ตอนที่ 554 เดินทาง! รีบไปสอบ!
จริงๆ แล้วถ้าหากโจวเจ๋อรู้ ก็คงไม่เป็นห่วงหวังเคอแต่อย่างใด ในด้านของการเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะการควบคุมจิตใจและความละเอียดรอบคอบ ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหน หวังเคอสามารถแก้ไขได้เสมอ
เสียดายที่หวังเคอเกิดในยุคปัจจุบัน ถ้าหากเกิดในยุคโบราณ คงจะแย่งบท ‘หนิงฉ่ายเฉิน’ เป็นแน่
ในสายตาของเถ้าแก่โจว หวังเคอเกือบจะกลายเป็นอาวุธแห่งเวรกรรมที่ทัดเทียมกับนักพรตเฒ่าแล้ว เพียงแต่นักพรตเฒ่าเป็นฝ่ายที่ออกไปหาเรื่องเสี่ยงด้วยตัวเอง แต่หวังเคอกลับมีออร่าติดตัว
สาวน้อยโลลิไม่ได้กลับมา ถึงแม้จิ้งจอกขาวจะเตือนเธอแล้ว แต่เวลานี้ไม่ว่าอย่างไร เธอไม่เหมาะที่จะกลับมาอีก
ณ จุดนี้ เธอควบคุมได้ดีและมองออกอย่างชัดเจน
ถึงแม้จิ้งจอกขาวจะเคยอยู่ร้านหนังสือช่วงหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ใช่คนของร้านหนังสือ ในบางด้าน เธออาจจะมองเห็นความเป็นจริงมากกว่า แต่สาวน้อยโลลิรู้ดีว่า เถ้าแก่ของตัวเองไม่ชอบคนที่อยู่ในโลกความจริงมากเกินไป
บรรยากาศวัฒนธรรมองค์กรของร้านหนังสือวางอยู่ตรงนั้น หากก้าวหน้าเกินไปรวมทั้งได้รับการพัฒนามากเกินไป จะไม่สอดคล้องกับกระแสหลัก
ในความเป็นจริงนั้น สองสามวันที่ผ่านมานี้ เถ้าแก่โจวใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเป็นพิเศษ ธุรกิจตอนเย็นก็ไปได้ดี โดยเฉลี่ยแล้วจะมีวิญญาณมาหาที่ร้านสองสามรายให้ถูกจับทำเป็นผลงานเล็กน้อย ตอนกลางวันตื่นมาก็ดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ตื่นเต้นกับ ‘การสอบ’ ที่กำลังจะมาถึงแม้แต่นิดเดียว ปกติแล้วสถานการณ์แบบนี้ จะเห็นได้จากนักเรียนยอดแย่ที่ทอดทิ้งการเรียนทั้งหมดอย่างสิ้นเชิงเท่านั้น
ร้านหนังสือมีคนเข้าร่วมสองคน คนหนึ่งเป็นเถ้าแก่ อีกคนหนึ่งเป็นเหล่าจาง เถ้าแก่ไม่มีใครกล้าโน้มน้าวเขา เขาอยากทำอะไรก็ทำแบบนั้น ทุกคนล้วนเป็นพนักงาน จึงไม่กล้าพูดอะไร
ส่วนเหล่าจางกลับถูกทุกคนทอดทิ้ง ทั้งๆ ที่เหล่าจางเป็นนักเรียนที่ขยัน ตั้งใจเรียน ประพฤติดี และหนักแน่นมั่นคง แต่กลับถูกมองเป็นนักเรียนที่ไม่ดี ส่วนเถ้าแก่ที่ไม่มีอะไรทำเอาแต่พักผ่อนสบาย กลับถูกทุกคนฝากความหวังอย่างมาก ต้องพูดว่า โชคชะตาในชีวิตรวมทั้งการใช้ชีวิตของคนเรา คือปริศนาจริงๆ
และแล้ววันสอบก็มาถึงโดยไม่รู้ตัว มื้อกลางวันเพิ่งผ่านไป อีกสองชั่วโมงก็จะเดินทางแล้ว
เนื่องจากทงเฉิงอยู่ใกล้เซี่ยงไฮ้ ดังนั้นโจวเจ๋อและคนอื่นๆ จึงไม่รีบร้อนออกเดินทาง ไม่ว่าอย่างไรต่อให้รถติดในเขตเมือง จากร้านหนังสือที่ทงเฉิงถึงไนต์คลับนั่น ใช้เวลาสองชั่วโมงถือว่าเหลือแหล่
ครั้งนี้ นอกจากโจวเจ๋อและเหล่าจางสองคนที่ไปแล้ว ยังมีทีมของร้านหนังสือที่ไปเป็นเพื่อนผู้เข้าสอบตามไปด้วย
ทนายอันเนื่องจากฐานะที่พิเศษของเขา เวลาปกติแอบออกมากระโดดโลดเต้นอยู่เงียบๆ ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากรู้ว่าทางนั้นอาจจะมีผู้พิพากษามาแล้วยังจงใจโผล่หน้าเข้าไปใกล้ แบบนี้คือไม่ไว้หน้ากันเกินไป อีกอย่าง ทนายอันยังต้องดู ‘สวน’ ที่อยู่ข้างๆ ร้านหนังสือ
เมื่อวานหญิงสาวตัวดำถูกโจวเจ๋อใช้เล็บแก้พิษให้ชั่วคราว อาการจะไม่กำเริบภายในหนึ่งเดือน แต่ถ้าหากเธอไม่มีคนดูแล ทุกคนก็ไม่วางใจ อย่างไรก็ตามมันเกี่ยวกับปัญหาปากท้องของทุกคน
ทนายอันเลือกที่จะอยู่เฝ้าร้าน เดดพูลก็อยู่ด้วยเหมือนกัน คนที่เหลือคือ เด็กผู้ชาย สวี่ชิงหล่าง อิงอิง นักพรตเฒ่ารวมทั้งเจ้าลิง ทั้งหมดได้เดินทางไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน
แต่ไม่ได้แจ้งสาวน้อยโลลิ เพราะหลิวฉู่อวี่ เจิ้งเฉียง และเยวี่ยหยา ยมทูตสามคนที่ทิ้งให้อยู่ที่ซูโจว อู๋ซี และฉางโจว ได้เดินทางไปรอโจวเจ๋อที่เซี่ยงไฮ้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นจึงมีลูกน้องให้ใช้งานมากพอ
อย่างน้อยเรื่องที่ต้องรับมือทั่วไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ต่อให้ไม่มีโจวเจ๋อ เด็กผู้ชายสามารถยืนแถวหน้าสุด บวกกับอิงอิง เจ้าลิง และยมทูตคนอื่นคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ การต่อสู้กับยมทูตกลุ่มเล็กที่นำทีมโดยผู้จับกุม จึงไม่ใช่ปัญหาแม้แต่นิดเดียว
ก่อนออกเดินทาง ทุกคนได้เตรียมตัวเป็นครั้งสุดท้าย เหล่าจางที่ลาหยุดได้มาถึงนานแล้วเหมือนกัน ตอนนี้กำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่บนโซฟา
เขาก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นมากนัก ดั่งสิ่งที่เรียกว่าถ้าไม่ปรารถนาก็ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว!ไอรีนโนเวล
บนสนามสอบ คนที่เฉยชามากที่สุดจริงๆ แล้วก็คือเด็กที่เรียนไม่ดี ไม่ว่าอย่างไรก็ทำไม่เป็น อย่างนั้นก็เปิดเผยไปเลย
เหล่าอันอยู่ในห้องของตัวเอง ช่วยเด็กผู้ชายเก็บเสื้อผ้า จริงๆ แล้วมีเสื้อผ้าไม่กี่ตัวเท่านั้น และเด็กผู้ชายไปกับพวกเขาก็แค่ไปเป็นเพื่อน ถือว่าไปช่วยข่มขวัญเท่านั้น
ร้านหนังสือถ่อมตัวไม่เป็นจุดสนใจมาตลอด จะทำตัวเด่นแค่ในบางครั้งก็เพราะอยากมีเวลาที่ไม่เป็นที่สนใจมากกว่า โจวเจ๋อไม่อยากทำให้เอิกเกริกมากเท่าไร เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรับการคัดเลือกเข้านรกขุมที่เก้าที่สร้างใหม่ของผู้พิพากษาคนนั้นจริงๆ ศาลาว่าการที่ดูไม่มีอนาคต เป็นแค่ชื่อเสียงว่างเปล่าเท่านั้น
ส่วนเหล่าจางกลับต้องลองเสี่ยงดวง ความน่าจะเป็นที่ได้คือหนึ่งในหมื่นส่วน และเดิมทีก็ไม่คิดว่าจะสอบผ่าน แล้วทำไมยังต้องลากทุกคนไปสอบเป็นเพื่อน ทว่าทนายอันยังคงยืนกรานความคิดนี้ ยมทูต ต่อไปต้องเป็นผู้จับกุม หลังจากนั้นก็เป็นผู้ตรวจสอบ สิ่งที่เรียกว่าการพัฒนาศักยภาพแฝงนั้น นอกจากต้องดูความสามารถของเจ้าตัวแล้ว ในนี้ยังรวมถึงความสามารถของลูกน้องของเขาอีกด้วย
ถ้าหากลูกน้องในมือยิ่งเก่ง ในสายตาของผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำการคัดเลือก นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ได้คะแนนเพิ่ม ถึงแม้โจวเจ๋อไม่อยากได้คะแนนเพิ่ม แต่เพิ่มหน้าตาให้เหล่าจางก็ถือว่าไม่เลว
ตอนที่เก็บของ ทนายอันละเอียดและรอบคอบเป็นอย่างมาก เด็กผู้ชายยืนพิงผนังห้อง รอทนายอันเก็บกระเป๋าเดินทางใบเล็กของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็จะลงไปนั่งรถข้างล่างและออกเดินทาง
“พอถึงที่นั่น หลังจากเถ้าแก่กับเหล่าจางพวกเขาเข้าไปแล้ว พวกคุณคอยเฝ้าอยู่ข้างนอก ในเมื่อเป็นงานของทีมผู้พิพากษา พวกเขาจะต้องรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ยมทูตผู้เข้าสมัครเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับกายเนื้อของพวกเขา ไม่อย่างนั้นตัวเขาเองคงเสียหน้า ดังนั้นพวกคุณคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกก็พออย่าทะเล่อทะล่าเข้าไป เจอเรื่องอะไรให้ทำใจนิ่งๆ และสามารถโทรหาผมได้ บางทีอาจจะมีทีมที่เดินทางไปเป็นเพื่อนผู้เข้าสอบคนอื่นอีก พวกคุณก็ไม่ต้องไปเสวนาด้วย มันไม่มีประโยชน์”
“รับทราบ”
“แน่นอนว่า ถ้าหากเจอปัญหาเกินคาดจริงๆ อย่ากลัว ถ้าต้องสู้ก็ต้องสู้ อย่างน้อยที่สุด ต้องปกป้องกายเนื้อของเถ้าแก่ให้ได้”
“ดูมีความขัดแย้งในตัวเอง”
“ไม่มีทางอื่น ตอนนี้คลื่นใต้น้ำในนรกกำลังทะลักออกมา ประสบการณ์มากมายในอดีตล้วนใช้การไม่ได้แล้ว ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ใช่ไหม แน่นอนว่าผมหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน กายเนื้อของเถ้าแก่จำเป็นต้องรักษาให้ดี!”
“ข้ารู้แล้ว”
“อืม”
ทนายอันรูดซิปกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย ยกกระเป๋าเดินทางตั้งขึ้นมาแล้วผลักไปตรงหน้าของเด็กผู้ชาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล