ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 479

ตอนที่ 479 เธอร้ายมาก!

สามารถพูดได้ว่า สภาวะคลั่งสภาพแปรเปลี่ยนเป็นผมขาวของอิงอิง เป็นเกิดการกลายพันธุ์สืบเนื่องมาจากการนอนกับโจวเจ๋อมาเป็นระยะเวลานาน เธอดูดซับลมหายใจที่ปล่อยออกมาโดยโจวเจ๋อ ทำให้สายเลือดของเธอได้รับการพัฒนาในระดับหนึ่ง

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ทำให้คนยากจะเข้าใจ แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามอิ๋งโกวเป็นหนึ่งในสี่บรรพบุรุษผีดิบผู้ยิ่งใหญ่ และยังเป็นเจ้าของท้องทะเลแห่งความตาย ขยายอาณาเขตปกครองและปราบปรามอยู่ในนรก

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะตกอับอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีความน่าเกรงขามเป็นของตัวเอง ซึ่งเหมือนกับลุงทหารที่ถูกส่งไปทำงานระดับรากหญ้าในช่วงปฏิวัติมอบอำนาจให้ปฏิรูปเมื่อหลายสิบกว่าปีก่อน ดูเหมือนจะตกอับ ยอมรับการปฏิวัติรูป แต่ถ้าหากเขาสอนคุณเรียนหนังสือ กับครูในชนบทที่สอนงคุณนเรียนหนังสือ มีระดับความแตกต่างกันอย่างมากพอสมควร

และด้วยเหตุนี้ ไป๋อิงอิงเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ จึงไม่ใช่เพราะเรื่องปาฏิหาริย์เท่านั้น ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดต่างหาก อย่างนั้นถึงจะเรียกว่าแปลก

โชคดีที่ทนายอันไม่รู้สาเหตุที่อยู่ในนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าหากเขารู้ล่ะก็ จะต้องรบเร้าโจวเจ๋อให้รีบไปหาผีดิบแล้วนอนด้วยต่อ ไม่ว่าอย่างไร ก็นอนเหมือนกัน นอนกับผีดิบตัวคนเดียวจะขาดทุนเกินไป ต้องหาผีดิบมานอนให้เต็มห้อง และถ้าหากโชคดี ผีดิบทั้งห้องเกิดการพัฒนาพร้อมกัน ก็จะได้ผีดิบหนึ่งทีม

แน่นอนว่า อิงอิงแต่เดิมไม่ใช่ผีดิบธรรมดาอยู่แล้ว เธอไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการหล่อเลี้ยงมานานสองร้อยปี จึงอยู่ในระดับที่ต่างจากดอกหญ้าริมทางเหล่านั้น และอาจจะเป็นเพราะบางทีผีดิบตัวอื่น ถึงแม้จะนอนกับโจวเจ๋อจนผิวหนังด้านหนา ก็อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร

หญิงสาวตัวดำล้มคว่ำไปกับพื้น เธอมองไป๋อิงอิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ ไป๋อิงอิงยังคงทำสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนเดิม เธอโกรธมาก โกรธมากจริงๆ

ในสายตาของอิงอิง เธออนุญาตให้หญิงสาวตัวดำคนนี้เข้าไปปลูกผักในร้านหนังสือแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับกล้าตีเธอ! อีกฝ่ายยังไม่พอใจ! ได้ปรนนิบัติเถ้าแก่คือเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้จักพอ

ถ้าหากไม่เห็นแก่ว่าเจ้ามีผิวที่ดำคล้ำ เถ้าแก่คงจะไม่สนใจเจ้า และไม่สร้างแรงกดดันให้ข้า เจ้าคิดว่าข้าจะอนุญาตให้เจ้าเข้ามาในร้านหนังสือไหม ในฐานะภรรยาหลวง เอ่อ…ไม่ว่าอย่างไรข้าอุตส่าห์ยอมถอยให้ขนาดนี้แล้ว แต่เจ้ากลับไม่ไว้หน้า!

หญิงสาวตัวดำหลับตา ร่างกายของเธอเริ่มร้อน ขณะเดียวกันเธอได้อ้าปาก อิงอิงเกิดความระแวดระวังตามสัญชาตญาณ กระโดดออกจากตัวของหญิงสาวทันที ไฟนรกเย่หั่วพ่นออกมาจากปากของหญิงสาวแล้วพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

อิงอิงเนื่องจากหลบได้ทัน ดังนั้นจึงไม่เป็นอะไร แต่หญิงสาวคนนั้นได้กลับคืนสู่ความอิสระอีกครั้ง เธอลุกขึ้นมาใหม่ ดูเหมือนว่ายาจะหมดฤทธิ์แล้ว ใบหน้าของเธอซีดขาว ร่างกายโอนเอนเล็กน้อย ทว่าไป๋อิงอิงผมยาวสยาย ดุดันเหมือนเดิม!

อย่างไรก็ตามคนหนึ่งเพิ่มพลังด้วยยา อีกคนหนึ่งยืนหยัดได้ด้วยพลังแห่งสายเลือด ถึงแม้จะได้รับพลังระยะสั้นแต่ผลของการใช้ยาจะมีประสิทธิภาพแย่กว่า ผลข้างเคียงก็จะยิ่งชัดเจนกว่า

“คนที่แล้วที่อยากให้ฉันเป็นคนปลูกผักของเธอ ฉันได้จับเธอมาปลูกเป็นผักไปแล้ว” หญิงสาวตัวดำหัวเราะอย่างเย็นชาขณะพูด

“เชอะ” อิงอิงทำเสียงขึ้นจมูก เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ

“หลังจากฉันจับเธอลงไปฝังแล้ว ฉันได้สาบานว่า ฉันเจินเหม่ยลี่ ต่อให้ต้องหิวตาย ก็จะไม่กระโดดลงไปเด็ดขาดและจะไม่ยอมเป็นทาสปลูกผักให้ผู้ใด!”

ไป๋อิงอิงเอียงศีรษะ กำหมัดของตัวเองแน่น “อย่างนั้นข้าคงทำได้แค่ต่ตีเจ้าให้ร้องไห้เท่านั้น จากนั้นก็จับมัดแล้วพากลับไป!” อิงอิงรู้ ว่าผู้หญิงคนนี้สามารถปลูกดอกพลับพลึงแดงได้ และเพื่อทำให้เถ้าแก่ได้กินข้าวอย่างมีความสุขและยินดีทุกวัน หญิงสาวน้อยคนนี้ เธอจะต้องพากลับบ้านให้ได้!

“พระท่าน ทำไมยังไม่มา! เธอเป็นผีดิบ วิชาของท่านสามารถควบคุมเธอได้พอดี เธอหนังเหนียวชะมัด ฉันจัดการไม่ไหว!” หญิงสาวตัวดำตะโกนไปที่ถนนข้างบน

“โยม โยมฟังผิดแล้ว เธอไม่ได้เรียกอาตมาข้าหรอก แถวนี้จะต้องมีพระคนอื่นอีกแน่นอน” พระขี้เรื้อนจงใจมองหาไปรอบๆ

โจวเจ๋อกำลังจะตัดสินใจ ไม่ว่าพระขี้เรื้อนจะอยู่ในสถานะไหน เขาขอทำลายค่ายกลนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน อิงอิงที่อยู่ทางนั้นดูเหมือนจะไม่เสียเปรียบ ตรงกันข้ามกลับเป็นฝ่ายเหนือกว่า อย่างนั้นเขาตัวเองก็วางใจ ทว่าในตอนนี้เอง จู่ๆ โจวเจ๋อรู้เจ็บที่หน้าอก เหมือนมีหลุมดำกำลังกลืนกินวิญญาณของตัวเอง นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น

“เนื้อหมานี้ สุดยอดจริงๆ!” นักพรตเฒ่าดื่มเหล้าคำใหญ่อีกครั้ง วันนี้เขากินก็อร่อยดื่มก็ฟิน หลังจากที่ออกมาจากคุกครั้งนั้น เขาไม่เคยปล่อยใจตัวเองแบบนี้มาก่อน

อันที่จริง นักพรตเฒ่าก็รู้อยู่แก่ใจ รู้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นปัญหาของเขา เพราะว่าไปซื้อบริการจนเจอเรื่องแย่ๆ แบบนั้น เขาเองก็ยังรู้สึกขายหน้า

ยังดีที่มีทั้งเหล้าและเนื้อ ความหดหู่ใจก่อนหน้านั้นถูกกวาดออกไปชั่วคราว และยังได้เจอทนายอันที่มีนิสัยคล้ายตัวเองอีก ในสายตาของนักพรตเฒ่า ปกติทนายอันจะเหมือนหัวหน้าที่คอยถือแส้หวดทุกคนในร้านหนังสือแล้วพูดว่า ‘ต้องขยันๆๆ ต้องสำเร็จๆๆ’ แต่ในเรื่องความชอบของผู้ชาย เขากับตัวเองมาสายเดียวกัน

ไม่เหมือนเถ้าแก่กับเหล่าสวี่ พวกเขาทั้งสองคน ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนั้นเท่าไร เหมือนคนไม่สนใจทางโลกก็ว่าได้

“มา พวกเราชนแก้วกัน จากนั้นก็ไปจิบชา!”

ทนายอันยกแก้วเหล้าขึ้น “ผมจะบอกคุณให้นะ นักพรตเฒ่า ชาของสวีโจว ไม่ใช่ของดีที่สุด ของดีที่สุด ต้องไปทางเหนืออีกนิด”

“ปักกิ่งเหรอ” นักพรตเฒ่าได้รับคำชี้แนะแล้ว

“ไม่ๆๆ” ทนายอันส่ายหน้า “ทางนั้นคุมเข้มเกินไป มีคำว่าจวงอยู่ในหมู่บ้าน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล