ตอนที่ 565 การกลับมา!
โจวเจ๋อรู้สึกผิดหวังกระทั่งสับสนเล็กน้อยเมื่อยืนอยู่ท่ามกลางหมอกควัน เพราะจู่ๆ เขาก็พบว่าผู้ที่ควบคุมร่างกายในขณะนี้กลับเป็นตัวเขาเอง ไม่ใช่อิ๋งโกวแต่อย่างใด
นี่ถือว่าเป็นครั้งแรก
เมื่อก่อนหลังจากที่ตัวเขาเรียกอิ๋งโกวออกมาทุกครั้ง จิตสำนึกของเขาจะสละเรือเข้าสู่สภาวะหลับใหลชั่วคราว จากนั้นก็ปล่อยให้อิ๋งโกวเข้ามาควบคุมทุกอย่าง ต่อมาเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างก็ต้องรอให้อิงอิงหรือทนายอันมาบอกเขา อย่างเช่นครั้งก่อนที่เจ้าโง่นั่นจะไปต่อสู้กับพระพุทธเจ้า โจวเจ๋อก็เพิ่งรู้หลังจากเกิดเรื่องไปแล้ว
ทว่าครั้งนี้ต่างออกไป ครั้งนี้เขารู้สึกถึงพลังที่ล้นเหลือในร่างกายของเขาได้อย่างชัดเจน แต่จิตสำนึกของเขาก็ยังมีสติอยู่
‘ผมสู้ไม่เป็น’ เถ้าแก่โจวพูดในใจ
นี่คือความจริง แม้เถ้าแก่โจวจะไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนในอดีตแล้ว จากคำพูดของสวี่ชิงหล่างการต่อสู้ของโจวเจ๋อในตอนนั้น คล้ายกับหญิงปากร้ายใช้กรงเล็บข่วนคน ตอนนี้โจวเจ๋อดีกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ทว่าเมื่อเทียบกับอิ๋งโกวแล้ว อาจกล่าวได้ว่าโจวเจ๋อต่อสู้ไม่เป็นจริงๆ นั่นแหละ
ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องสู้สุดชีวิต แต่ปรากฏว่าจู่ๆ คุณก็มอบอำนาจให้เสียอย่างนั้น พลังน่ะมีแล้ว แต่พลังอำนาจเดียวกันอยู่ในมือของคนที่ต่างกันไปจัดการ ผลลัพธ์และสิ่งที่แสดงออกมาก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันก็เหมือนกับรถแข่งแบบเดียวกัน คุณปล่อยให้มือสมัครเล่นที่แม้แต่ใบขับขี่ยังสอบไม่ผ่านลงสนามแข่งกับผู้เล่นมืออาชีพ แม้ว่าองค์ประกอบและสมรรถนะของรถทุกคันจะเหมือนกันทุกประการก็ตาม แต่มันจะสามารถเหมือนกันเป๊ะได้จริงๆ น่ะหรือ
‘ซุก…ซ่อน…’
โจวเจ๋อพยักหน้า ถอนหายใจเฮือก เขารู้ว่าอิ๋งโกวหมายถึงอะไร แม้จะบอกว่าเนื่องจากเหตุผลพิเศษและอิทธิพลจากการดื่มเลือดของอิ๋งโกวมาก่อน แมวดำตัวใหญ่จึงสัมผัสรับรู้ถึงโจวเจ๋อได้จางๆ โดยสัญชาตญาณ แต่คนอื่นๆ ไม่มีความรู้สึกแบบนี้ และไม่มีความสามารถแบบนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้ หากในเวลานี้ปล่อยให้โจวเจ๋อมาควบคุมร่างกายและพลังนี้ต่อไป ก็จะสามารถเลี่ยงความโกลาหลจากการปรากฏตัวโดยตรงของอิ๋งโกวได้
เพียงแต่ว่า โจวเจ๋อยังรู้สึกไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย ทำไมอิ๋งโกวถึงเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้ เขาคิดถึงผลที่ตามมาจริงหรือ นี่ใช่อิ๋งโกวแน่หรือ
“สหาย ในเมื่อมาแล้ว ไม่ออกมาเจอเจ้าบ้านเช่นข้าหน่อยหรือ” ต้าฉางชิวยืนอยู่ตรงนั้น ยืนนิ่งไม่กระดุกกระดิกและยังหัวเราะคิกคักเหมือนเดิม ส่วนแมวดำตัวใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เดี๋ยวสงสัยเดี๋ยวมึนงงอยู่พักหนึ่ง
‘ผมเอาชนะได้ไหม’ โจวเจ๋อถาม
การถามคำถามนี้ในเวลานี้ จริงๆ แล้วค่อนข้างงี่เง่าทีเดียว
‘สร้าง…วิญญาณ…’ พลังลึกลับผสานเข้ากับจิตใจของโจวเจ๋อ โจวเจ๋อพ่นสองคำนี้ออกมาโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตาจิตวิญญาณของโจวเจ๋อตั้งแต่ลมหายใจสู่รูปลักษณ์ภายนอกล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง จากภายในสู่ภายนอก กลายเป็นวิญญาณประหลาดอีกดวงหนึ่งโดยสิ้นเชิง
‘ตอนนี้คุณยอมสอนผมแล้วหรือไง จริงสิ ยังมีร่างแยกนั่นอีก เผ่าที่ครองบัลลังก์กระดูกของคุณน่ะ คุณก็เป็นคนสอนใช่ไหม สามารถ…’
“เมี้ยว!”
จู่ๆ ก็มีเสียงแมวร้องขัดจังหวะความพยายามของโจวเจ๋อที่หวังจะขุดคุ้ยการสอนออกมาเรื่อยๆ ทันใดนั้น ร่างสีดำใหญ่ยักษ์พุ่งพรวดเข้ามาราวกับกระทิง! โจวเจ๋อจ้องเขม็ง งอขาทั้งสองข้าง ออกแรงส่วนเอว เหยียดแขนทั้งสองข้างยื่นออกไปทันที
‘ปัง!’ เสียงกระแทกดังลอยมา โจวเจ๋อสะบัดแมวดำออกไปไม่ได้ ทำได้เพียงหยุดการพุ่งชนของแมวดำเท่าที่ไหว ส่วนตัวโจวเจ๋อนั้นถูกชนกระเด็นลอยออกไปและกระแทกลงบนพื้น
‘เฮ้อ…’ อิ๋งโกวถอนหายใจ
โจวเจ๋อสามารถจินตนาการได้ถึงภาพอิ๋งโกวส่ายหน้าและถอนหายใจ รวมถึงรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก ‘เป็นเนื้อหมาที่เสิร์ฟบนโต๊ะไม่ได้’
“นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาของผม” เถ้าแก่โจวรู้สึกว่ายังต้องการคำอธิบายสักหน่อย “พลังของพวกเราเดิมทีก็สู้มันไม่ได้อยู่แล้ว” ต่อให้แกจะมาขับรถแข่งคันนี้ แกจะเอาชนะรถถังได้หรือไง
“สู้ผู้ใดไม่ได้หรือ” ทันใดนั้นเสียงอ่อนละมุนดังขึ้นจากด้านหลังโจวเจ๋อ สิ่งที่ตามมาคือกระแสน้ำที่น่าสะพรึงกลัวราวกับน้ำตกน้ำค้างแข็ง ดูเหมือนว่าจะถูกลากลงมาจากหน้าผาอย่างฉับพลันและควบแน่นเป็นจุด กระแทกเข้าแผ่นหลังของโจวเจ๋อทันที
“โฮก!” เขี้ยวสองซี่งอกออกจากมุมปากของโจวเจ๋อโดยพลัน ร่างกายก็ถูกปกคลุมไปด้วยลำแสงสีเขียวเช่นกัน เอี้ยวตัวไม่ใช่เพื่อหลบเลี่ยงแต่เป็นการกัดลงไป!
‘พรึ่บ!’ ร่างกายของโจวเจ๋อถูกแช่แข็งไปครึ่งหนึ่ง เมื่อเขี้ยวกำลังจะกัดต้าฉางชิวนั้นดันถูกแช่แข็งจนไม่สามารถไปข้างหน้าต่อได้
“ผีดิบไร้จิตไร้วิญญาณ เจ้าเป็นตัวประหลาดมาจากที่ใดกัน ถึงเปลี่ยนจิตวิญญาณเป็นผีดิบได้” ต้าฉางชิวยื่นหน้าเข้าไปใกล้โจวเจ๋อ สีหน้าเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ตอนนี้เถ้าแก่โจวหดหู่มาก หลังจากได้รับพลังแล้ว ก่อนอื่นถูกแมวชนกระเด็นกระดอน จากนั้นภายใต้การใช้วิชาเพียงครั้งเดียวก็ดันถูกขันทีบ้านี่ควบคุมเอาไว้เสียได้
กระทั่งโจวเจ๋อยังสงสัย อิ๋งโกวรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าต่อให้แสดงพลังของเขาก็เอาชนะไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นจึงจงใจปล่อยให้โจวเจ๋อออกมาขายหน้า ถึงอย่างไร อิ๋งโกวก็เป็นคนที่หยิ่งผยองเหลือเกิน เขายอมปล่อยให้โจวเจ๋อถูกเหยียบย่ำบนพื้นได้ แต่กลับไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองถูกเหยียบย่ำบนพื้น แม้ว่าจะหลอกทั้งตัวเองและคนอื่น แต่พอมาคิดให้ถี่ถ้วนสักหน่อย มันก็เหมาะกับนิสัยใจคอของเจ้าโง่นี่จริงๆ!
“เอาเถิด จ๋าเจียจะเอาวิญญาณของเจ้ากลับไปด้วยก่อน แล้วจะหั่นเพื่อศึกษา ถึงอย่างไรก็มีเวลาถึงหกสิบปี เวลาพวกเรามีมากมายค่อยๆ เล่นไปก็ได้ หั่นออกมาดูก่อนสักชิ้นหนึ่ง” กรรไกรตัดเล็บปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของต้าฉางชิว มันสร้างมาจากหยก มีความละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ แต่ภายในกลับดูเหมือนมีเสียงร่ำไห้ของวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน
“ค่ายกล…เปิด…”
สีหน้าของต้าฉางชิวพลันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน รีบถอยร่างกลับอย่างรวดเร็ว ลำแสงรัศมีปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของโจวเจ๋อ จากนั้นโซ่ตรวนสีดำแกร่งหนาเจ็ดถึงแปดเส้นพุ่งแหวกอากาศฟาดเข้ามา
‘ปัง!’
‘โครม!’
‘ปัง!’
‘ปัง!’
ไม่ว่าต้าฉางชิวจะถอยเร็วแค่ไหนก็ไม่เท่าความเร็วของโซ่ตรวนอยู่ดี นึกไม่ถึงว่าจะเหมือนลูกบอลที่ถูกโซ่ฟาดหวดไปหวดมาไม่หยุด
“ไอ้หยา!”
“ฉิบหาย!”
“ยังมาอีก!”
“ไอ้##!”
ส่วนแมวดำตัวนั้นที่อยู่ข้างๆ กลับถูกโซ่ตรวนล่ามเอาไว้ทั้งตัว ทั้งแขนขาและศีรษะล้วนถูกล็อกตรึงไว้กับพื้น
“เมี้ยว!” แมวดำยักษ์ยังคำรามเสียงต่ำ สายตาดุร้าย!
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังแห่งนี้ผุดขึ้นในความคิดของโจวเจ๋ออย่างรวดเร็ว มีเปลวเพลิงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนฝังซ่อนอยู่ใต้ดิน พวกมันกำลังเดือด พวกมันกำลังเผาไหม้ และสามารถกลายร่างเป็นโซ่ตรวนปรากฏออกมาได้อย่างต่อเนื่อง!
“หึๆ” จังหวะแบบนี้สิถึงจะถูกดฮณ๊ฯดฯฌซ,
เวลานี้เถ้าแก่โจวเหมือนเป็นผู้เล่นกระจอกที่ขยันขันแข็ง เล่นไอดีของผู้เล่นเหรินหมินปี้ผู้สูงศักดิ์ที่ใช้เงินซื้อชุดระดับเทพ ความรู้สึกสะใจแบบนี้ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด
‘ตุ้บ!’
ต้าฉางชิวที่ถูกเฆี่ยนหลายครั้งติดต่อกันในที่สุดก็ร่วงลงบนพื้น แม้ว่าร่างจะอนาถไปบ้าง แต่ไม่มีอะไรร้ายแรง เพียงแต่ความสนอกสนใจบนใบหน้าฉายแววรุนแรงมากขึ้น
“น่าประหลาดใจนัก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถควบคุมค่ายกลของที่นี่ได้ รีบบอกจ๋าเจียเร็วเข้า จงรู้ไว้ว่าในอนาคตสถานที่แห่งนี้จะเป็นพระราชวังของจ๋าเจียเอง!”
‘ผนึก…หลบ…หนี…’
นี่เป็นคำเอ่ยเตือนของอิ๋งโกว เพราะอิ๋งโกวรู้ดีว่า จากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ หากต้องจัดการผิงเติ่งหวังและชายดุจสตรีคนนั้นที่มีอาการบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่แค่ค่ายกลแห่งนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ ลูกแมวน้อยที่เคยลิ้มเลียเลือดของตัวเขาเองในตอนนั้นร่วมกับต้าฉางชิวผู้นี้ พวกเขาล้วนอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม อาศัยแค่ค่ายกลอย่างเดียวไม่อาจปราบพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์!
โจวเจ๋อพยักหน้า ส่งสัญญาณว่าเขาทราบแล้ว ตอนนี้เอง เล็บทั้งสิบนิ้วไขว้กันในชั่วพริบตา โซ่แต่ละเส้นผุดลอยขึ้นจากพื้น ทั้งพระราชวังดูเหมือนจะกลายเป็นนรกไปทั่วทั้งผืน เชือกใหญ่ชูสะพรั่ง
“เหอะๆ คิดหนีหรือ”
เหนือความคาดหมาย ต้าฉางชิวกลับดูเหมือนจะค้นพบความตั้งใจของโจวเจ๋อเข้าแล้ว มือทั้งสองข้างฉีกทึ้งไม่หยุด ส่วนแมวดำส่งเสียงร้องคำราม ทันใดนั้นกลายเป็นลำแสงสีดำจมลงไปในร่างของต้าฉางชิวทันที มันคล้ายกับชายดุจสตรีก่อนหน้านี้มาก ดูเหมือนว่าขันทีทุกคนจะมีแมวประจำตัวอยู่หนึ่งตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล