ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 654

ตอนที่ 654 โอกาสปรากฏ

ปลายแหลมของปากกา โผล่หัวเล็กน้อยจากชั้นผิวหนังที่ไหม้เกรียมตรงหน้าอก แต่ด้ามปากกาส่วนใหญ่ยังซ่อนอยู่ภายในร่างกาย ทนายอันที่เดิมทีมีสีหน้าสิ้นหวังกลับเปลี่ยนไปเหมือนเจอโอกาสรอดตาย สำหรับใครหลายคนการมีชีวิตอยู่อย่างอยู่ดีกินดี ไม่ถือว่ามีชีวิตอยู่ เขาอยากเหนือกว่าคนอื่น เขาอยากครอบครองอำนาจ ถ้าหากไม่มีสิ่งเหล่านี้ มีชีวิตอย่างคนร่ำรวยธรรมดา นับว่าเป็นโทษทรมานอย่างหนึ่ง!

ชีวิตของเถ้าแก่ สำหรับทนายอันแล้ว ก็คืออนาคตของเขา!

อิงอิงกับสวี่ชิงหล่างมองอยู่ข้างๆ ทนายอันยื่นมือเพื่อบอกเป็นนัยให้พวกเขาอย่าเข้ามาใกล้ แล้วพูดเตือนว่า “อย่าแตะต้องมัน อย่าไปแตะมันนะ นี่คือ…นี่คือ…นี่คือโอกาสรอดชีวิตของเถ้าแก่ในตอนนี้” ตำแหน่งของปากกาอยู่ตรงหัวใจของร่างกายนี้พอดี ปากกาด้ามนี้กำลังปกป้องเส้นชีพจรของร่างกายอยู่!

และมีความเป็นไปได้สูงที่แม้แต่วิญญาณของเถ้าแก่ เวลานี้ก็อาจจะอยู่ในปากกาด้ามนี้!

เชื้อไฟยังอยู่ ถึงแม้ตอนนี้ร่างกายของเถ้าแก่จะอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ อีกทั้งตอนที่ฟ้าผ่าลงมา เถ้าแก่กับพระขี้เรื้อนก็อยู่ใกล้กันมาก ถึงกระนั้นก็ยังมีความเป็นไปได้ที่วิญญาณจะไม่ได้รับบาดเจ็บไปด้วย แต่ต่อให้จะแย่มากแค่ไหน ระหว่างศูนย์จุดศูนย์ศูนย์หนึ่งกับศูนย์ถ้วน ก็ยังมีความแตกต่างโดยพื้นฐาน!

“พักผ่อนก่อน ทางเถ้าแก่ อิงอิงคุณเป็นคนดูแล ไม่ พวกเราต้องเปลี่ยนกะ ทุกคนต่างก็บาดเจ็บ รีบทำเวลาฟื้นฟูตัวเองให้เร็วที่สุด ไม่ว่ายังไงที่นี่ก็คือข้างนอก ไม่ใช่ทงเฉิง” ทนายอันพูดกับอิงอิง

อิงอิงได้ยินแล้วจึงพยักหน้า เห็นด้วย เธอไม่โง่และไม่งี่เง่า ดังนั้นจึงไม่เหมือนนางเอกในละครน้ำเน่าที่ร้องตะโกนว่า ‘ไม่ ต่อให้ฉันตายก็จะอยู่ข้างเขา’ อะไรพวกนี้

เวลาหนึ่งวันผ่านไป ทุกคนหมุนเวียนสลับกันดูแล ระหว่างนั้นสวี่ชิงหล่างได้เดินไปยังจุดที่ฟ้าผ่า หยิบขวดโหลแก้วมาใส่อัฐิของพระขี้เรื้อนแล้วนำกลับมา ทนายอันอาบน้ำเสร็จเดินออกมา เห็นขวดแก้ววางอยู่บนโต๊ะน้ำชา จึงพูดเนือยๆ ว่า “ผมคิดว่าถูกลมพัดปลิวหมดแล้ว”

“เกือบแล้ว ตอนที่ผมไปดู เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดด่าอยู่ตรงนั้นว่าใครไร้จิตสาธารณะขนาดนี้ ถ้าไปช้าอีกหนึ่งก้าวอาจจะถูกเก็บไปทิ้งในรถขยะแล้ว”

“เก็บไว้ทำไม” ทนายอันพลันนึกถึงเมนูอาหารได้อย่างหนึ่ง ชื่อว่า ‘ข้าวคลุกอัฐิ’ แล้วจึงถามด้วยความกังวลทันที“คงไม่ได้เอามาทำกับข้าวใช่ไหม”

สวี่ชิงหล่างส่ายหน้า ชี้ไปที่อัฐิที่อยู่ในขวดแก้วพลางตอบว่า “แค่รู้สึกว่าสวยดี”

“เหอะๆ” ทนายอันเดินไปที่ห้องนอน หลังจากเปลี่ยนกะไปหนึ่งรอบแล้ว ก็ถึงตาของอิงอิงคอยดูแลอยู่ข้างเตียงอีกครั้ง เพียงแต่เถ้าแก่ยังนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่มีสัญญาณของการฟื้นคืนแต่อย่างใด แม้แต่ปากกาพิฆาตก็ไร้ซึ่งความเคลื่อนไหว ทุกอย่างเงียบกริบ เมื่อมองดูไปสักพัก ทนายอันจึงเดินกลับมาที่ห้องรับแขกแล้วนั่งลงข้างๆ สวี่ชิงหล่าง จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงขอคำปรึกษาว่า “ผมส่งข้อความไปที่ร้านหนังสือแล้ว ผมสั่งให้ผีดิบน้อยกับหญิงสาวตัวดำรีบจองตั๋วเครื่องบินมาที่นี่ คาดว่าน่าจะถึงก่อนเที่ยงคืน”

สวี่ชิงหล่างตกตะลึงเล็กน้อย ผีดิบน้อยมายังพอเข้าใจได้ ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เถ้าแก่ก็นอนอยู่ตรงนั้น ไร้ซึ่งพลังชีวิต พวกเขาทั้งสามคน ดูท่าทางเหมือนไม่เป็นอะไร แต่อาการบาดเจ็บภายในไม่สามารถหายได้ภายในหนึ่งวันหนึ่งคืน ถ้าเด็กผู้ชายอยู่ที่นี่ ยังเป็นอีกกำลังหนึ่งที่ช่วยปกป้องได้ แต่ผู้หญิงตัวดำคนนั้น สวี่ชิงหล่างนึกถึงเดดพูลที่อยู่ในร้านทันที แล้วจึงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “คุณอยากให้เธอช่วยปลูกเถ้าแก่ลงไป”

ทนายอันพ่นควันบุหรี่ออกมา เขี่ยบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะน้ำชาแล้วเอ่ยว่า “ถ้าหากจำเป็น ก็ต้องลองปลูกดู!”

สวี่ชิงหล่างเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย มองโจวเจ๋อที่นอนอยู่บนเตียงในห้องนอนหนึ่งที แล้วกดเสียงพูดว่า “คุณเคยคิดไหม หลังจากเถ้าแก่ฟื้นขึ้นมา พบว่าตัวเองถูกปลูกอยู่ในดิน มีใบไม้สีเขียวขจีงอกเต็มศีรษะเหมือนกับเดดพูลในร้านหนังสือของพวกเรา จะมีผลเสียตามมาภายหลังยังไง”

“แค่ฟื้นขึ้นมาก็พอ อย่างมากผมก็แค่หยิบไม้กวาดไปกวาดถนน”

สวี่ชิงหล่างจึงได้แต่พูดแซว จากนั้นหยิบขวดโหลแก้วในมือขึ้นมาเล่นอย่างเงียบๆ พลางใช้นิ้วดีดไปที่ขวดแก้วสองสามทีเกิดเสียงดัง ‘ติ๊งๆๆ’

“โอเค ผมจะไปซื้อเบียร์จากข้างนอกหน่อย คุณเล่นอัฐิต่อไปเถอะ” ทนายอันยื่นมือตบไหล่ของสวี่ชิงหล่าง แล้วลุกขึ้นเดินออกจากประตูห้อง นี่คือตึกอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แต่ชั้นหนึ่งไม่มีคนอาศัยอยู่ และไม่รู้ว่าเจ้าของเดิมไปไหน

เมื่อเดินมาถึงร้านสะดวกซื้อที่อยู่ข้างนอก ทนายอันซื้อเบียร์หนึ่งโหลกับขนมขบเคี้ยวพอประมาณ ตอนที่เดินกลับเขาครุ่นคิดไปพลาง แล้วแวะนั่งที่เก้าอี้ตัวยาวข้างสวนดอกไม้

‘ปึ้ก!’ เขาเปิดกระป๋องเบียร์แล้วดื่มอึกใหญ่ จากนั้นจึงถอนหายใจยาว ยื่นมือจับผมเส้นผมของตัวเอง ทนายอันเม้มปาก หรือว่าตัวเองทำผิด มายูนนานเป็นความผิดอย่างหนึ่ง มายูนนานแค่หนึ่งสัปดาห์กว่าๆ กลับเกิดเรื่องราวมากมายติดต่อกัน และสาเหตุหลักของทุกอย่าง ล้วนมาจากการคะยั้นคะยอของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเถ้าแก่จะออกจากทงเฉิงได้อย่างไร

ทนายอันเดาะปากเสียงดัง หัวเราะอย่างขมขื่นหนึ่งที แล้วดื่มอีกหนึ่งคำโต เมื่อดื่มหมดหนึ่งกระป๋องแล้ว ความเศร้าใจและความหดหู่ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ก็ควรจะสิ้นสุดลง ตอนที่ทนายอันถือถุงพลาสติกแล้วลุกขึ้น เตรียมจะข้ามถนน กลับมองเห็นรถพยาบาลสองสามคันขับผ่านถนนที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง มีเสียงไซเรนอยู่บนนั้น ดังสนั่นชัดเจน

หืม เกิดอุบัติเหตุเหรอ ทนายอันเดิมทีไม่อยากจะสนใจเท่าไร แต่ทันใดนั้นมีรถพยาบาลคันสุดท้ายมาจอดตรงหน้าไม่ไกลนัก มีเสียงร้องโวยวายดังมาจากในนั้น ประตูรถถูกเปิดออก มีผู้ชายในชุดทำงานสีดำพุ่งออกมาจากข้างในบนแขนของผู้ชายถูกพันด้วยสายน้ำเกลืออยู่

“อาๆๆ!!!” ผู้ชายร้องเสียงดัง แล้วกระโดดลงคูที่อยู่ข้างถนนโดยตรง ตรงนั้นมีน้ำขังอยู่ ผู้ชายแนบใบหน้าลงไป แล้วใช้ลิ้นเลียอย่างบ้าคลั่ง

จากนั้นพยาบาลและพวกผู้ช่วยพยาบาลจึงรีบไล่ตามทันที ทุกคนช่วยกันดึง แต่ผู้ชายกลับไม่ขยับ เหมือนกับสุนัขบ้าแผดเสียงคำรามอยู่อย่างนั้น

ตอนแรกทนายอันรู้สึกว่านี่เป็นโรคประสาทหรือไม่ก็เป็นโรคพิษสุนัขบ้า แต่เมื่อพิจารณามองอย่างละเอียด พบว่าไม่เหมือน เวลานี้ผู้ชายคนนั้นพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของผู้ช่วยพยาบาลสองสามคน พยายามใช้มือและเท้าตะเกียกตะกายวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น วิ่งไปยังทิศทางของทนายอัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล