ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 663

สรุปบท ตอนที่ 663 หนึ่งคนหนึ่งสัตว์!: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

อ่านสรุป ตอนที่ 663 หนึ่งคนหนึ่งสัตว์! จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 663 หนึ่งคนหนึ่งสัตว์! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 663 หนึ่งคนหนึ่งสัตว์!

ผู้ชายบิดขี้เกียจอย่างเนือยๆ “ช่างเถอะ ถ้าหากเจ้ามีชีวิตรอดออกไป ก็ช่วยตามหาข้าที ถึงแม้ข้าจะรู้สึกว่าเจ้าอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่ เอาละ ข้าควรจะไปแล้ว จะว่าไปแล้ว เป็นสิ่งใดกันแน่ที่กระตุ้นตราประทับจิตของข้าขึ้นมา”

โจวเจ๋อไม่ตอบเขา การพูดคุยเรื่องในปัจจุบันกับคนโบราณที่ไม่รู้ว่ามีอายุเท่าใดนั้น ไม่มีความหมายอะไร และอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะพูดจริงจังอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนในดวงตาของอีกฝ่าย มองว่าโจวเจ๋อใกล้จะตายแล้ว ทำให้โจวเจ๋อสงสัยอยู่บ้างว่าด้านนอกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ผู้ชายก็ไม่ได้ถามต่อ นั่งลงยองๆ วางสองมือไปข้างหน้า ร่างกายมองไปรอบๆ อย่างเงียบเหงา เวลานี้ในดวงตาของเขา โจวเจ๋อมองเห็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ความคิดถึง’ เพราะที่นี่เป็นบ้าน อ้อไม่ใช่ เป็นคอกของสุนัขเฝ้าบ้าน

“ฮ่าๆๆ ไปแล้วนะ หวังว่าข้ายังไม่ตาย” พูดจบ ผู้ชายที่นั่งยองๆ อยู่บนพื้นก็หันหน้ามองโจวเจ๋อหนึ่งทีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง แล้วพูดเสียงดังว่า “หวังว่าเจ้าจะไม่ตายเช่นกัน”

ร่างของผู้ชายเริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่รีรอเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ใช่สิ่งที่มีตัวตนอยู่ที่นี่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะมู่เฉิงเอิน โจวเจ๋อคงไม่รู้ว่าเขามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร และไม่เคยคิดว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่ปี อิ๋งโกวที่ไม่อาจแสดงตัวตนเคยถูกไอ้หนุ่มคนหนึ่งขโมยพลังสะสมไปถึงสามพันปี

ตอนที่ร่างของผู้ชายหายไปแล้ว โจวเจ๋อเงยหน้าเล็กน้อย พลางหลับตา เขารู้ว่าตัวเองควรจะตื่นได้แล้ว ไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งไม่รู้ว่าตัวเองเผลอเข้ามาอยู่ในความทรงจำแบบนี้นานเท่าใดแล้ว แต่ถูกฟ้าผ่าแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะมีโอกาส ‘ลืมตา’ ได้อีกครั้ง ความรู้สึกประสบความสำเร็จนี้ ไม่ว่าจะเป็นในโลกยมทูตหรือในโลกผีดิบ นับได้ว่าเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจใช่ไหมล่ะ

แต่โจวเจ๋อหวังให้ครั้งนี้เป็นเพียงครั้งเดียว เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกครั้ง

‘ปุดๆ…ปุดๆ…ปุดๆ…’ รู้สึกเหนียวจัง เหมือนอยู่ในน้ำ แต่ก็เหมือนไม่อยู่ในน้ำ

ร่างของโจวเจ๋อ กำลังลอยกระเพื่อมเล็กน้อยอยู่ในสภาพแวดล้อมของกาวเหนียวสีเขียว ประหนึ่งว่าเป็นของสะสมที่ถูกผนึกอยู่ในอำพัน แต่ ‘อำพัน’ สีเขียวที่อยู่โดยรอบเหล่านี้ ยังไม่สามารถกลับมาอยู่ในสภาพที่แข็งแรงมั่นคงได้อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นพุดดิ้งเล็กน้อย

และบนตัวของโจวเจ๋อ มีเถาวัลย์แต่ละเส้นแผ่ขยายไปรอบด้าน โจวเจ๋อในเวลานี้เหมือนรากต้นไม้ใหญ่อันเก่าแก่พวกเถาวัลย์ที่แผ่ขยายออกไปจากบนตัวของเขา เหมือนขยายใหญ่ไปรอบบริเวณอย่างบ้าระห่ำ จริงๆ แล้วสาเหตุที่สิ่งสีเขียวในตอนนี้ไม่สามารถแข็งตัวได้ เป็นเพราะโจวเจ๋อกำลังดูดซับแก่นแท้ของมันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงยากที่จะแข็งตัว

จิตสำนึกเริ่มกลับเข้าสู่ร่างของตัวเอง วินาทีนั้นโจวเจ๋อไม่มีความยินดีเหมือน ‘รอดชีวิต’ ความคิดในหัวเพียงอย่างเดียวคือ จริงๆ เลย เจ็บชะมัด! นี่คือความเจ็บปวดของจริง ทั่วทั้งร่างไม่มีผิวหนังชิ้นดีสักที่ แขนซ้ายก็หัก มือขวาเหลือเพียงกระดูกที่ไหม้ดำ ส่วนที่เหลือมีแต่แผลเต็มไปหมด

ก่อนหน้านั้นอยู่ในช่วงเหมือนคนป่วยใกล้ตาย กลับไม่รู้สึกอะไร หลังจากฟื้นมาแล้ว สิ่งที่คุณสมควรได้รับกลับประเดประดังเข้ามา

โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองเป็นรถเก่าคันหนึ่งที่โครงกำลังพังทลาย เหมือนว่ามันไม่ใช่ร่างกาย เทียบไม่ได้แม้แต่หุ่นกระบอก!

เจ็บๆๆ เหมือนมีไฟกองหนึ่งกำลังแผดเผาทุกเซลล์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากไม่ใช่เพราะโจวเจ๋อมีนิสัยที่อดทน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นลมสลบไปอีกครั้ง ข้างหูได้ยินเสียงสะท้อนไปมาของของเหลวที่กำลังไหลไม่หยุด โจวเจ๋อพยายามลืมตา แต่กลับมองเห็นสีเขียวเลอะเทอะไปทั่ว เหมือนความรู้สึกเวลาเงยหน้ามองพระอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นสายตาหรือว่าความรู้สึก ล้วนถูกกดอัดอยู่ในที่แห่งนี้จนถึงขีดสุด คุณไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน คุณกระทั่งไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ด้วยซ้ำ!

พอลองยื่นมือออกไป ตามหลักแล้วตอนนี้โจวเจ๋อเหลือมือเพียงข้างเดียว แต่ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏ ข้อมูลของมือจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนส่งผ่านมา ทำเอาโจวเจ๋องุนงงไปขณะหนึ่ง เขารู้สึกว่าตัวเองมีมือหลายมือ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรเขาไม่ใช่ปลาหมึกเสียหน่อย และต่อให้เป็นปลาหมึกก็ไม่น่าจะมีหนวดเยอะขนาดนี้

เถาวัลย์แต่ละเส้นดูเหมือนจะเป็นเพราะการตื่นขึ้นของเจ้าของบ้านจึงยิ่งตื่นเต้นมากกว่าเดิม เวลาที่คนเราสลบไปสมรรถภาพทางร่างกายทั้งหมดจะเข้าสู่สภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น ตัวอย่างที่สุดโต่งที่สุดคือการจำศีลของหมี หลังจากตื่นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายหรือจิตใจเริ่มมีความต้องการมากขึ้น กระตุ้นความคิดของคนให้เป็นฝ่ายรุกเพื่อรับ เพื่อขอ และแสวงหา!

เถาวัลย์เหล่านี้ได้รับการกระตุ้น ถึงขั้นสามารถพูดได้ว่าได้รับ ‘คำสั่ง’ เริ่มเป็นฝ่ายรุกเข้าไปดูดซับอย่างบ้าคลั่งมากกว่าก่อนหน้านี้

โจวเจ๋อยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ตัวเองถึงมี ‘มือ’ มากมาย แต่เขาแน่ใจว่าสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของ ‘ความสุข’ อย่างหนึ่ง ความรู้สึกเช่นนี้ เหมือนคนที่เป็นโรคกินเยอะเกินไปกำลังนั่งกินอยู่ในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์อย่างมูมมาม เหมือนกร็องเดต์ที่กำลังนำเงินในโกดังเก็บเงินยัดใส่กระเป๋าของตัวเองไม่หยุด ซึ่งเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมาก ถึงแม้เวลานี้เขาจะไม่แน่ใจ และไม่สามารถรับรู้ถึงรายละเอียดที่อยู่รอบตัว แต่ขั้นตอนเหล่านี้ น่าจะทำให้คนพอใจและหลงใหลได้มากพอ

ทว่าเถ้าแก่โจวกลับพบความผิดปกติอย่างกะทันหัน ทั้งๆ ที่ฉันหยิบเยอะขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ฉันกลืนเยอะขนาดนี้ ทั้งๆที่มีพิษผีดิบที่นับว่าเป็นยาบำรุงชั้นดีของผีดิบ ซึ่งเกือบจะเข้าใกล้บ่อเกิดของพิษผีดิบแล้ว แต่ทำไมตัวฉันไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด หลายคนเมื่อเจออาหารรสเลิศมากมายจนลายตาล้วนเคยฝันว่าตัวเองสามารถครอบครองกระเพาะที่ไม่มีวันเต็มได้ไหม ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่สวยงามอย่างหนึ่ง แต่เงื่อนไขคือ ตอนนี้โจวเจ๋อ ‘หิว’ หิวจนทนไม่ไหวแล้ว ทั้งๆ ที่กำลังกินอยู่แท้ๆ ทั้งๆ ที่ต่อมรับรสสามารถรับรสชาติอาหารที่แสนอร่อยได้ แต่คุณกลับกินไม่อิ่ม และรู้สึกหิวเหมือนเดิม!

“โอ๊ยแม่งเอ๊ย ทำผมเจ็บไปหมด ดูท่าแผลของผมจะติดเชื้อแล้ว” ทนายอันมองแขนที่ขาดของตัวเองอย่างจนใจ

สวี่ชิงหล่างหัวเราะ จริงๆ แล้วเขาก็เจ็บเหมือนกัน การเดินทางมายูนนานครั้งนี้ เจอเรื่องราวมากมาย เกินกว่าที่จะจินตนาการได้อย่างสิ้นเชิง

“พวกเราลองก่อนหนึ่งครั้ง มุดเข้าไปข้างในหน่อย ดูซิว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ไหม” สวี่ชิงหล่างกล่าว

ทนายอันพยักหน้าเห็นด้วย เขาไม่กล้าโยนระเบิดมั่วซั่ว ถ้าหากตัวเองทำให้เถ้าแก่ระเบิดขึ้นมาจริงๆ เช่นนั้นคงสนุกน่าดู

ทนายอันอยู่ข้างหน้า สวี่ชิงหล่างอยู่ข้างหลัง ทั้งสองคนมุดเข้าไปในถ้ำอย่างระมัดระวัง

อีกด้านหนึ่งของถ้ำถูกปิดทางด้วยของสีเขียว แต่หลังจากที่เข้าใกล้ ทนายอันกลับประหลาดใจเมื่อพบว่า สีเขียวที่อยู่ตรงหน้าคล้ายกับคลื่นน้ำกระเพื่อมเล็กน้อย ถึงแม้จะอยู่ในสภาวะที่แข็งตัวอยู่บ้าง แต่ไม่ต่างอะไรกับเยลลี ระดับในการมองเห็นมีความชัดแจ๋ว

ทนายอันไม่กล้ายื่นมือของตัวเองเข้าไป แต่จัดองศาของร่างกายตัวเองแล้วเริ่มสังเกตดูด้านใน ตอนที่เขาเอียงตัวจนเกือบจะลงไปนอนแล้วมองเฉียงขึ้นไปข้างบน เขากลับตกตะลึงไปทั้งตัว

เถ้าแก่ ยังไม่ตาย! เขากำลังลอยอยู่ตรงนั้น! ทว่าฉากที่ทำให้คนตกใจไม่ใช่อันนี้ แต่เป็นทนายอันเห็นสัตว์มีขนปุกปุยคล้ายสลอธขนาดไม่ใหญ่มากตัวหนึ่ง เวลานี้มันกำลังนอนหมอบอยู่บนท้องของเถ้าแก่ หนึ่งคนหนึ่งสัตว์ เหมือนกำลังงีบหลับอยู่ด้วยกัน และดูกลมกลืนกันเป็นอย่างมาก!

……………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล