไหม”
ถึงเป็นโจรก็มีศักดิ์ศรี แม้ว่าจะเป็นธุรกิจค้าเนื้อหนังมังสาก็ตาม มันก็คือธุรกิจที่คล้ายกับหอนางโลมในสมัยโบราณ ที่จริงๆ แล้วก็มีกฎระเบียบของมันเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล