ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 732

ตอนที่ 732 จ้องเขม็ง!

เมื่อกลับถึงหอพักตำรวจก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว

อันที่จริงสภาพหอพักนับว่าไม่เลวทีเดียว แม้ว่ายังมีตำรวจหนุ่มที่มาใหม่บ่นบ้างเป็นครั้งคราวก็ตาม แต่เหล่าจางที่เคยผ่านมาแล้วรู้สึกค่อนข้างพอใจจริงๆ แม้สภาพของหอพักจะคล้ายกับโรงแรม ‘เซเว่นเดย์ส[1]’ เครื่องเฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย แต่อย่างน้อยในฤดูหนาวก็ยังสามารถอาบน้ำอุ่นได้ แล้วยังต้องการอะไรมากมายอีกล่ะ

ถ้าเทียบกับห้องรูหนูโทรมๆ ในตอนนั้นที่จะอาบน้ำทีทุกคนต้องเบียดเสียดกันในห้องอาบน้ำ ตอนนี้มันไม่เลวแล้วจริงๆ

หลังอาบน้ำเสร็จ เหล่าจางนั่งลงหน้าโต๊ะเล็กๆ สูบบุหรี่สามมวนติดๆ กันหน้าที่เขี่ยบุหรี่ ก่อนจะถอดเสื้อคลุมออกอย่างพอใจแล้วเข้าห้องนอน

ผ้านวมหนาๆ สองชั้นเพียงพอแล้วสำหรับการรับมือในฤดูหนาวอย่างนี้ สำหรับผ้าห่มไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศอะไรนั้น เขาไม่ชอบใช้มัน ชาติก่อนจนถึงช่วงวัยกลางคนเขาก็ไม่ใช้มัน แถมร่างกายในชาตินี้ก็เพิ่งจะสามสิบต้นๆ เขายิ่งไม่ต้องใช้มัน

เอนกายนอนลงแล้วหลับตา ความเหนื่อยล้าเริ่มมาเยือนอย่างช้าๆ

ในโลกนี้มีคนบางคนเป็นโรคนอนไม่หลับจริงๆ แต่คนส่วนใหญ่ที่บอกว่าตัวเองเป็นโรคนอนไม่หลับ อันที่จริงก็แค่ตอนกลางวันใช้ชีวิตสบายเกินไปเท่านั้นเอง หลังจากเหนื่อยล้าทั้งกายและใจแล้วจริงๆ แค่ทิ้งตัวลงบนเตียงไม่ถึงหนึ่งนาทีก็เริ่มนอนกรนแล้วด้วยซ้ำ

อาการนอนไม่หลับของคนส่วนใหญ่ เป็นเพราะช่วงกลางวันคุณเหนื่อยไม่พอต่างหาก…

เหล่าจางกรนเสียงดังราวกับฟ้าร้อง บางครั้งก็มีติดขัดนิดหน่อย แล้วเสียงกรนก็ดังต่อไปเหมือนเดิม

เงาสีดำปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างช้าๆ เป็น ‘แขก’ ที่เหล่าจางเหยียบติดใต้ฝ่าเท้าพากลับบ้านมาด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ เวลานี้พอเจ้าของบ้านหลับสนิท ในที่สุดร่างของแขกก็ปรากฏตัวขึ้น

เงาดำเริ่มขึ้นเตียงและปกคลุมอยู่บนผ้าห่มบนตัวของเหล่าจาง มันค่อยๆ ลุกขึ้นเผยให้เห็นรูปร่างคล้ายภาพเงา เขาเดียวบนหัวนั้นดูดุร้ายเล็กน้อย

เหล่าจางยังนอนหลับสนิทต่อไป วันนี้เขาเหนื่อยสายตัวแทบขาด ไม่รู้ว่ามีสัตว์ประหลาดเขาเดียวน่าสะพรึงกลัวคืบคลานเข้ามา ทั้งยังขึ้นมาบนเตียงนอนของตัวเองแล้วจริงๆ เงาดำเริ่มดำดิ่งลงช้าๆ และหลอมรวมเข้าสู่ร่างกายของเหล่าจางอย่างแผ่วเบา อย่างเชื่องช้า นุ่มนวลมาก ปราศจากความหยาบโลนใดๆ

เหล่าจางรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองบวมเป่งออกเล็กน้อย คล้ายกับถูกโยนลงในถังพลาสติกใส่ฟอร์มาลิน จากนั้นเครื่องซักผ้าก็ถูกเปิดและเริ่มขยี้ซักตัวเขา เขาอยากลืมตาแต่กลับลืมตาไม่ขึ้น ดวงตาปิดแน่น ราวกับทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยใยแมงมุมหนาหลายชั้น

ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน แสงเริ่มปรากฏขึ้นตรงหน้า และความอึดอัดทั่วร่างกายก็เริ่มหายไป เหล่าจางพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่สุดซอยเก่าๆ ข้างหน้าเขามีเด็กชายร่างกายเปื้อนเลือดทั่วตัวนั่งยองๆ อยู่ เด็กชายมีแผลอยู่ที่แขน บนใบหน้าก็มีแผลเหวอะอยู่หลายจุด ข้างๆ ยังมีเด็กน้อยหลายคนต่างพากันก็มองดูเขาอย่างระมัดระวัง

เสื้อผ้าบนตัวของพวกเด็กๆ เก่าและโทรมมาก บางคนก็ทั้งเก่าและขาดวิ่น อย่างน้อยเด็กในสมัยนี้ต่อให้ไม่มีเสื้อผ้าดีๆ ให้สวมใส่ แต่ก็ไม่สวมใส่ชุดสไตล์นี้แล้ว

เหล่าจางยืนอยู่ริมทางคล้ายกับผู้ชมยืนดูอยู่อย่างนั้น สิ่งที่เขาไม่สังเกตเห็นก็คือ มีเงาเขาเดียวสีดำคอยเฝ้าดูอยู่ข้างหลังเขาด้วย

เหล่าจางจำได้ว่า ฉากนี้น่าจะเป็นฉากหลังจากที่ตัวเองต่อยตีกับอันธพาลแถวบ้านที่ดักรีดไถเพื่อนร่วมชั้นของตัวเองเมื่อตอนเด็กๆ อันธพาลคนนั้นถูกต่อยจนหนีเตลิดไปแล้ว พูดให้ถูกก็คือ หลังจากที่เขาใช้มีดเล่มเล็กกรีดตัวเอง เมื่อเห็นร่างของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดยังคงพุ่งไปหามัน มันจึงตกใจหนีเตลิดไปแล้ว

เขาในตอนนั้นไม่กลัวอะไรเลยจริงๆ สินะ ทำตัวเหมือนคนโง่เปี๊ยบเลย ตอนนั้นมันวุ่นวายกว่าตอนนี้มาก คิดไม่ถึงว่าตัวเองโง่ขนาดนี้ยังสามารถอยู่รอดและเติบโตขึ้นมาได้ นับว่าโชคดีมาก

หลังจากกลับไป แม่บังเกิดเกล้าของเขาก็เอาแต่ต่อว่าและดุด่าเขายกใหญ่ แล้วพาเขาไปรักษาบาดแผลที่สถานีพยาบาล พอกลับมาแล้ว เห็นเขามีสภาพแบบนั้น พ่อที่เป็นตำรวจกลับไม่ดุด่าเขาซึ่งมันหาได้ยากมาก กระทั่งยังลูบหัวของเขาแถมเอ่ยประโยคให้กำลังใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกต่างหาก

นี่มันเป็นความฝันใช่ไหม เหล่าจางคิดในใจ

เขาไม่ได้มีประสบการณ์ถูกโยนเข้าไปในภาพลวงตาตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเหมือนเถ้าแก่โจวแบบนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้มีสัมผัสเฉียบไวต่อสิ่งเหล่านี้

เหล่าจางอยากเดินไปหาเด็กคนนั้น เขาไม่ได้มีความคิดอื่นใด มีเพียงความอยากรู้อยากเห็น อยากเห็นหน้าตาของเขาตอนเด็กอีกครั้ง เพียงแต่ว่าเพิ่งจะเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว ภาพรอบๆ ทิศก็หายวับไปกับตา และแทนที่ด้วยผนังสีขาวสะอาด เหล่าจางหันหน้าหมุนตัวกลับมา สิ่งที่มองเห็นคือกลุ่มวัยรุ่นหน้าใสในชุดเครื่องแบบตำรวจ พวกเขายืนตัวตรง ใบหน้าคงความเป็นเด็กที่ยังจางหายไปไม่หมด ตอนนี้แต่ละคนมีสีหน้าจริงจัง รูปร่างอ่อนเยาว์ เต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉง!

ตำรวจอาวุโสคนหนึ่งเดินไปบนแท่นเวทีด้านหน้า มีตราสัญลักษณ์ประจำชาติและธงชาติแขวนอยู่บนผนังด้านหลังเขา ดูเหมือนว่าสุขภาพของตำรวจอาวุโสจะไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อเขากำหมัดและยกกำปั้นขึ้น ท่าทางทั้งหมดของเขาเปลี่ยนไปกะทันหัน

“กระผมขอสาบาน!”

ในสนามนั้น ตำรวจหนุ่มทุกคนกำหมัดแน่นและยกมือขึ้นพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน “กระผมขอสาบาน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล