ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 498

ตอนที่ 498 เพิ่มน้ำตาล!

โจวเจ๋อหายใจเข้าลึกๆ ชุดเกราะบนร่างค่อยๆ จางหายไป นำของพรรค์นี้ออกมาขวางไว้ชั่วครู่ยังพอได้ แต่มากไปก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะหากปล่อยให้ปรากฏบนร่างและดูดกลืนพลังชี่พิฆาตในร่างกายเขาไปเรื่อยๆ ถ้ายืดเยื้อนานกว่านี้อีกหน่อยละก็ เขาคงจะเหนื่อยจนหมอบลงก่อนแล้ว

หน้าอกกระเพื่อมพักหนึ่งแล้วค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลง มือทั้งสองข้างของโจวเจ๋อห้อยลงมาข้างลำตัว เล็บทั้งสิบนิ้วสัมผัสอิฐบนพื้น มองจากรูปร่างแล้ว คล้ายกับ ‘อิโอริสภาวะคลุ้มคลั่ง’ ยุคเกมอาร์เคดรุ๋นเก๋า

ไม่แน่ใจว่าผีข้างนอกจะแตกตื่นเพราะโจวเจ๋อหรือไม่ สิ่งที่เขาช่วยทนายอันได้คือการล่อบอสใหญ่ตัวนี้มาที่นี่ก่อน ที่เหลือทนายอันต้องพึ่งตัวเองแล้ว

พูดตามตรง โจวเจ๋อในอดีตไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถ่อมาท้าทายตัวต่อตัวกับลูกพี่ของคนอื่นในรังผีนี่ด้วยซ้ำ

ชาติก่อนโจวเจ๋อขยันหมั่นเพียรมาโดยตลอด ตอนเข้าเรียนก็เป็นพวกบ้าเรียน ตอนทำงานก็ถูกกรรมการยกให้ผลงานยอดเยี่ยมดีเด่น ไม่มีเวลาติดตามกู๋หว่าไจ๋[1]อะไรด้วยซ้ำ และไม่มีความใฝ่ฝันอยากเร่ร่อนท่องยุทธจักร สิ่งเหล่านี้ดูฟุ่มเฟือยสำหรับโจวเจ๋อในชาติก่อนมากเกินไป

พอเถอะ ชาติก่อนไม่เคยคิดก็ไม่ต้องไปคิดมันหรอก แค่ย้ายมาในชาตินี้แล้วสัมผัสไปตรงๆ เลยแล้วกัน

แต่เมื่อจู่ๆ ก็ได้ยินเด็กชายพูดว่า “เจ้าก็เป็นผีดิบเช่นกันหรือ”

โจวเจ๋องงงวยครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าวว่า “ช่างบังเอิญเหลือเกิน แกเองก็ใช่เหรอ”

หากเค้าโครงเรื่องสามารถพัฒนาไปในทางที่อบอุ่นและหวานชื่นมื่นได้จะดีไม่น้อย ผีดิบพบเจอผีดิบ ดวงตาสองข้างปลื้มปริ่ม ล้วนเป็นคนที่สามโลกไม่ยอมรับเหมือนกัน แต่ละคนมีความทุกข์ของตัวเอง มาสนุกด้วยกัน ดื่มเหล้าสักจอก ระบายความทุกข์ พูดความในใจ แล้วเฝ้ารอคอยวันพรุ่งนี้ที่สวยงามด้วยกัน ตัวอย่างเช่น จะให้คำแนะนำและมีส่วนร่วมพัฒนาผีดิบในอนาคตอย่างไรหรืออะไรทำนองนี้ ช่างกลมเกลียวและยอดเยี่ยมเพียงใด สำหรับเถ้าแก่โจวแล้ว หากเลี่ยงการฟาดฟันได้จะเป็นการดีที่สุด

แต่น่าเสียดาย เด็กชายกลับพูดประโยคต่อมาว่า “เจ้าคู่ควรเป็นผีดิบด้วยหรือ”

“…” โจวเจ๋อ

แบบนี้รู้สึกเหมือนจะคุยต่อไม่ได้แล้ว เมื่อโจวเจ๋อแสดงความปรารถนาดีออกมา อีกฝ่ายกลับเริ่มโจมตีตัวบุคคลทันที

โจวเจ๋อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างจริงจัง “ฉันอาจจะเป็นบรรพบุรุษของแกก็ได้”

นี่คือความจริง โจวเจ๋อไม่ได้จงใจพูดเกินจริงหรือระบายความโกรธสักนิด พูดถึงความอาวุโสในโลกผีดิบ โจวเจ๋อไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ใคร ผีดิบที่อยู่ในพื้นที่ล้วนสืบเชื้อสายมาจากลูกหลาน แต่ในหลายๆ ครั้ง ที่คุณพูดความจริงจากใจ คนอื่นกลับฟังไม่เข้าหู

เมื่อเห็นสีหน้าของเด็กชายฉายแววเย้ยหยันลึกๆ โจวเจ๋อรู้ดีว่าช่างแม่งมันเถอะ ไอ้หมอนี่ต้องฟังไม่เข้าหูแน่ๆ กระทั่งการพูดความจริงของเขายังมีส่วนในการเติมเชื้อเพลิงให้ไฟก็เป็นได้

โจวเจ๋อพยายามตะโกนเรียกอิ๋งโกวในใจ แต่เรียกอยู่นานสองนานก็ไม่ตอบสนองเลยสักนิด เมื่อคืนก่อนอิ๋งโกวเล่นใหญ่เกินไป บวกกับก่อนหน้านี้ที่เขาถูกพระธาตุระเบิดใส่อิ๋งโกวเองก็ทรุดตัวมากพอสมควร จากการคาดเดาของโจวเจ๋อ เจ้านั่นอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาภายในหนึ่งหรือสองเดือนเป็นแน่

โจวเจ๋อพยายามตะโกนเรียกอิ๋งโกวในใจ แต่เรียกอยู่นานสองนานก็ไม่ตอบสนองเลยสักนิด เมื่อคืนก่อนอิ๋งโกวเล่นใหญ่เกินไป บวกกับก่อนหน้านี้ที่เขาถูกพระธาตุระเบิดใส่อิ๋งโกวเองก็ทรุดตัวมากพอสมควร จากการคาดเดาของโจวเจ๋อ เจ้านั่นอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาภายในหนึ่งหรือสองเดือนเป็นแน่

ในยามปกติ ทุกครั้งที่เขาพบคู่ต่อสู้ เขาจะทำตัวเหมือนหญิงชราส่งเสียงดังน่ารำคาญคอยยุยงเป่าหูเจ้านั่นครั้งแล้วครั้งเล่าให้ตัวเขาได้หยิบยืมพลังของอีกฝ่าย แต่คราวนี้อีกฝ่ายกลับเงียบกริบ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

หากอิ๋งโกวออกมาได้ก็คงดีไม่น้อย โจวเจ๋อคิดเช่นนั้น

ถ้าเขาสามารถออกมาตอนนี้ได้ ไม่ ไม่ต้องออกมาทั้งหมด ขอแค่กลิ่นอายของเขาเล็ดลอดออกมานิดๆ หน่อยๆ เด็กชายผีดิบตรงหน้าอาจจะคุกเข่าและเรียกเขาว่าพ่อเลยก็ได้!

แต่เรื่องมันไม่ได้ราบรื่นขนาดนี้น่ะสิ เด็กชายพุ่งเข้าหาอีกครั้ง ดูเหมือนในใจเขายังคิดคะนึงถึงหลินเข่อ ภรรยาที่ใจเขาโปรดปรานคนนั้น จึงไม่คิดจะเสียเวลานานเกินไป อยากสู้และจัดการให้เร็ว

ไม่สำคัญว่าโจวเจ๋อจะเป็นผีดิบหรือซอมบี้หรือไม่ เขาต้องรีบจัดการให้สิ้นซาก

โจวเจ๋อก็ไร้หนทาง ลากเล็บทั้งสิบนิ้วของเขาเข้าไปทักทายก่อน

ช่วยไม่ได้ ถ้าพาหลินเข่อกลับไปไม่ได้ อย่างนั้นอีกหน่อยเขาจะอธิบายกับหวังเคอที่โตมาด้วยกันอย่างไร

หรือจะบอกว่า ‘ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ลูกของคุณเป็นภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านในรังผี กินไส้เดือนกินหนูตลอดทั้งวัน ข้างกายยังมีวิญญาณมากมายคอยปรนนิบัติเรียกได้ว่าหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื้นเลยทีเดียว!’

สองฝ่ายปะทะกันอีกครั้ง กลายเป็นการประมือระหว่างอุกาบาตที่พุ่งชนโลกในชั่วพริบตา

คราวนี้เด็กชายยื่นนิ้วทั้งสิบออกมาเช่นกัน เล็บของเขาก็ยาวมากเช่นกัน แต่ไม่ได้ยาวเวอร์วังเหมือนของโจวเจ๋อ เล็บแต่ละนิ้วมีความยาวพอๆ กับปากกาหนึ่งด้าม

เล็บของทั้งสองฝ่ายแตะสัมผัสกันเป็นครั้งแรก ภายใต้การโจมตีที่หนักหน่วงซ้ำๆ ส่งเสียงดังแสบแก้วหูอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็เกิดประกายไฟ พลังอันดุร้ายรอบตัวยิ่งกระเพื่อมเป็นระลอกๆ ชั้นแล้วชั้นเล่า อิฐในบริเวณใกล้เคียงปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

น่าจะเก่งกาจกว่าอิงอิงมากทีเดียว เพราะเมื่อผีดิบระดับอิงอิงเผชิญหน้ากับพลังบนเล็บของโจวเจ๋อ เธอไม่กล้าคิดต่อต้านใดๆ ทั้งสิ้น แต่เด็กชายตรงหน้ากลับเชิดหน้าขึ้น ในแววตาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้!

สายเลือดของไอ้หมอนี่ไม่กระจอกเช่นกัน!

โจวเจ๋ออาศัยเล็บยาวของตัวเอง ในตอนแรกเขามีข้อได้เปรียบอยู่บ้าง แต่พละกำลังของเด็กชายนั้นแกร่งกว่าโจวเจ๋อ หลังจากสู้กันอยู่พักใหญ่ โจวเจ๋อก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่พบว่าแขนทั้งสองข้างของเขาเริ่มชา ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสิบนิ้วยังสูญเสียสัญชาตญาณไปดื้อๆ แต่เด็กชายกลับอาจหาญชาญชัยมากขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ พลิกข้อเสียเปรียบในตอนแรกเริ่มคืนมา ขณะเดียวกันก็เริ่มโต้กลับ

เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ดีแน่ เขาอาจจะถูกอีกฝ่ายผลาญพลังจนหมดแรงตาย!

โจวเจ๋อรู้ดี อีกฝ่ายเป็นร่างผีดิบตัวจริงเสียงจริง มีพละกำลังมหาศาลเหมือนอิงอิงที่บ้านเปี๊ยบเลย แต่ตัวเขาถ้าพูดกันตามตรง ก่อนที่จะกลายร่างเป็นผีดิบ แท้จริงแล้วสิ่งที่หยิบยืมมาใช้เป็นเพียงแรงพลังในร่างคนเท่านั้น และ ‘อ่างกักเก็บน้ำ’ ของทุกคนไม่ได้อยู่ระดับเดียวกันเลยสักนิด

วินาทีต่อมา เล็บของเด็กชายจับเล็บของโจวเจ๋อแล้วออกแรงกดทับลงไปทันที ทำเอาโจวเจ๋อตัวเอียงล้มลงไป เด็กชายยกเข่าแล้วกระโดดเข้าใส่!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล