ตอนที่ 505 บรรพบุรุษ!
ที่ริมถนนข้างชายทุ่ง ทนายอันถูกวางอยู่ในเต็นท์ที่ติดตั้งอย่างเรียบง่าย เขายังอ่อนแอมาก เหงื่อผุดพรายไหลออกมาไม่หยุด อาการอาหารเป็นพิษไม่ได้ลดน้อยลงเรื่อยๆ อย่างที่เขาคาดคิดไว้ ตรงกันข้ามกลับบั่นทอนสุขภาพและจิตวิญญาณของเขาช้าๆ และต่อเนื่อง
ถ้าพูดไม่น่าฟังละก็ ความแน่วแน่ทางจิตใจของทนายอันแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมากนัก ถึงได้ดูเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไรเลย แต่อันที่จริงมีแนวโน้มว่าเขาจะซี้แหงแก๋ภายในครึ่งชั่วโมงได้เลย เพราะไม่ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ทุกปีมีคนจำนวนมากที่เสียชีวิตเนื่องจากอาหารเป็นพิษและไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที อีกทั้งทนายอันยังจัดอยู่ในประเภทที่อาการร้ายแรงอย่างยิ่งอีกด้วย พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีแค่สวรรค์ที่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในเหล้านั้นกันแน่ หากมันเป็นแค่ฉี่จริงๆ นั่นก็ดีไป บางทีเหล้านั้นอาจจะมีพิษอยู่แล้วก็ได้ แต่เขาดันกระดกมันไปทั้งไหนี่สิ!
เพียงแต่ว่า ในเวลานี้ไม่มีใครมีเวลาพาเขาไปส่งโรงพยาบาล ทุกคนกำลังขุดคว้านกันอย่างบ้าคลั่ง พยายามจะเปิดทางเดินที่ยุบตัวลงขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ทนายอันพยายามออกแรงที่มีทั้งหมดพลิกตัว แถมเขายังถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมืออีกด้วย
ในฐานะที่เป็นผู้ป่วยหนักแต่ยังหามส่งโรงพยาบาลไม่ได้ นอนตะแคงเล่นมือถือสักหน่อย คงไม่เกินไปหรอกใช่ไหม
มันก็ไม่เกินไปจริงๆ นั่นแหละ
ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืน และช่วยเหลืออะไรไม่ได้ แค่สามารถยื้อให้ไม่ตายไว้ก็ถือว่าช่วยได้มากสุดๆ แล้ว
ไป๋อิงอิงคล้ายกับคนบ้าดีเดือด ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ใช้สองมือขุดคว้านลงไปไม่หยุด แต่ทางเดินทั้งบนและล่างตั้งหลายสิบเมตร คุณไม่เรียกรถขุดดินมาพึ่งแค่แรงคน แม้ว่าจะเป็นแรงผีดิบก็เถอะ ก็ยากที่จะขุดออกมาในเวลาอันสั้นอยู่ดี
จางเยี่ยนเฟิงช่วยทำความสะอาดอยู่ข้างๆ อย่างเงียบเชียบไม่ส่งเสียง เขารู้ว่าสาเหตุที่โจวเจ๋อติดอยู่ข้างล่าง เป็นเพราะเขาระเบิดตัวชนวนระเบิดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งครั้ง
เขายังรู้สึกผิด รู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง
เหล่าจางเป็นคนซื่อสัตย์ โจวเจ๋อมีพระคุณต่อเขา เขามองว่าโจวเจ๋อเป็นเพื่อนและเป็นแม้แต่ผู้มีพระคุณของเขามาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้เขาจึงเปลี่ยนไปมาก และยืดหยุ่นมากขึ้นพอสมควร
หลายสิ่งหลายอย่างที่เมื่อก่อนเขาไม่มีทางทำ ตอนนี้ถ้าทำได้ก็ทำ ด้วยเหตุนี้ หากโจวเจ๋อออกมาไม่ได้และเกิดเรื่องขึ้นเพราะเขาระเบิดเพิ่มไปอีกครั้งจริงๆ ละก็ เขาคงไม่มีทางให้อภัยตัวเองได้จริงๆ
ที่จริงแล้ว แม้แต่ไป๋อิงอิงที่โกรธแค้นจนเต้นเร่าๆ ที่สุดก็ไม่คิดจะระบายความโกรธใส่เขา เพราะทุกคนรู้ดีว่า หากในเวลานั้นเหล่าจางไม่ระเบิดละก็ ข้างล่างนั่นคงจะเป็นตอนอวสานกลายเป็นจุดจบของทั้งสามคนไปแล้ว
เหล่าจางระเบิดเพื่อหาทางออกให้กับคนข้างล่างจริงๆ สำหรับสิ่งที่เรียกว่าปริมาณระเบิดมากหรือน้อยนั้น เหล่าจางไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญของทีมสำรวจทางธรณีวิทยาเสียหน่อย พูดก็พูดเถอะ ต่อให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้สถานการณ์ที่ไร้เครื่องมือวัดใดๆ เขาก็ต้องเล็งมั่วๆ อยู่ดี
ถ้าเหล่าจางไม่ละเบิดละก็ อย่างนั้นจุดจบของทั้งสามคนคือถูกทหารไล่ฆ่าจนตาย
ตอนนี้อย่างน้อยๆ ก็ออกมาได้ตั้งสองคนแน่ะ
สาวน้อยโลลิไม่สนเรื่องสกปรกใช้ลิ้นของตัวเองช่วยอิงอิงลำเลียงหิน เธอเป็นคนที่มีความรู้สึกผิดอย่างลึกซึ้งที่สุด เพราะทุกคนมาที่นี่เพื่อช่วยเธอ ตอนนี้เถ้าแก่ยังติดแหงกอยู่ข้างล่างนั่น จะเป็นหรือตายก็ไม่รู้แน่ชัด พูดตามตรง แม้ว่าจะเป็นแค่ก้อนหินหนึ่งก้อนก็ตาม ในเวลานี้ต่างก็ร้อนรนกันไปหมด
ทนายอันใต้ตาคล้ำ ริมฝีปากซีดเซียว แถมยังไข้ขึ้นสูงอีก บอกตามตรงว่าตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนตกอยู่ในไฟชำระ
เวลานี้ สาวน้อยโลลิลิ้นบาดเจ็บเลือดไหลนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างๆ ทนายอัน เธอไม่ได้แอบอู้ แต่หยิบขวดน้ำแร่ข้างๆ ขึ้นมาดื่มไปหลายอึก ทว่าสิ่งที่เธอพ่นออกมากลับเป็นเลือดและดินทรายจำนวนมาก
ทนายอันที่มองฉากนี้อยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ ไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ และไม่เหมาะที่จะพูดอะไรด้วย
หลังจากสาวน้อยโลลิบ้วนปากแล้ว ก็วิ่งไปข้างๆ อิงอิงเพื่อช่วยเปิดทางเดินด้วยกันอีกครั้ง ส่วนทนายอันปิดเปลือกตาเบาๆ บอกตามตรงว่าในตอนนี้ถึงจะดูเหมือนเป็นทีมเดียวกัน ถ้าเขาไม่ล้มป่วยก็คงจะดีไม่น้อย พลางคิดว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงจงใจรินเหล้าลงในจอกของเถ้าแก่มากหน่อยกันนะ
ในท้ายที่สุด การดื่มเหล้าก็ทำให้เกิดเรื่องผิดพลาด การดื่มเหล้าทำให้เกิดเรื่องยุ่งยาก เถ้าแก่ คุณต้องฝืนเอาไว้ให้ได้เลยนะ
ทนายอันคิดว่าตอนนี้เขาสามารถช่วยอะไรได้บ้างนะ
เอาโทรศัพท์มือถือเปิดเพลงพื้นหลังดีไหม เพลง ‘เราเหล่ากรรมกรมีพลัง’ ดีหรือเปล่า
พอคิดๆ ดูแล้ว เพื่อเลี่ยงการถูกอิงอิงฆ่าตายภายใต้ความโมโหโกรธา ทนายอันก็ปล่อยวางความคิดนี้ไป
…
“ข้าชอบนางเหลือเกิน” ร่างของเด็กชายโงนเงนไม่หยุด ร่างที่เดิมว่าเล็กอยู่แล้ว ในเวลานี้ยังเผยให้เห็นถึงกลิ่นอายของไม้ใกล้ฝั่งออกมา
“ข้าชอบนางมากเหลือเกิน ตั้งแต่ข้าเจอนางในบ้านพักตากอากาศครั้งแรก นางมีเอกลักษณ์และสะดุดตามาก ข้าตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกพบ เหมือนมีคนกระซิบบอกในใจว่านางเป็นของข้า ข้าอยากพานางกลับบ้านของข้า นางจะต้องอยู่กับข้าตลอดไป ตลอดไป…”
เด็กชายสารภาพรัก แต่เหมือนประกาศคำพิพากษาเสียมากกว่า เขามองโจวเจ๋อ เทียบเท่ากับคนเลี้ยงโคกำลังมองเจ้าแม่หวังหมู่
ถึงอย่างไรหากโจวเจ๋อไม่โผล่เข้ามา ตอนนี้สาวน้อยโลลิก็ยังคงอยู่ในกำมือเขา และไม่ช้าก็เร็วคงตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน
อันที่จริง โดยปกติทั่วไปแล้ว ความหวงแหนของเด็กน้อยนั้นรุนแรงที่สุด เพราะหลายต่อหลายครั้งเด็กมักจะไม่มีเหตุผล ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่มีเรื่องต้องคำนึงถึงมากมาย แต่เด็กชายตรงหน้ากลับไม่อาจใช้คำว่า ‘เด็กน้อย’ มาแทนที่ได้ เพียงแต่เขาตายตอนที่ยังเป็นเด็กก็เท่านั้น มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ในเงามืดใต้ดินแห่งนี้มานานกี่ปีแล้ว
ถึงอย่างไรโจวเจ๋อก็รู้สึกว่าอายุของไอ้หมอนี่คงไม่น้อยไปกว่าอิงอิงเป็นแน่
ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะรับลูกน้องและแผ่ขยายกิ่งก้านสาขา แม้กระทั่งสถานที่แห่งนี้ก่อนจะระเบิดก็ราวกับว่าเป็นสวนสนุกของเขาเพียงคนเดียว เขาสร้างสังคมนี้และสร้างระบบระเบียบในสถานที่แห่งนี้ด้วยมือของเขาเอง
เด็กคนอื่นๆ ที่รุ่นราวคราวเดียวกันนี้ดูเหมือนจะทำได้แค่ต่อบล็อกเท่านั้น เขากลับมีอาชีพของตัวเองแล้ว แถมยังมีอาณาจักร…ของตัวเขาเอง
วันนี้สิ่งที่เขาสูญเสียอาจไม่ได้มีแค่หญิงสาวที่ตัวเองรักใคร่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยบริหารจัดการในอดีตด้วย
ปีศาจทั้งหลายและวิญญาณที่ติดอยู่ในสถานที่แถบนี้ ผีดิบในอาณัติที่เขาฝึกฝนและรวบรวมมาด้วยตัวเอง เขาเพียรพยายามวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า เพื่อสร้างทุกสิ่งขึ้นมา แต่ทั้งหมดกลับพังพินาศในชั่วพริบตาเพียงเพราะโจวเจ๋อโผล่เข้ามา!
ความเกลียดชังของเขา โจวเจ๋อเข้าใจดี
หลายครั้งที่นักบุญชอบสอนให้ผู้อื่นเรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจ แต่ความเห็นแก่ตัวต่างหากถึงจะเป็นธรรมชาติของมนุษย์
“ข้าชอบนาง เจ้ากลับแย่งนางไปจากข้างกายข้า…”
ระยะห่างระหว่างเด็กชายกับโจวเจ๋อมีไม่ถึงสิบเมตร เขาอ่อนแอ่มาก และบาดเจ็บสาหัสมาก แต่เขายังมีลมหายใจพอฝืนทนไว้ แต่โจวเจ๋อก็ไม่จัดว่าเละตุ้มเป๊ะเป็นโคลน แต่ก็นับว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับโคลนแล้ว
เมื่อศักยภาพถูกกระตุ้นครั้งหนึ่ง นั่นคือมนุษย์สามารถพิชิตธรรมชาติได้ แต่สองครั้ง สามครั้งล่ะ จะเป็นไปได้ไหม
โจวเจ๋อรู้สึกว่าวันนี้เขาใช้ชีวิตได้หลากหลายมาก ช่างมหัศจรรย์และเต็มอิ่มมากจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ละก็ เขาไม่อยากเติมจุดจบประโยคให้ตัวเองตอนนี้เลยจริงๆ
‘พรืด’ เลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่โจวเจ๋อยังอดทนต่อความเจ็บปวดที่ปอดฉีกขาด และฝืนเอ่ยปากพูด “แกน่าจะ…น่าจะ…”
“ข้าน่าจะอะไร” เด็กชายยังเดินมาข้างหน้าต่อไป ดูเหมือนเขาไม่ปฏิเสธที่จะคุยกับโจวเจ๋อในเวลานี้ หรือบางทีนี่อาจจะเป็นการมอบความเคารพครั้งสุดท้ายให้คนที่เคยเป็นพันธมิตรแต่ตอนนี้เป็นคู่ต่อสู้ของเขาก็ได้
อันที่จริง ระหว่างทั้งสองคนยังมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันเล็กน้อย เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่โจวเจ๋อเห็นเด็กน้อยพยายามอย่างหนัก ก็ยังสามารถเค้นแรงเฮือกสุดท้ายในร่างกายของตัวเองออกมาได้อีก
“การไล่ตาม…ไล่ตามใครสักคน…ไม่ใช่แบบนี้…สักหน่อย…แกน่าจะมอบของให้เธอ…อย่างเช่น…มอบหัวใจ…ที่ทำมาจากหิน” โจวเจ๋อไอสองสามทีและกระอักเลือดออกมาอีกสองสามครั้ง “หัวใจหินชนิดนี้…สามารถซื้อขายส่งได้”
“หัวใจหินหรือ” จะเห็นได้ว่าเด็กชายไม่สามารถเข้าใจโลกภายนอกได้ และไม่รู้ว่าของสิ่งนี้กลายเป็นของขวัญที่ตั้งแต่เด็กผู้หญิงธรรมดาไปจนถึงดาราหญิงชั้นนำโปรดปรานที่สุดและใช้ได้ผลที่สุด
“ข้าสามารถมอบให้นางได้ มอบให้นางทั้งเหมืองแร่ไปเลย!” เด็กชายแย้งกลับ
โจวเจ๋อเม้มปากครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจบบทสนทนาไปดื้อๆ อีกแล้ว ถ้าหากเขาเป็นเด็กสาวละก็ เหมือนว่าจะเลือกเหมืองแร่นะ เหมืองแร่แห่งหนึ่ง อย่างน้อยก็ปาไปแปดร้อยล้านแล้วละมั้ง
“แกชอบเธอ…น่าจะไปหะ…หาพ่อของเธอ…” ไปหาหวังเคอ พี่ชายแสนดีของฉันสิ
โจวเจ๋อรู้สึกว่าเขาบ้าไปแล้ว แต่ก็ชินแล้วละ ทุกครั้งก่อนตายหรือเมื่อเกิดวิกฤตยิ่งใหญ่ วงจรสมองของเขามักจะแปลกๆ ไปเสมอ ตอนนี้เขาเข้าใจโจโฉมาหน่อยหนึ่งแล้วว่าทำไมก่อนที่เขาจะตายไม่สั่งงานราชงานหลวง แต่เป็นการจัดการชีวิตในอนาคตของเหล่าบรรดานางสนมอันแสนรักของเขา
บางทีนี่อาจจะเป็นความผันผวนปรวนแปรของชีวิตมนุษย์ที่เคยชินกับสภาพความเป็นความตายละมั้ง เอาแต่หวนนึกถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีเกียรติ และถูกต้อง มันน่าเบื่อ ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เขากำลังพยายามพร่ำสอนเด็กชายและปลูกฝังมุมมองเกี่ยวกับความรักที่ถูกต้อง
“ให้จับพ่อของนางมาด้วยกันเลยหรือ”
“…” โจวเจ๋อ
ดูเหมือนว่าน่าจะได้นะ
ด้วยสติปัญญาของหวังเคอที่แม้แต่ยมทูตยังประทับใจได้ ถ้าหวังเคออยู่ที่นี่ด้วย บางทีอาจจะพัฒนาให้เด็กชายคนนี้กลายเป็น ‘ว่าที่ลูกเขย’ ของเขาเลยก็ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล