ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 640

ตอนที่ 640 ลูกชายหรือลูกสาว

โจวเจ๋อคว้าต้นคอของอิงอิงด้วยมือเพียงข้างเดียว ขณะเดียวกันก็อ้าปากทำท่าเหมือนจะกัดลงไป!

อิงอิงเม้มปาก หลับตาลง สีหน้าที่แสดงออกไร้ความหวาดกลัว มีเพียงความสงบนิ่งเท่านั้น ความสงบนิ่งประเภทนี้บริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนและไม่มีความคิดอื่นใด สำหรับคำขอใดๆ ก็ตามของเถ้าแก่ของเธอ อิงอิงล้วนปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่มีส่วนลดใดๆ

เรื่องราวทุกอย่างพัฒนามาถึงจุดนี้รวดเร็วมากจนทำให้คนอื่นๆ ในที่เกิดเหตุต่างคาดไม่ถึงเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นสวี่ชิงหล่างและทนายอันในร้านหนังสือก็ไม่มีเวลาได้ตอบสนองเสียด้วยซ้ำ อิงอิงวู่วามมากเกินไปจริงๆ ไม่ให้เวลาพวกเขาได้คิดเลยสักนิด

เขี้ยวหยุดลงที่ซอกคอขาวผ่องของอิงอิง เพียงไล้เบาๆ ตรงขอบโดยไม่บาดโดนเนื้อผิว ดวงตาแดงฉานของโจวเจ๋อจ้องมองใบหน้าสวยตรงหน้าเขา ปลายจมูกได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างกายของเธอ

‘เถ้าแก่ ข้าจะออกแบบเตียงไม้ไผ่ก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าถึงตอนนั้นท่านจะเผาข้าแล้วหาไม้ไผ่ไม่เจอจะทำอย่างไรเจ้าคะ’

‘เถ้าแก่ จำนวนบ้านของข้าใกล้จะแซงหน้าแม่นางสวี่แล้ว แถมของข้ายังเป็นบ้านหรูขนาดใหญ่ทั้งนั้นนะเจ้าคะ!’

‘เถ้าแก่ หากท่านยังไม่อิ่มละก็ กินข้าเถิดเจ้าค่ะ!’

‘ขอโทษเจ้าค่ะ เถ้าแก่ ด้านล่างของข้าเป็นน้ำแข็ง’

‘เถ้าแก่ แงๆๆ!’

เสียงเหล่านี้ ภาพเหล่านี้เริ่มผุดขึ้นและก้องอยู่ในหัวของโจวเจ๋อไม่หยุด ยับยั้งการกระทำต่อไปของโจวเจ๋ออย่างกะทันหัน เถ้าแก่โจวผละจากอิงอิงที่ถูกตัวเองจับเอาไว้ จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างกุมศีรษะของตัวเองไว้แน่น ส่งเสียงร้องคำรามออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

“เถ้าแก่เจ้าคะ” อิงอิงร้อนรนเล็กน้อย เธอดูออกว่าตอนนี้เถ้าแก่ของเธอเจ็บปวดมาก

เวลานี้เองสวี่ชิงหล่างถึงได้ดึงสติกลับมา รีบจ้ำไปข้างหน้า เอื้อมมือไปคว้าอิงอิงและเตือนว่า “เขากำลังพยายามควบคุมตัวเอง อย่าเพิ่งไปกระตุ้นเขาอีก” ขณะที่พูด มียันต์แผ่นหนึ่งปรากฏขึ้นที่มือซ้ายของสวี่ชิงหล่าง ดาบเหรียญทองแดงก็โผล่ออกมาเช่นกัน เป็นการเตรียมพร้อมหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะหยุดโจวเจ๋อเอาไว้

แม้เขาจะไม่รู้ว่าวิชาเต๋าของตัวเองจะหยุดยั้งโจวเจ๋อได้หรือไม่ แต่เขายิ่งเข้าใจมากขึ้นว่าตอนนี้โจวเจ๋ออยู่ในสภาวะสติเลือนราง หากปล่อยให้โจวเจ๋อกินอิงอิงจริงๆ หลังจากโจวเจ๋อได้สติกลับมาแล้วจะเจ็บปวดและเสียใจมากขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของเพื่อนหรือพนักงานร้านหนังสือ สวี่ชิงหล่างล้วนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยืนขึ้นออกมาหยุดยั้ง

มือกระดูกข้างซ้ายของทนายอันโผล่ออกมา แต่เขาไม่กล้าใช้ความสามารถด้านการสร้างภาพลวงตาที่ตัวเองเชี่ยวชาญทำอะไรกับเถ้าแก่ของเขา เขากลัวว่าจะได้ผลตรงกันข้ามกับที่ต้องการ หากกระตุ้นจนเถ้าแก่หงุดหงิดจริงๆ อาจจะไม่ใช่แค่อิงอิง แม้แต่ทุกคนในที่เกิดเหตุล้วนตกอยู่ในอันตราย

แม้จะบอกว่าเฝิงซื่อเอ๋อร์เพิ่งจับแส้หนังฟาดจนมู่เฉิงเอินผีดิบตัวนั้นหมอบลงไปหมาดๆ แต่ทนายอันไม่คิดว่าเขาจะสามารถใช้วิธีแบบเดียวกันเอาชนะเถ้าแก่ของเขาได้อย่างง่ายดาย

มีเพียงเฝิงซื่อเอ๋อร์เท่านั้นที่สงบที่สุดในบรรดาพวกเขา และยืนอยู่ตรงนั้นราวกับคนนอก

“โฮก!”

“โฮก!”

“โฮก!”

โจวเจ๋อคุกเข่าลงบนพื้น เงยศีรษะขึ้น กำมือทั้งสองข้างแน่นทุบพื้นไม่หยุด กระแทกจนก้อนกรวดดินแข็งเบื้องล่างเป็นหลุมลึก อักขระบนร่างของเขาเริ่มค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ ความดุร้ายบนใบหน้าก็ค่อยๆ อ่อนลง แม้แต่สีแดงฉานในดวงตาก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ

“ฮู่ว…” ทนายอันและสวี่ชิงหล่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก นี่คืออยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว

หลังจากเขี้ยวแสนดุร้ายทั้งสองซี่ตรงมุมปากของโจวเจ๋อหดหายไปเช่นกัน ร่างกายของโจวเจ๋อสั่นไหวไปพักหนึ่ง ฝืนทรงตัวรักษาสมดุลไว้อย่างหนักถึงได้ไม่ล้มลง แต่ยังคงเอามือกุมศีรษะของตัวเองเอาไว้ ปวดหัวแทบระเบิด!

เป็นเวลานานพอสมควรแล้วที่ไม่มีความรู้สึกแบบนี้ มันคล้ายกับอาการหลังจากเมาค้าง โชคดีที่ไม่ได้มาพร้อมกับความรู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้า กลับกันทั้งร่างกายเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและพลังที่ล้นเหลือ ราวกับว่าทุกเซลล์กระตุ้นให้ตัวเองระบาย ระบายออกไป ระบายออกไป!

โจวเจ๋อกัดฟัน ใช้มือยันพื้นลุกขึ้นยืนแล้วค่อยกวาดสายตามองผู้คนรอบตัวเขา เมื่อเห็นว่าพวกเขามองตัวเองด้วยความประหม่า โจวเจ๋อจึงถามอย่างงงงวยเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น”

สวี่ชิงหล่างใช้ยันต์เผาร่างครึ่งศพทั้งหกในบ้านดิน ถือว่าเป็นการยุติความเจ็บปวดของพวกเขา สุดท้ายเถ้าแก่โจวไม่ได้กระตุ้นให้พวกเขากลายเป็นซากศพเดินได้แล้วปล่อยให้พวกเขาเพลิดเพลินเชยชมไปกับ ‘ดอกไม้ไฟ’ สวยงามตามธรรมชาติ

มู่เฉิงเอินตายไปแล้ว ถูกโจวเจ๋อดูดเป็นอาหารจนตาย ในเวลานี้จะทำอะไรกับญาติของเขาก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียว ถึงอย่างไรแม้แต่จิตวิญญาณของมู่เฉินเอินก็สลายไปแล้ว อยากให้เขา ‘ตายไปพร้อมกับความไม่เป็นธรรม’ หรือ ‘ตายตาไม่หลับ’ ก็ขาดดินที่ใช้งานได้จริงแล้ว

โจวเจ๋อคิดว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร แต่ก็ไม่ใช่คนซาดิสม์โรคจิตเหมือนกัน

โจวเจ๋อส่งสัญญาณให้ทนายอันปลดภาพวาดนั้นในบ้านดินลงมาและเก็บไว้อย่างดี ตั้งใจจะนำกลับไปร้านหนังสือด้วย ถึงอย่างไรในนั้นก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับอิ๋งโกว จริงๆ แล้ว มูลค่าของภาพวาดนี้ไม่มากมายนัก และไม่มีความลึกลับซับซ้อนอื่นใด บางทีจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเก็บมันเอาไว้ ก็เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอิ๋งโกวที่จะฟื้นขึ้นมาในอนาคต

‘คุณเคยถูกวางแผนเล่นงาน!’

‘ไม่มี ออกไป!’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล