ตอนที่ 517 ชีวิตคนเราหากเหมือนเจอกันครั้งแรก
ถ้าหากนี่คือการถ่ายทำภาพยนตร์ เวลานี้ทั้งหน้าจอใหญ่จะถูกขยายออกในแนวเฉียง ด้านซ้ายคือโจวเจ๋อที่นั่งอยู่ในรถ ด้านขวาคือเงาร่างหน้าตาอัปลักษณ์ที่ยืนอยู่นอกรถ จากนั้นเบลอวัตถุและสิ่งของที่อยู่รอบตัว โชว์ความเด่นของตัวละคร
แน่นอนว่า มุมด้านซ้ายสามารถวางภาพซ้อนได้อีก คือสวี่ชิงหล่างที่คุกเข่าอยู่ในกองเลือด แสดงสีหน้าเจ็บปวดทรมาน เสียดายที่ไม่มีผู้กำกับสั่ง ‘คัต’
ด้านหนึ่งคือการข่มขู่ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ด้านหนึ่งคือเสียงคำรามของผีดิบ ตอนนี้โจวเจ๋อไม่คิดถอย
เนื่องจากคำสัญญาก่อนหน้านั้น คำสัญญาของลูกผู้ชายที่ไม่ยอมให้แปดเปื้อนโดยง่าย โจวเจ๋อจึงไม่เข้าไปในร้านบะหมี่ ไม่เข้าไปแทรก ไม่เข้าไปช่วย ไม่เข้าไปยุ่ง ไม่พูดแสดงความคิดเห็นอะไรไร้สาระอย่างการบอกให้ทำตัวอุ่นๆ ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะคุณเป็นหวัดง่าย ทว่าในเวลานี้เงาร่างของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลได้เดินมาอยู่หน้ารถของตัวเองแล้ว ถ้ามัวแต่นั่งเฉยๆ เหมือนพระแก่ที่ไม่สนใจอะไร คงจะทำเกินไปหน่อย
เทพเจ้าแห่งท้องทะเลดูเหมือนจะคาดคิดไม่ถึงว่าคนที่นั่งอยู่ในรถจะดุขนาดนี้ จึงตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เดิมทีเขาอยากจะเตือนว่าอย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่น แต่กลับเป็นฝ่ายตกใจเสียเอง
แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นบุคคลที่เจอคลื่นลมยักษ์ในท้องทะเลเป็นประจำ วินาทีถัดมา น้ำฝนที่ระบายลงท่อไม่ทันบนท้องถนนเริ่มเอ่อล้นออกมาอย่างรวดเร็ว โจวเจ๋อยังคงนั่งอยู่ในรถ แต่รถของเขา เวลานี้กลับเหมือนลอยอยู่ในทะเล
กลิ่นเหม็นคาวเค็มๆ และอับชื้นลอยมาปะทะจมูก ม่านฝนที่อยู่ทั่วท้องฟ้ากระทบคลื่นที่โหมซัดสาด ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถบุกโจมตีได้ตลอดเวลา แค่เพียงคลื่นเดียวก็สามารถซัดทุกอย่างให้พลิกคว่ำ! ดูเหมือนจะขาดแค่นกนางแอ่นหนึ่งตัวเท่านั้น
เงาดำที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆ ก่อตัวแน่นเป็นรูปร่าง ใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากสีดำซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมงูเหลือมสีม่วง ร่างเงาของคนกับหางของงูเหลือมยักษ์ที่เลื้อยส่ายไปมาอยู่ท่ามกลางเกลียวคลื่น ประหนึ่งว่าในทะเลที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เขาคือเจ้าแห่งท้องทะเลตัวจริง
นัยน์ตาที่อยู่ภายใต้หน้ากากมาพร้อมกับการดูหมิ่นทุกอย่างไม่สนใจใคร! จากปีศาจได้บำเพ็ญเพียรมาถึงขั้นนี้ก็ไม่ง่าย คล้ายกับคนที่ลักลอบนำเข้าสินค้ากระทั่งเคยเป็นมาเฟียมาก่อน สุดท้ายอำลาวงการชุบตัวเองใหม่เป็นนักธุรกิจที่ดีในท้องถิ่น ไม่มีกลิ่นอายของปีศาจเลยสักนิด กระทั่งแฝงไปด้วยกลิ่นอายของเทพเซียนอยู่เล็กน้อย
ไม่แปลกใจเลยถ้าอยากจะแก้เค้นใครสักคนก็ยังต้องใส่ถุงมือสีขาว ใช้เสร็จก็ทำลายหลักฐาน เพราะกลัวว่าจะเลอะมือของตัวเอง
เมื่อเทียบกับเขาแล้ว เทพเจ้าระดับต่ำตามป่าเก่าแก่ทางทิศตะวันออกที่โจวเจ๋อเคยเจอกลับเหมือนเด็กน้อยที่เล่นซนอยู่ในดินโคลนมากกว่า
ในทะเลที่กว้างใหญ่ มนุษย์เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยกระจิริด ไม่ต่างจากฝุ่นผง นี่คือการแสดงอำนาจและดูถูกเหยียดหยามอย่างหนึ่ง การเจอหน้ากันและชักดาบเข้าห้ำหั่นกันคือพวกอันธพาลชั้นต่ำ ลูกพี่ตัวจริงเมื่อเจอกันจะถือไพ่คุมเชิงกันเท่านั้น
โจวเจ๋อนั่งไม่ขยับ ไม่รีบร้อน เพราะเขารู้ว่ามีคนหนึ่งที่ไม่ชอบการโดนดูถูกแบบนี้มากกว่าตัวเอง และคนนี้ก็คือคนบ้าที่ก่อนหน้านี้แม้จะตายก็ยังรอให้ประตูแห่ง ‘พระพุทธศาสนา’ เปิด รอให้พระพุทธเจ้าเสด็จลงมา
โจวเจ๋อแบมือ บอกเป็นนัยให้เจ้างั่งปลดผนึกปากกาเล็กน้อย ไม่ต้องเยอะมาก แค่พอใช้ก็พอ เพราะแค่อวดว่าใครเก่งกว่าไม่ใช่เหรอ ขอโทษจริงๆ นะ ถ้าจะพูดถึงการอวดว่าใครเก่งกว่า ไม่ใช่เพราะเขาเถ้าแก่โจวคิดจะว่าใคร แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้เมื่อเทียบกับคนคนนั้นที่อยู่ภายในร่างของตัวเขาเองแล้วล้วนเป็นขยะ!
และแล้วโจวเจ๋อก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนคนนั้น เขากลั้นไม่ไหวแล้ว ถึงแม้เขาจะรู้ว่าโจวเจ๋อกำลังยืมใช้พลังของเขา แต่เขาไม่สนใจ สำหรับเขาแล้วหน้าตาและศักดิ์ศรีสำคัญยิ่งกว่าชีวิต
เสียดายที่เถ้าแก่โจวไม่ได้คุยรายละเอียดกับเด็กผู้ชาย ถ้าหากเขารู้ว่าใต้ดินในวันนั้น คนคนนั้นเพื่อป้องกันตัวเองตื่นมาแล้วหัวเราะเยาะเขา ถึงกับใช้นามของบรรพบุรุษขู่บังคับผีดิบน้อยให้ฆ่าตัวเอง
เถ้าแก่โจวจะไม่นิ่งแบบนี้อีกต่อไป
“งู…สะ…หวะ…”
ท่ามกลางคลื่นลม เทพเจ้าแห่งท้องทะเลหันหน้า ดูเหมือนเขาจะสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ
“ข้า…จะให้เจ้า…เห็น…ทะเล…ของจริง!”
‘ตู้ม!’ เกิดเสียงดังสนั่น ท้องทะเลสีฟ้าครามตกลงสู่ความเงียบงันในพริบตา ราวกับว่าถูกยึดพลังแห่งชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง ม่านสีดำทะมึนขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วในทันใด
และในเวลาเดียวกัน แขนที่เละและขาดยื่นออกมาจากใต้ทะเลมากมายนับไม่ถ้วน คิดจะดึงใครสักคนที่ดวงซวยมาอยู่แทนตัวเอง โครงกระดูกเยอะแยะไร้ที่สิ้นสุด ลอยกระเพื่อมอยู่ในทะเล ประดับประดาด้วยสีขาวที่น่าสะดุดตา
กลิ่นอายแห่งความตายเริ่มหนาแน่น การกลับมาของวิญญาณ!
ในทะเลของเจ้า แอบซ่อนไปด้วยปลามากมายหลายชนิด
ในทะเลของข้า นรกถูกฝังอยู่!
บนทะเลของเจ้า เดินเรือข้ามฟาก
บนทะเลของข้า เดินกลับไปเกิดใหม่!
ไข่มุกเล็กเท่าเม็ดข้าวริอ่านหาญกล้าแข่งกับแสงสว่างของพระจันทร์!
‘แกร๊ก…แกร๊ก…แกร๊ก…’ ภายในภาพ หน้ากากของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลกำลังแตกละเอียด ขณะที่กำลังแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขายังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม ใบหน้าที่เงียบสงบของเขา ความหยิ่งของเขา ผู้คนมักจะหัวเราะเยาะว่านั่นคือกบตัวหนึ่งที่มองฟ้าจากก้นบ่อ แต่วันนี้เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพบว่าตัวเองเป็นแค่กบที่ตัวใหญ่นิดหน่อยเท่านั้น เหนือศีรษะของเขา เป็นปากบ่อที่ใหญ่กว่าเท่านั้นเอง
เสียดายที่ภาพแตกละเอียดเร็วเกินไป โจวเจ๋อมองเห็นภาพรางๆ เหมือนเทพเจ้าแห่งท้องทะเลกำลังคุกเข่าลงช้าๆ
ทะเลของโลกมนุษย์ แต่คุกเข่าอยู่ในนรก! จากนั้นภาพจึงมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง รถก็ยังเป็นรถคันนั้นอยู่ มันจอดอยู่ท่ามกลางสายฝน จอดอยู่บนถนน จอดอยู่ตรงหน้าเงาร่างนั้น
เงาร่างนั้นก็ค่อยๆ หายไป มากับฝน ไปกับฝน ราวกับว่ามันไม่เคยมีตัวตนอยู่เลย
เขี้ยวมุมปากของโจวเจ๋อหายไปช้าๆ แสงอาทิตย์สาดไปที่เหล่าสวี่ที่คุกเข่าอยู่ในกองเลือดในร้านบะหมี่ ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
พอได้ช่วยก็เหมือนได้ช่วยงานใหญ่ แต่โจวเจ๋อไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจอะไร และไม่อยากเข้าไปขอคำชมเลยสักนิด ในเมื่อเหล่าสวี่ได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว โหดแม้กระทั่งยอมกรีดแม้แต่ใบหน้าของตัวเอง เช่นนั้นเงาเมื่อครู่ ถ้าหากเขาไม่ได้นับรวมเข้าไปในขั้นตอนการเตรียมการ ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกหลักการเท่าไร
แน่นอนว่าเขาคิดแผนเองก็จริง แต่ในเมื่อเจ้าสิ่งนั้นมาปรากฏต่อหน้าโจวเจ๋อ โจวเจ๋อไม่คิดว่าได้ช่วยเหลือเขา แค่เห็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลแล้วหมั่นไส้ จึงลงมือเท่านั้นเอง แบบนี้ฟังแล้วดูมีเหตุผลเหมือนกัน ใครสั่งให้เขามีหน้าตาอัปลักษณ์ขนาดนั้น ฉันตกใจหมดเลย
ฝนเริ่มน้อยแล้ว โจวเจ๋อผลักประตูรถ รองเท้าของโจวเจ๋อเหยียบอยู่บนน้ำขัง เขาบิดขี้เกียจ “กลับมาบ้านเก่าแล้ว”
…
“แฮก…แฮก…แฮก…” เสียงหายใจหอบดังเข้ามาไม่หยุด ฝนที่อยู่ข้างนอกเหมือนจะเริ่มตกน้อยลงแล้ว ไม่ตกหนักเหมือนก่อนหน้านั้น ความร้อนรนและต่อต้านภายในร่างกายก็ค่อยๆ ลดลง
เขาสงสัยและสับสนมึนงงเล็กน้อย เพราะบททดสอบที่ตัวเองเตรียมตัวมาอย่างจริงจังกลับไม่ปรากฏตัว แผนการและการเตรียมตัวทุกอย่างก่อนหน้านั้นยังไม่ได้เอามาใช้งานเลย
สวี่ชิงหล่างไม่ได้ลุกขึ้นมา แต่คุกเข่าอยู่บนพื้นต่อไป หลับตาเหมือนกำลังสื่อสารและพูดคุยอยู่ แผนการทำให้เชื่องแต่เดิม ดูเหมือนจะเริ่มต้นสวยแต่ตอนท้ายกลับแย่
หลังจากกลืนผู้หญิงคนนั้น ก็เท่ากับทำให้ตัวเองและเทพเจ้าแห่งท้องทะเลคนนั้นได้ผูกพันธะเชื่อมโยงกันบางอย่าง
นี่คือแผนของสวี่ชิงหล่าง และเขาก็เป็นคนเตรียมงานเอง หลังจากที่ถูกอาจารย์ของตัวเองกดอยู่ในถังน้ำคืนนั้นจึงคิดแผนนี้ออก เขาเตรียมงานนี้มานานมาก นานมากจริงๆ
ทว่ามันราบรื่นเกินไป ราบรื่นเหมือนที่คิดไว้เกินไปจริงๆ กระทั่งแสงสีเขียวเข้มเริ่มลอยขึ้นมาตามร่างกายอย่างช้าๆ เหมือนเสื้อเชิ้ตตัวบางๆ ที่ปกคลุมร่างกายของตัวเอง แต่เสียดายที่โจวเจ๋อไม่ได้เห็นฉากนี้ เขาลงจากรถและไม่ได้ให้ความสนใจทางนี้ต่อ
เสื้อผ้าบนตัวของสวี่ชิงหล่างที่โดนมีดสั้นปักหน้าอกก่อนหน้านั้น เกือบจะขาดวิ่นหมดแล้ว และตอนนี้แสงสีเขียวก็ไม่ได้สว่างอยู่นาน
เขาค่อยๆ ขยับเหมือนเปลือกไข่ที่แตกออก เสื้อเชิ้ตที่บางเหมือนผ้าโปร่งตัวนั้นค่อยๆ ฉีกออก เหมือนกำลังถอดเสื้อผ้า แต่จริงๆ แล้วคืองูลอกคราบ!
สวี่ชิงหล่างสงสัยอยู่บ้าง เทพเจ้าแห่งท้องทะเลคนนั้น ดูเหมือนจะดีกว่าที่จินตนาการเอาไว้ ไม่ต้องต่อรองใดๆ อีกฝ่ายก็ยอมรับโชคชะตาอย่างว่าง่าย เป็นฝ่ายมอบพลังมาให้เขา
การลอกคราบเพื่อรักษาบาดแผล ฉากนี้ไม่ได้น่าสะอิดสะเอียนตามความหมายของงูลอกคราบทั่วไป ถึงขนาดพูดได้ว่ามีความงดงามอยู่บ้าง เหมือนฉากเซ็กซี่ในภาพยนตร์ฮ่องกงเมื่อนานมาแล้ว
อันที่จริงมีเรื่องมากมาย เมื่อเปลี่ยนคนทำมักจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันจริงๆ โลกที่น่าเบื่อใบนี้อย่างไรเสียก็ยังมองหน้าตา
สวี่ชิงหล่างลุกขึ้น ก้มหน้ามองหน้าอกของตัวเอง หน้าอกที่มีบาดแผลอันน่ากลัวแต่เดิมทีได้หายไป กลายเป็นเนื้องอกใหม่เข้ามาแทนที่ แต่ยังคงเจ็บแผลเหมือนเดิม
การรักษาบาดแผลเช่นนี้ คือต้นแบบของการรักษาที่ปลายเหตุอย่างแท้จริง ดูเหมือนจะฟื้นฟูเหมือนเดิม แต่บาดแผลเหล่านี้ยังต้องใช้เวลาพักฟื้นให้ดีถึงจะฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิม
อ้อ ใช่แล้ว มันยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือห้ามเลือด สวี่ชิงหล่างเดินไปหน้ากระจกที่สะท้อนตัวเองอยู่ในนั้น ใบหน้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่ต้องพูดถึงรอยมีด แม้แต่เลือดก็ไม่เหลือร่องรอยเลยสักนิด แต่เขาไม่กล้ายื่นมือไปลูบ และไม่กล้าใช้แรงสัมผัสมัน แต่อย่างน้อยเขารู้สึกพอใจอยู่บ้าง
ผู้หญิงรักสวยรักงาม ผู้ชายก็รักสวยรักงามเหมือนกัน เขาเอียงศีรษะ มองตัวเองที่อยู่ในกระจกต่อไป ยื่นมือแตะบนกระจกเบาๆ
ในนัยน์ตาของสวี่ชิงหล่าง รูม่านตาของเขาเหมือนกำลังแตกออก ปรากฏสีเขียวจางๆ เขาจ้องมองตัวเองที่อยู่ในกระจกอยู่นาน จากนั้นหันตัวเงยหน้ามองไปรอบๆ ไม่รู้ว่าทำไม ความรู้สึกที่สุดแสนจะรังเกียจถูกส่งผ่านมาจากก้นบึ้งของหัวใจ สีเขียวที่อยู่ในนัยน์ตากำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ รูม่านตากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ชีวิตที่ตัวเองรังเกียจ สภาพแวดล้อมที่ตัวเองเดียดฉันท์ เสียงดังเอะอะบนท้องถนนที่น่ารำคาญ สวี่ชิงหล่างใช้สองมือกุมศีรษะของตัวเอง เขาสับสนมึนงง เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกรุนแรงเหล่านี้มาจากไหน แต่พวกมันกลับปรากฏขึ้นมาในเวลานี้ และกำลังทลายห้องหัวใจของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
เขาคิดวางแผนทุกอย่าง เตรียมงานเองทุกขั้นตอน ชั้นลอยบนเพดานยังมีไม้ตายของจริงอยู่ แต่ไม่ได้ใช้งาน
เขาได้คำนวณแล้วว่าจะต้องสำเร็จแน่นอน แต่เรื่องราวหลังจากทำสำเร็จแล้ว เขาไม่อยากคิดมาก ในความเป็นจริง ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่คิดถึงเรื่องราวหลังจากที่ทำสำเร็จแล้วเอาไว้
ตอนที่คุณกำลังจ้องมองเหวลึก เหวลึกก็กำลังจ้องมองคุณอยู่เหมือนกัน ตอนที่คุณพยายามจะสร้างความสัมพันธ์กับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเพื่อรับพลังจากเขา ความรู้สึกของเขา ความคิดของเขา ย่อมต้องเกิดความรู้สึกตอบสนองร่วมกันกับคุณในระดับหนึ่ง
ปีศาจที่บำเพ็ญตบะครบหกสิบปีมาหลายรอบตนหนึ่งกับชายหนุ่มอายุยี่สิบห้ายี่สิบหกปีคนหนึ่ง ใครจะมีอิทธิพลกับใครมากกว่ากัน จริงๆ แล้วไม่ต้องเดาเลย
สวี่ชิงหล่างฝืนมองทุกสิ่งที่อยู่ในนี้ต่อ ที่นี่เป็นความทรงจำที่อบอุ่นที่สุดที่เขาเคยมีมาก่อน แต่ตอนนี้ก้นบึ้งหัวใจของเขากลับมีความคิดหุนหันอยากทำลายทุกอย่างให้พังทลาย
เสียงจากส่วนลึกในหัวใจกำลังร้องเรียกเขาไม่หยุด ในหัวของเขามีภาพความลำบากที่เขาเคยเจอตั้งแต่เด็กจนโตเป็นเหมือนภาพสไลด์ที่เลื่อนไปมาไม่หยุด มันกำลังปฏิเสธอดีตของตัวเอง มันกำลังต่อว่าตัวเองในปัจจุบัน มันกำลังคิดเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง มันกำลังรวมเป็นหนึ่งกับตัวเอง! เขารู้สึกลนลานทำตัวไม่ถูก
สวี่ชิงหล่างหาโทรศัพท์เจอแล้ว เขาอยากจะโทรศัพท์ แต่โทรศัพท์ที่เพิ่งถืออยู่ในมือกลับร่วงลงพื้นอย่างแรง!
‘เพล้ง!’ โทรศัพท์แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ “โอ๊ยยยย!!!!” สวี่ชิงหล่างกุมศีรษะ คุกเข่าไปบนพื้น ผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่กำลังสับสนคนหนึ่ง ผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง ผู้ชายที่ขี้กลัวคนหนึ่ง…
ไม่รู้ว่าเขาคุกเข่านานแค่ไหน สวี่ชิงหล่างเริ่มลุกขึ้นช้าๆ อีกครั้ง เขารู้สึกอึดอัดกะทันหัน เขาอยู่ในพื้นที่ที่คับแคบจึงรู้สึกหายใจไม่ออก กระทั่งพื้นที่แข็งแรง ก็ยังทำให้เขารู้สึกไม่ชอบอยากกำจัดมันทิ้งไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล