ตอน ตอนที่ 569 ทหารปีศาจ! จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 569 ทหารปีศาจ! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 569 ทหารปีศาจ!
หนึ่งเมือง หนึ่งสุสาน
ข้ากลับมาแล้ว นี่เป็นของขวัญที่ข้ามอบให้นรก สายตาของอิ๋งโกวทอดมองออกไปไกล มีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก ก่อนจะเขย่งเท้าเบาๆ เหนือพระจันทร์สีเลือดแล้วเหาะออกไป
ต้าฉางชิว เจ้ารีบหนีไปหน่อยสิ หนีให้เร็วอีกหน่อยสิ ตอนนี้ก็ยังช้าเกินไปอยู่ดี
ภายใต้ซากปรักหักพัง อิ๋งโกวไม่ได้ใส่ใจว่า ‘ผู้มีอำนาจ’ ที่เมื่อก่อนทำตัวสูงส่งอยู่ในนรกถูกฝังไปแล้วเท่าไรกันแน่ อิ๋งโกวคร้านจะสนใจไยดี และเขาก็ไม่ชายตามองปลาเล็กปลาน้อยที่ลอดผ่านตาข่ายเหล่านั้นเลยสักนิด กระทั่งซ่งตี้หวังอวี๋ที่ร่างธรรมถูกทำลายจนสิ้นซาก เขาก็ไม่ไปตามหา เพียงแต่จากไปอย่างกะทันหันและทิ้งสุสานขนาดมหึมาเอาไว้ ซากปรักหักพังนี้อาจยังคงอยู่ในอีกหลายพันปีต่อมา และจะถูกผู้คนในนรกเล่าขานตำนานพระจันทร์ทำลายล้างโลกสืบต่อกันไป
บัดนี้ ทั้งนรกได้สั่นสะเทือนและเดือดพล่านขึ้นมาแล้ว ความคิดนับไม่ถ้วนถูกส่งออกไป ไม่ต้องเอ่ยถึงเสียงพลังปะทะกันดังลั่นอันน่าสะพรึงกลัว แค่คุณว่างๆ เลยเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก็จะพบว่า ‘บ้าจริง พระจันทร์หายไปได้อย่างไร’
หลายๆ คนต่างพากันถามว่า
‘ใครกันนะ’
‘ใครกันแน่’
‘ใครกันเล่า’
กระแสน้ำเชี่ยวกรากกำลังถาโถมอย่างรวดเร็ว คนที่ไม่รู้ก็ตื่นตระหนก คนที่รู้ก็กลับคิดไปต่างๆ นานา
แน่นอนว่า จำนวนคนที่ไม่รู้นั้นมีมากกว่า เพราะยุคสมัยของอิ๋งโกวห่างไกลจากปัจจุบันนานโข ห่างไกลจนของเก่าแก่ของโบราณในปัจจุบันหลายชิ้นยังไม่เกิดขึ้นเลยในยุคสมัยนั้น
…
‘ไม่เขมือบคนต่อแล้วหรือไง’ โจวเจ๋อถาม
‘ไม่…ทัน…แล้ว…’ ไม่ใช่ทุกคนจะ ‘ย่อย’ ตัวเองเหมือนผิงเติ่งหวังแล้วส่งเข้าปากให้เขาเสร็จสรรพ ขณะเดียวกันการย่อยพวกเขาก็ต้องใช้เวลานาน กระทั่งอาจจะถึงขั้นหลับสนิท
เขารอช้าไม่ได้และไม่อยากเสียเวลาด้วย ชีวิตคนเรานั้นสั้น ต้องฉกฉวยวันเวลาไว้ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับปัจจุบัน
‘จะเสี่ยงเกินไปไหม ตอนนี้คุณฟื้นตัวเท่าไรแล้ว หนึ่งส่วนเหรอ’
‘พอ…ใช้…น่า…’
ลมนรกพัดผ่านข้างกายราวกับคมมีด ไม่ใช่ว่าลมแรง แต่ความเร็วของอิ๋งโกวรวดเร็วเกินไปแล้วจริงๆ โจวเจ๋อสามารถมองเห็นแผ่นดินที่เปลี่ยนแปลงไปใต้ฝ่าเท้าของเขาตลอดเวลา ราวกับตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินมองเห็นพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลของนรกแห่งนี้
ร่างของต้าฉางชิวค่อยๆ ปรากฏให้เห็นแล้ว เขาพยายามซ่อนลมหายใจของตัวเองและพยายามทิ้งร่างแยกไว้เพื่อให้ผู้ที่ไล่ตามมาเข้าใจผิด เขาคิดหาวิธีต่างๆ นานา แต่ก็ไร้ประโยชน์ คนผู้นั้นเอาแต่ไล่ตามเขามาเรื่อยๆ อย่างแน่วแน่ ช่างทำให้สิ้นหวังเหลือเกิน!
นายพรานล่าสัตว์ ไม่จำเป็นต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการล่าเหยื่อ เฉกเช่นเดียวกับหลายๆ คนที่ออกล่าสัตว์ในปัจจุบันนี้ แค่พอสนุกกับขั้นตอนกระบวนการนี้ก็เท่านั้นเอง สำคัญที่การเข้าร่วมต่างหาก
ต่างจากการเดินเล่นสบายๆ ของอิ๋งโกว ต้าฉางชิวยิ่งหนีก็ยิ่งร้อนใจ แม้จะสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาก็ไร้หนทาง ใครจะตายก็ตายแต่จะเสียสละตัวเองไม่ได้ ก่อนพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์จะเสด็จออกมา เขาจำเป็นต้องหาคนให้มากพอที่จะช่วยตัวเองหยุดยั้งการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวเบื้องหลังของเขาไว้!
บัดซบ ชายด้านหลังผู้นั้นโผล่พรวดมาจากไหนกันแน่
แต่น่าเสียดายที่ต้าฉางชิวไม่กล้าหยุดแล้วหันกลับไปถามคำถามนี้กับอีกฝ่าย ส่วนแมวดำยักษ์ที่ดูเหมือนจะรู้รายละเอียดก็ถูกเหยียบตายไปแล้ว
ด้านหน้ามีสุสานปรากฏขึ้น นี่เป็นสถานที่ฝังศพหมู่แห่งหนึ่ง ตามตำนานกล่าวว่าเป็นโบราณสถานที่หลงเหลือจากสมัยโบราณ ที่หลุมศพด้านหน้าสุดป้ายหลุมศพพังทลายลงครึ่งหนึ่ง แต่กลับเผยให้เห็นแสงอึมครึม ด้านหลังหลุมศพนี้ มีหลุมศพขนาดใหญ่หลายพันหลุมตั้งตระหง่านอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดูเหมือนว่าหลุมศพนี้จะเป็นแกนหลัก!
ในนรกมีซากโบราณสถานอย่างนี้มากมาย บางแห่งหลงเหลือจากการล่มสลายของผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต อย่างเช่นพระราชวังของอิ๋งโกวในอดีต และมีการอพยพมาจากที่อื่นด้วย เนื่องจากลักษณะพิเศษของนรก ดังนั้นสถานที่คล้ายกันแบบนี้จำนวนมากจึงถูกปล่อยให้มีอยู่ มันดูเหมือนกับเป็นกองขยะขนาดยักษ์
หลายสิ่งที่ไม่อาจปรากฏออกไปสู้แสงตะวันบนโลกมนุษย์ได้ สามารถซ่อนอยู่ใต้เงานรกได้
ยมโลกเป็นเพียงหน่วยงานปกครองอย่างเป็นทางการของนรก ถือได้ว่าเป็นราชสำนักที่อยู่ในด้านสว่าง พวกเขาควบคุมอำนาจสับเปลี่ยนหมุนเวียนระหว่าง ‘ชีวิต’ และ ‘ความตาย’ แต่นรกนั้นใหญ่เกินไปจริงๆ ยังมีกองกำลังอีกมากมาย และยังมีเจ้าครองนครอื่นๆ อีกด้วย ดูจากภายนอกทุกคนก็เหมือนจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขดี เว้นเสียแต่ว่ากองกำลังใดอยากแทรกแซงอำนาจ ‘ชีวิตและความตาย’ ไม่อย่างนั้นยมโลกก็จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถึงอย่างไร พวกระดับสูงของยมโลกเอง จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยเป็นหนึ่งเดียว
ในขณะที่ต้าฉางชิวหนีก็หยิบเอาสายคาดสีขาวออกมามัดไว้บนหน้าผากของตัวเอง จากนั้นเหมือนร้องไห้คร่ำครวญและตะโกน “ท่านปู่ ช่วยข้าน้อยด้วยขอรับ ช่วยข้าน้อยด้วย ข้าน้อยถูกคนไล่ฆ่า มีเพียงท่านที่สามารถช่วยหลานชายของท่านได้!”
หลานชายจะใช่หลานชายจริงๆ หรือไม่ และท่านปู่จะใช่ปู่จริงๆ หรือไม่ เรื่องพวกนี้ไม่สลักสำคัญอะไร ประเด็นสำคัญก็คือเมื่อต้าฉางชิวร้องห่มร้องไห้มันหนักยิ่งกว่า เศร้ายิ่งกว่า และสะเทือนอารมณ์ยิ่งกว่าลูกหลานกตัญญูส่วนใหญ่อย่างแน่นอน!
ทำเอาคนฟังก็เศร้าจนน้ำตาไหลพรากไปด้วยจริงๆ
เบื้องล่าง หลุมศพครึ่งหนึ่งแห่งนั้นที่อยู่ด้านหน้าสุดปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้น ร่างนั้นสลัวๆ เล็กน้อย แต่หลังจากปรากฏขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงผีสางคร่ำครวญโหยหวนดังขึ้นโดยรอบอย่างพร้อมเพียงกัน ราวกับผู้นำทัพยืนขึ้นและผู้ใต้บังคับบัญชาข้างหลังเริ่มชักธงและตะโกนกู่ก้อง!
“วันนี้ช่วยข้าน้อยหยุดผู้ที่อยู่เบื้องหลัง วันข้างหน้าจะถวายเครื่องบรรณาการบูชายัญสิบเท่า!” ต้าฉางชิวทำสัญญาโดยตรง
‘ปุ…ปุ…ปุ…ปุ…’ ท่ามกลางหลุมศพเบื้องล่างมีเสียงกระแทกดังแหวกอากาศขึ้นมาเป็นระยะ ราวกับตื่นเต้นด้วยเหตุนี้
ต้าฉางชิวหันกลับไปมองร่างที่กำลังไล่ตามมาในระยะไกลอย่างชั่วร้าย
เจ้ามาเลย เจ้าเข้ามาได้เลย ขอเพียงเจ้าเข้ามาในที่แห่งนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าคิดอยากจะออกไปก็สามารถออกไปได้!
หากพื้นที่สุสานเชียนหลี่ฮวงนี้ไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดพิเศษที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาออกจากพื้นที่นี้ แม้แต่พญายมแห่งตำหนักทั้งสิบก็ยังไม่กล้าแตะต้องขอบของมัน!
ขันทีทั้งสิบที่ต้าฉางชิวเป็นผู้นำเต็มใจอยู่เบื้องหลังเป็นเวลาหลายพันปีโดยไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่น เพราะยุคสมัยของพวกเขายังมาไม่ถึง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรเลยจริงๆ
เฉกเช่นปุถุชนคนธรรมดาเช่นนี้ แม้แต่สถานที่ที่กองกำลังแห่งยมโลกไม่ยินดีกระทั่งคร้านจะแตะต้อง มักจะเป็นสวรรค์ของพวกเขา
เวทีของพวกเขาไม่ได้อยู่ในวิหาร แต่อยู่ในที่แห่งนี้ เพราะวิหารนั้นถูกกำหนดไว้แล้วว่าหลังจากผ่านไปหกสิบปีจะถูกพวกเขาโค่นล้ม!
“ยี่สิบเท่า” เสียงดุดันน่าเกรงขามดังมาจากเบื้องล่าง
ต้าฉางชิวเผยสีหน้าลำบากใจ แต่ก็ยังพยักหน้า “ขอรับ!” จะทุ่มเทและจ่ายไปเท่าไรก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของตัวเอง!
ต้าฉางชิวเหาะเข้าไปในพื้นที่สุสานเชียนหลี่ฮวงพร้อมตะโกน “เขาอยู่ข้างหลัง ปล่อยเขาเข้ามา!” ต้าฉางชิวรู้ว่าผู้ที่ดำรงอยู่ที่นี่ล้วนไม่สามารถออกจากที่นี่มาเป็นเวลานานจนนับไม่ถ้วน ดังนั้นจำเป็นจะต้องปล่อยให้ชายคนนั้นเข้ามาก่อนถึงจะลงไม้ลงมือได้สะดวก!
ดูเหมือนว่าอิ๋งโกวจะไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ร่างนั้นแล่นเข้ามาทันทีโดยไม่หยุดเลยแม้แต่น้อย
ต้าฉางชิวหยุดร่างไว้แล้วหัวเราะร่วน “ดูซิว่าคราวนี้เจ้าจะหนีไปทางไหน!”
“ใคร…หนี…กัน…”
“…” ต้าฉางชิว
‘วืด!’
หลุมศพครึ่งหนึ่งด้านหน้าสุดที่อยู่เบื้องล่างจู่ๆ ก็สั่นสะเทือน ตามด้วยเงาคนคลานออกมาจากข้างใน ร่างนั้นสวมชุดเกราะทรุดโทรมแต่ดูเรียบง่ายและน่าเกรงขาม บนใบหน้ายังมีอักขระโบราณเปล่งประกายอยู่ แม้ว่าทั้งร่างกายจะไร้ชีวิตชีวา แต่พลังนั้นกลับสะเทือนฟ้าสะเทือนดินจริงๆ!
แปลกหน้าเสียจนเลือนราง เกือบลืมไปหมดสิ้นแล้ว
“นาย…พล…ทัพ…อี๋…ตะ…วัน…ออก…หึ…หึ” ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเหยียดหยามบางๆ การดูถูกนั้นเปิดเผยออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย ด้านล่างนั้น ทหารปีศาจนับพันกู่ก้องคำรามพร้อมเพรียงกัน พวกเขาขอให้เปิดศึกเพื่อฉีกทึ้งศัตรูที่กล้าดูถูกพวกเขา!
“มิอาจดูแคลน เผ่าจิ่วหลี!” นายพลปีศาจกล่าวเสียงขรึม
“อ้อ…” อิ๋งโกวพยักหน้าและเอ่ยด้วยความผิดหวัง “ลืม…แล้ว…หรือ…ปี…นั้น…ถูก…หวังไฮ่…ไล่…ฆ่า…ใคร…กัน…ที่เก็บ…เจ้า…เอา…ไว้…”
เมื่อได้ยินดังนั้น ร่างนายพลปีศาจสั่นเทิ้ม ความจำฝุ่นเขรอะถูกเปิดออกทันที ชั่วขณะหนึ่ง บนใบหน้าของเขาเผยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ในสมัยโบราณจักรพรรดิเหลืองรบกับชือโหยว ชือโหยวตายในสนามรบ จิ่วหลีพ่ายแพ้ จักรพรรดิเหลืองสั่งแม่ทัพหวังไฮ่นำกองทหารออกตามล่าเผ่าจิ่วหลีที่เหลืออยู่ หวังจะถอนรากถอนโคน!
นายพลปีศาจแย้มรอยยิ้ม จากนั้นคุกเข่าลงทันที!
เบื้องล่างนั้น ทหารปีศาจนับพันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นคุกเข่าลงพร้อมกัน!
ทั้งกองทัพเงียบสงัดลงในชั่วพริบตา!
เพลงแห่งสงครามหยุดลง เสียงอึกทึกครึกโครมเงียบลง เหลือเพียงบรรยากาศเคร่งขรึมน่าเกรงขาม!
“ทัพอี๋ตะวันออก คารวะท่านแม่ทัพ!”
“คารวะท่านแม่ทัพ!”
“คารวะท่านแม่ทัพ!”
“…”
เสียงแสดงความเคารพดังกึกก้องขึ้นราวกับคลื่นสึนามิ ตอนนี้นับตั้งแต่นายพลปีศาจไปจนถึงทหารปีศาจล้วนจำได้แล้วว่าบุคคลตรงหน้าคือใคร
ในตอนนั้นหลังจากชือโหยวตายในสนามรบ เผ่าจิ่วหลีก็พ่ายแพ้ แม่ทัพใหญ่หวังไฮ่นำหมายคำสั่งของจักรพรรดิเหลืองตามล่าสังหารทัพอี๋ตะวันออกที่เหลืออยู่ ทำลายร่าง ทำลายทวยเทพ และตั้งใจทำลายเทวาลัยให้สิ้นซาก!
ทัพอี๋ตะวันออกที่เหลือหนีไปในนรก หวังไฮ่นำกองทัพเข้าไปในนรก แต่กลับประสบน้ำท่วมมีทะเลแห่งความตายขวางกั้นไว้ หวังไฮ่อ่านคำสั่งของจักรพรรดิเหลืองในที่สาธารณะ ในช่วงปีนั้นจักรพรรดิเหลืองเป็นจักรพรรดิผู้ปกครองมนุษย์แล้ว ภูติผีและทวยเทพทั้งปวงไม่กล้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา แต่ส่วนลึกของทะเลแห่งความตายนี้กลับพ่นคำง่ายๆ ออกมาหนึ่งคำ ‘ไสหัวไป!’
หวังไฮ่ถอยทัพ
“รายงานท่านแม่ทัพ ฝ่ายข้าปฏิบัติตามคำสั่งของท่านแม่ทัพมาโดยตลอด เป็นเวลานับหลายปีแล้วที่ไม่ได้ก้าวออกจากสถานที่แห่งนี้!” หลังจากนายพลปีศาจรายงานเสร็จก็เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้ากระตือรือร้น มองโจวเจ๋อที่อยู่ด้านบนและพูดด้วยเสียงสั่นอย่างตื่นเต้น “บัดนี้ท่านแม่ทัพกลับมาแล้ว ฝ่ายข้ายินดีเป็นทัพหน้าของท่านแม่ทัพติดตามท่านแม่ทัพไปพิชิตนรกอีกครั้ง!”
“ยินดีเป็นทัพหน้าของท่านแม่ทัพ!”
“ยินดีเป็นทัพหน้าของท่านแม่ทัพ!”
“…” ทหารปีศาจเบื้องล่างตะโกนพร้อมกัน!
เมื่อพูดจบ จู่ๆ นายพลปีศาจก็หันกลับมามอง ‘หลานชาย’ ของตัวเองที่ยืนอยู่ด้านหลังหรือก็คือต้าฉางชิวพร้อมเอ่ยโดยตรง “นายพลคนสุดท้ายยินดีให้ท่านแม่ทัพตัดหัวเจ้าอัปลักษณ์นี่สังเวยธงนี้ก่อน!”
“…” ต้าฉางชิว
……………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล