ตอนที่ 478 อิงอิง!
ทิวทัศน์สวยดูดี ในแม่น้ำที่มีทิวทัศน์สวยงามท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืนลอยด้วยมีกระทงดอกไม้มากมายลอย เรียงรายสลอน แสงไฟอ่อนๆ สวยงามยิ่งกว่าแสงไฟที่ทำขึ้นโดยมนุษย์ เต็มไปด้วยท่วงทำนองแห่งศิลปะ
ทว่าโจวเจ๋อรู้ดี นี่หมายความว่าความยุ่งยากมาเยือนแล้ว โจวเจ๋อคิดไม่ตก ทำไมปัญหายุ่งยากของตัวเองถึงมีเยอะขนาดนี้ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ทยอยมาไม่ขาดสาย และเขาดันเป็นคนที่เกลียดปัญหายุ่งยากที่สุด
อืม ถ้าหากเถ้าแก่โจวรู้ว่าเดิมทีหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คิดจะจากไปแล้ว แต่กลับรั้งอยู่ต่อเพราะโทรศัพท์ของนักพรตเฒ่า คาดว่าคงจะลงโทษนักพรตเฒ่าให้อุทิศตนสร้างเมืองอารยะธรรมทั่วทั้งสวีโจว เหมาถนนทุกเขตของเมืองนี้ไปเลย
ไม่ต้องมีใครถามว่าคุณเป็นใคร และก็ขี้เกียจถามโน่นถามนี่ จริงๆ แล้วตอนที่เห็นมองดอกพลับพลึงแดงบนผิวน้ำก็พอจะเดาออกได้สองสามส่วน ดอกพลับพลึงแดงก็คือดอกพลับพลึงแดง และต้องเจอเรื่องยุ่งยากเพราะดอกพลับพลึงแดงนี้มาแล้วหนึ่งอีกครั้ง ทว่าไม่มีทางอื่น ถ้าหากให้โจวเจ๋อเลือกอีกครั้ง เขาก็จะทำแบบนี้แน่นอน
นอกจากนี้ ‘สวนดอกไม้’ ที่ปลูกดอกพลับพลึงแดงในตอนนั้น มีผลกระทบอย่างหนักต่อกิจการร้านหนังสือของเขา ทั้งยังดูดวิญญาณของคนทั่วไปมาเป็นเศษอาหารหล่อเลี้ยง ซึ่งเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไป
“คุณไม่กลัวเหรอ” หญิงสาวตัวดำถาม “จิตใจคนเสื่อมถอยไม่จริงใจเหมือนคนสมัยก่อนแล้ว โจรขโมยของโดนจับได้ แต่กลับยังทำหน้านิ่งเหมือนเดิม” หญิงสาวตัวดำถ่อแพพายเรือ ด้วยสีหน้าที่จนใจ เหมือนกำลังพูดว่า ‘ไม่น่าเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนหน้าด้านไร้ยางอายขนาดนี้’
“ไม่กลัวหรอก แต่น่าสนุกมากกว่า” โจวเจ๋อขานรับ “ดอกพลับพลึงแดงที่ทำมาครั้งที่แล้วกินหมดแล้ว ผมกำลังเซ็งอยู่พอดี แล้วก็มีคนเอามาส่งถึงที่จนได้”
“เหอะๆ” หญิงสาวตัวดำหัวเราะ ดึงไม้ถ่อแพออกมาจากผิวน้ำ ร่างกายที่เล็กบอบบางของเธอกลับแฝงไปด้วยพลังมากมายไร้ที่สิ้นสุด เธอวาดไม้ถ่อแพกลางอากาศหนึ่งรอบ หากเป็นคนทั่วไป จะไม่มีพลังแบบนี้อย่างแน่นอน
“ฆ่ายมทูตแค่สองสามคนเท่านั้น ก็มองตัวเองเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่แล้วเหรอ ชายชราจิตวิปริตที่ชอบเล่นหุ่นเชิดคนนั้น ก็อยู่ในมือของคุณใช่ไหม จริงๆ เลย คนเรานะ อย่าประเมินตัวเองสูงเกินไป เวลามองสูง ถ้าร่วงลงมาจะล้มคะมำหัวทิ่ม”
ขณะที่พูด หญิงสาวตัวดำใช้มือข้างหนึ่งยกไม้ถ่อแพขึ้น ใช้มืออีกข้างหนึ่งชี้ไปที่ตัวเอง “คุณยายเคยสอนฉันว่า ไม่ว่าเธอจะปลูกดอกไม้อะไร เธอก็มีคือชีวิตเป็นแค่ของชาวสวนคนหนึ่ง ฉันจำได้ตลอด และฉันหวังว่าคุณจะจำได้เหมือนกัน แต่ตัวคุณไม่ยอมจดจำมัน ฉันจะช่วยให้คุณจำได้เอง!” หญิงสาวตัวดำสะบัดแขนข้างหนึ่ง แล้วไม้ถ่อแพที่อยู่ในมือของเธอก็ฟาดลงมาถูกหักโดยตรง เกิดลมพัดตึง!
โจวเจ๋อไม่ขยับ อิงอิงที่อยู่ข้างกายเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยืนอยู่ด้านหน้าโจวเจ๋อ สองมือประสานกัน!
‘“พึ่รึบ!’” ไม้ถ่อแพถูกหนีบอยู่ในมือของอิงอิง หญิงสาวตัวดำขยับแขนทั้งสองข้าง แต่กลับไม่สามารถควบคุมไม้ถ่อแพได้ อิงอิงจ้องมองนิ่ง แขนทั้งสองข้างสั่นเล็กน้อย
หญิงสาวพลังช้างทั้งสองคนกำลังประลองฝีมือกัน โจวเจ๋อไม่รีบลงออกมือ แต่เดินถอยหลังไปสองสามก้าว นั่งลงยองๆ ยื่นมือหยิบบุหรี่และไฟแช็กที่อิงอิงเพิ่งโยนทิ้งไปบนพื้นเมื่อครู่ขึ้นมา จากนั้นตัวเองก็จุดบุหรี่สูบอย่างสบายใจ
ไม่ใช่เพราะเขาตัวเองขี้เกียจสนใจความเป็นความตายของสาวใช้ที่อยู่ตรงหน้า แต่เป็นเพราะโจวเจ๋อเป็นห่วงว่าจะมีคนอื่นแอบอยู่แถวนี้อีก ดังนั้นเขาเองจึงต้องระมัดระวังบริเวณโดยรอบ
อืม เมื่อก่อนดูเหมือนเขาตัวเองจะไม่มีความตระหนักรู้และความคิดแบบนี้ เขาเขี่ยบุหรี่เล็กน้อย ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ ความมืดอปกคลุมเมืองแห่งนี้ ขณะเดียวกันได้สร้างเพื่อม่านป้องกันตัวสำหรับสิ่งของบางอย่าง
หญิงสาวทั้งสองคนยืนประจันหน้ากันอยู่รอบไม้ถ่อแพพายนานพักหนึ่ง สุดท้ายแพที่อยู่ใต้เท้าของหญิงสาวตัวดำจึงแตกออก จากนั้นตัวของเธอจึงกระโดดขึ้นไปกลางอากาศในเวลาเดียวกัน โดยอาศัยประโยชน์จากไม้ถ่อแพพายแล้วรูดไหถลลงไปตลอดทางอย่างรวดเร็ว
การทำสวนทำไร่เป็นเรื่องที่ลำบากอย่างหนึ่ง นับตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นต้องมีร่างกายแข็งแรงถึงจะดีมาก โชคดีที่ไป๋อิงอิงไปสมัครเรียนวิชาการต่อสู้สองสามคลาสตามคำแนะนำของทนายอัน เธอจึงไม่ต้องเป็นผีดิบสาวที่อาศัยพลังช้างอย่างเดียวแล้ว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมาด้วยเจตนาที่ไม่ดี อิงอิงจึงถอยหลังสองสามก้าวทันที ขณะเดียวกันจึงก็หันข้างยกเท้าสูงด้วยท่าเทควันโดแล้วถีบไปที่ไม้ถ่อแพพาย
‘“ครืด!’” ไม้ถ่อแพพายถูกเตะออกจนเซ แม้แต่หญิงสาวตัวดำก็ยังลื่นไหลเซล้มไปตามกัน ทว่าหญิงสาวได้หันข้างใช้มืออีกข้างหนึ่งจับไม้ถ่อแพพายเอาไว้ วินาทีต่อมา ไม้ถ่อแพพายจึงลอยอยู่เหนือน้ำ และเท้าของเธอก็เหยียบอยู่บนไม้ถ่อแพพายนั่นไม่ตกลงไปในน้ำเหมือนลูกหมาตกน้ำ
ท่าทางแบบนี้ดูสยิวกิ้วจริงๆ เหมือนกับฉากในหนังกำลังภายในที่คุณดูในวัยเด็กได้แสดงต่อหน้าคุณจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะแคร์ความรู้สึกของไป๋อิงอิง เถ้าแก่โจวคงจะปรบมือให้แล้ว
ถึงแม้โทรศัพท์จะอยู่ในมือแต่กลับไม่มีสัญญาณ ยังดีที่เถ้าแก่โจวเจอเรื่องเหล่านี้จนชินแล้ว หลักการที่แท้จริงในหนังสยองขวัญ โทรศัพท์มักจะใช้งานไม่ได้ตลอดไป
โจวเจ๋อทิ้งก้นบุหรี่ลงไปบนพื้นและขยี้ด้วยฝ่าเท้า แต่เขาก็ยังไม่ขยับตัว และบริเวณโดยรอบก็ไม่มีอะไรผิดปกติทว่าเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติก็คือความผิดปกติมากที่สุด เพราะตัวเขาเองกับอิงอิงแค่เดินออกมาไกลนิดหน่อย ล้างมือคุยกันริมน้ำเท่านั้น แต่ไม่ได้วิ่งไกลเข้าไปในภูเขาเสียหน่อย ถนนที่อยู่ด้านหลังคุณตั้งนานขนาดนี้แล้วอย่าว่าแต่คนเดินเลยแม้แต่รถสักคันก็ไม่มี นี่คือการกลั่นแกล้งกันทางสติปัญญาใช่ไหม
“ดอกพลับพลึงแดงเบ่งบาน คนตายแล้วเกิดใหม่!” หญิงสาวตัวดำเหมือนจะล้มเลิกการใช้กำปั้นแก้ปัญหาแล้วเพราะเธอรู้สึกว่าสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะมีกำปั้นที่แข็งกว่าตัวเองเล็กน้อย
ชั่วเวลาเดียว ดอกพลับพลึงแดงที่อยู่ในแม่น้ำได้กลายเป็นกลีบดอกไม้ ลอยไปหาอิงอิง และระหว่างทางดอกพลับพลึงแดงก็เริ่มเผาไหม้ เกิดเปลวไฟสีฟ้าเป็นจุดๆ มาพร้อมกับกลิ่นอายที่ทำให้คนต้องใจสั่น
ไฟเหล่านี้ทำให้โจวเจ๋อนึกถึงตอนที่ตัวเองกับทนายอันไปนรกแล้วเจอหญิงชรามาพร้อมกับขบวนผู้หญิงใส่ชุดกี่เพ้า มันมีความคล้ายคลึงกับเปลวไฟที่อยู่ในโคมไฟของหญิงชรา
มันคือไฟนรกเย่หั่ว!
“อิงอิง ถอยหลัง!” โจวเจ๋อรีบลุกขึ้น
“เถ้าแก่ อิงอิงรับไหว!” จะยอมเป็นคนขี้แพ้ต่อหน้าเถ้าแก่ได้อย่างไร! มีรัศมีสีดำหมุนวนอยู่ในนัยน์ตาของอิงอิงจากนั้นเธอจึงอ้าแขนทั้งสองข้าง แล้วตบลงไปบนพื้นโดยพลัน!
‘“ครืน!’” พื้นดินที่อยู่บริเวณใกล้ๆ สั่นสะเทือนขึ้นมา แม้แต่น้ำที่กระเซ็นเป็นฝอยที่อยู่ตรงหน้าก็ยังลอยสูงขึ้นมากขณะเดียวกันไอพิฆาตยังมีผลทำให้ไอพิฆาตแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง เพื่อหักล้างไฟนรกเย่หั่วนี้
“ฮู่ว้…” โจวเจ๋อประหลาดใจอยู่บ้าง “อิงอิง เก่งขนาดนี้เลยเหรอ”
“เอ่อ เป็นเพราะนอนกับเถ้าแก่นั่นแหละ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล