ตอนที่ 51 พรายอำพัน
หลังจากที่สวี่ชิงหล่างถีบประตูได้ไม่นาน โจวเจ๋อก็เดินลงมาและเปิดประตูร้านหนังสือ หน้าผากของเขามีเหงื่อผุดพรายอยู่เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าสีหน้าดูอ่อนล้าเล็กน้อยราวกับว่าไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
พูดตามตรง เขาก็เพิ่งตื่นเหมือนกัน แต่แทนที่จะตื่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนเมื่อก่อนแต่กลับถูกปลุกให้ตื่น
ภาพสุดท้ายในความฝันนั้นมีผมดำขลับพันอยู่รอบตัวเอง แม้ว่าตอนนี้นึกถึงมันขึ้นมาก็ทำให้คนขนหัวลุกได้
“สวีเล่อ!”
น้องภรรยาท้าวสะเอว ท่าทีราวกับว่าฉันต้องการให้นายอธิบายเดี๋ยวนี้!
โจวเจ๋อพยักหน้าให้สวี่ชิงหล่างเป็นสัญญาณให้สวี่ชิงหล่างเข้ามาได้ จากนั้นโจวเจ๋อก็ล็อกประตูร้านหนังสืออีกครั้งต่อหน้าน้องภรรยาที่อยู่ข้างนอกและกั้นเธอเอาไว้นอกประตูร้าน
น้องภรรยามีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อที่สวีเล่อกล้ามองข้ามไม่สนใจตัวเอง!
อารมณ์เหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยตวาดแว้ดขึ้นมาแล้ว ที่เธอตั้งใจมาในครั้งนี้เพื่อขอคำอธิบายให้กับพี่สาวของตัวเอง และยังได้รู้เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงรถมาเซราติจากสวี่ชิงหล่างอีก แล้วจะให้จากไปแบบนี้ได้อย่างไร
ได้ นายล็อกประตูใช่ไหม!
น้องภรรยาก้มลง หาหินก้อนใหญ่ๆ จากพื้นเตรียมจะทุบประตูกระจก แต่เมื่อเธอกำลังจะวิ่งเข้าไป โจวเจ๋อที่อยู่ในร้านหนังสือหันกลับมามองเธอ
ในเวลานี้เอง ในดวงตาของโจวเจ๋อมีรัศมีสีดำไหลเวียนอยู่
น้องสะใภ้ตกใจกลัวจนสั่นไปทั้งตัว เดินเซถอยหลังไปหลายก้าวและเกร็งขาตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ภาพที่น่าหวาดกลัวในห้องน้ำคืนนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งในความคิดของเธอ
ในคืนนั้น เธอตกใจจนกลั้นฉี่เอาไว้ไม่อยู่
“สวีเล่อ นาย…นายรอฉันก่อนเถอะ!”
น้องภรรยาทิ้งคำพูดอาฆาตสุดท้ายไว้และจากไปด้วยความตื่นตระหนก ในขณะเดียวกันก็ยังบ่นในใจว่าทำไมตัวเองถึงเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น เพียงแค่เอาเรื่องนี้กลับบ้านไปบอกพ่อแม่ก็สิ้นเรื่องแล้ว
บอกไปว่าลูกเขยจำเป็นคนดีที่ตัวเองเลือกไว้ มีผู้หญิงอยู่นอกบ้าน!
…
หลังจากสวี่ชิงหล่างเข้ามาในร้านหนังสือ ก็พยายามเรียบเรียงคำพูดและกลืนน้ำลายเข้าไปอยู่ตลอดเวลา เขาถือได้ว่าเป็นคนที่เห็นทั่วทุกมุมโลกแล้ว แต่ในนาทีนี้เองยังคงมีความหวาดผวาอยู่ลึกๆ
เพราะในตอนนั้นทั้งเขา ศพผีสาวและรวมไปถึงโจวเจ๋อเองไม่อาจมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนั้นได้!
นี่มันน่ากลัวเกินไป แค่คิดก็สยองสุดๆ ไปเลย!
เช่นเดียวกับเมื่อคุณดูนักเลียนแบบเหล่านั้นในรายการวาไรตี้ร้องเพลงเลียนแบบดารา คุณจะพบว่ามันค่อนข้างน่าสนใจมาก
แต่จู่ๆ ก็มีคนเลียนแบบพ่อแม่ของคุณและเลียนแบบสามีหรือภรรยาที่อาศัยอยู่กับคุณ ผลคือคุณยังแยกไม่ออกแถมไม่สังเกตเห็นมันเลยแม้แต่น้อย ช่างเป็นเรื่องน่ากลัวอะไรขนาดนี้!
“เมื่อคืนนี้ คนที่ขับมาเซราติคนนั้นไม่ใช่หมอหลิน ไม่ใช่ภรรยาของคุณ! ภรรยาของคุณไม่ได้เปลี่ยนรถด้วยซ้ำ ตั้งแต่คุณสารภาพกับเธอ เธอก็ลางานและไม่ได้ไปทำงานเลย”
ในที่สุดสวี่ชิงหล่างก็พูดมันออกไปได้
รูม่านตาโจวเจ๋อหดลงเล็กน้อยและนั่งลงบนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์โดยไม่ได้พูดอะไร
ชายในเสื้อสเวตเตอร์จากเมืองหรงเฉิงได้เตือนเขาแล้วในความฝัน ดังนั้นถึงแม้ว่าเมื่อเขาได้ยินคำพูดของสวี่ชิงหล่างแล้วจะรู้สึกประหลาดในใจก็ตาม แต่ก็ยังสามารถยืนหยัดได้
“ทำไมคุณถึงยังใจเย็นได้ขนาดนี้ล่ะ” สวี่ชิงหล่างพูดด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “หรือคุณรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
โจวเจ๋อส่ายหน้า “ตอนนั้นฉันไม่รู้เลยจริงๆ ฉันคิดว่านั่นคือหมอหลินเสียด้วยซ้ำ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว หลายๆ ที่มันไม่สมเหตุสมผลจริงๆ จู่ๆ เธอก็มาหาฉัน ราวกับว่าทุกอย่างคลี่คลายแล้ว และถึงฉันจะกระตือรือร้นหุนหันพลันแล่นขึ้น เธอยังให้ความร่วมมือทุกการกระทำอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าจะดูเหนียมอายก็ตาม แต่กลับสามารถปลุกปั่นจุดสั่นสะท้านที่สุดในใจของผู้ชายได้อย่างเหมาะเจาะพอดีด้วย”
“นั่นเป็นผีอะไรเหรอ” สวี่ชิงหล่างเม้มปากและถามอีกครั้ง “นั่นมันผีประเภทไหนกัน”
“หญิงสาวที่ชอบใช้สองมือเต้นระบำในสระน้ำระหว่างเส้นทางไปสู่นรกคนหนึ่ง หญิงสาวคนนี้ไร้หน้าน่ะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ โจวเจ๋อก็รู้ตัวขึ้นมาทันที
หญิงไร้หน้า
คนที่เห็นใบหน้านางมักคิดว่าการไร้หน้าของนางนั้นน่ากลัวและประหลาดมาก แต่กลับมองข้ามไปว่าที่นางไม่มีหน้า เป็นเพราะว่านางมีความสามารถในการเปลี่ยนใบหน้าได้ทุกแบบที่ตัวเองต้องการยังไงล่ะ!
นี่สิถึงจะเป็นเนื้อแท้ของการไร้หน้า และไม่มีอะไรสามารถเกิดขึ้นได้!
“หญิงไร้หน้างั้นเหรอ” สวี่ชิงหล่างขมวดคิ้ว “ดูเหมือนผมจะเคยอ่านเจอในนิทานแห่งปาฏิหาริย์เรื่องไหนสักเรื่องในสมัยราชวงศ์ชิง ว่ากันว่านางเป็นปีศาจร้ายที่ถูกรวมตัวกับคนตายบนเส้นทางสู่นรกอย่างไม่เต็มใจ และเฝ้ารอคอยโอกาสที่จะได้กลับคืนสู่โลกมนุษย์มาตลอด”
“น่าจะหมายความว่าประมาณนั้นแหละ” โจวเจ๋อพยักหน้า ขณะเดียวกันก็พูดว่า “หานิทานแห่งปาฏิหาริย์เรื่องนั้นมาให้ฉันอ่านหน่อย”
“ผมจะกลับไปหาให้ เป็นของที่ผมอ่านในสมัยเด็กๆ แล้วนะ และคาดว่าน่าจะหามันไม่เจอหรอก อ๊ะ ใช่แล้ว เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างคุณกับผีสาวตนนั้นใช่ไหม ก็เหมือนที่คุณบอกเมื่อครู่นี้ว่านางมาหาคุณ คือการมาล่อลวงคุณถูกไหม”
“ไม่ใช่” โจวเจ๋อส่ายหน้า หยิบแก้วน้ำใบใหม่บนเคาน์เตอร์แล้วจิบชา แสร้งเอ่ยอย่างลุ่มลึก “ในตอนท้ายฉันสังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติจนต้องสั่งถอยทัพน่ะ”
โจวเจ๋อจะยอมรับไม่ได้ว่าเป็นเพราะเจ้าชั่วสวี่ชิงหล่างบอกตัวเองในบ่ายวันนั้นเกี่ยวกับร่างกาย จิตวิญญาณ และดีเอ็นเอชู้ ในตอนนั้นเรื่องบ้าๆพวกนี้ทำให้จิตใจตัวเองฟุ้งซ่านจนถูกล่อลวงสำเร็จ
ในความเป็นจริงแล้วโจวเจ๋อเองก็เกิดความอึดอัดใจเช่นกัน ในร้านหนังสือของเขาจัดวางหนังสือนิยายออนไลน์มากที่สุด ยังมีหนังสือเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดและการทะลุมิติไม่น้อยเลยทีเดียว
ในหนังสือของคนอื่นตัวเอกได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูบุตรเป็นเรื่องปกติมาก ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติไม่รู้สึกถึงการไม่ลงรอยใดๆ เลย
พอถึงตาตัวเองเค้าโครงในนิยายถึงได้มีเรื่องพลิกผันมากมายขนาดนี้กันนะ
หรือว่าตัวเองจะ…ว่างมาก?
ไม่สิ คนที่ว่างน่าจะเป็นสวี่ชิงหล่างต่างหาก มีเพียงคนโง่ที่น่าขันเท่านั้นที่ไร้สาระพอจนช่วยตัวเองวิเคราะห์และคิดเกี่ยวกับปัญหาทางปรัชญาประเภทนี้ได้
แต่ก็เหมือนว่าจะตำหนิสวี่ชิงหล่างก็ไม่เชิง ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่สวี่ชิงหล่างพูดกับเขาในบ่ายวันนั้นละก็ คาดว่าตัวเองในตอนนี้คงสายเกินแก้ไปแล้ว
อีกทั้งผลที่ตามมาก็คงจะร้ายแรงมากทีเดียว
คนอื่นเค้าตกปลากัน ตัวเองดันกินเบ็ดซะเอง และลงเอยด้วยการเป็นเนื้อบนเขียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล