ตอนที่ 765 รุ่นที่สี่ผู้กล้าแกร่ง! – ตอนที่ต้องอ่านของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล
ตอนนี้ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 765 รุ่นที่สี่ผู้กล้าแกร่ง! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 765 รุ่นที่สี่ผู้กล้าแกร่ง!
เมื่อจอดรถ โจวเจ๋อมองประตูรถ เขารู้สึกปวดใจอยู่บ้าง แต่พอลองคิดดูนี่คือรถของเหล่าจาง จึงสบายใจ ไม่ว่าอย่างไรรถของเหล่าจางพังโดยปู่ทวดของของเหล่าจาง ถือว่าสมเหตุสมผล วนไปวนมาล้วนเป็นเรื่องของครอบครัวตัวเอง
เหล่าจางลงจากรถ ประคองปู่ทวดที่กลิ้งลงไป โจวเจ๋อมองเงาหลังของเหล่าจาง รู้สึกว่ากลับไปเย็นนี้เหล่าจางสามารถเขียนโพสต์ในเว็บจือฮูได้แล้ว ‘บอกเล่าความรู้สึกที่จู่ๆ มีปู่ทวดโผล่เข้ามาในชีวิต’
“เหอะๆ” โจวเจ๋อหัวเราะ จากนั้นจึงพูดในใจ ‘จะว่าไป ก็สะดวกดีนะ หนังหน้าแก่ๆ ของคุณ ใช้ประโยชน์ได้ดีมากจริงๆ’ เมื่อแสดงความเด็ดขาดออกมา ปัญหาส่วนใหญ่จึงได้รับการแก้ไข เมื่อเห็นท่าทางตกใจกลัวของชายชราจนสุดท้ายตัวสั่นงันงก ถือว่าสมปรารถนาแล้ว
‘เอา…ไป…ใช้…กับ…พญา…ยม…ดู…สิ’
‘ดูคุณสิ คุณซนอีกแล้ว’
โจวเจ๋อบิดขี้เกียจ หยิบน้ำขวดหนึ่งที่อยู่ข้างๆ แล้วดื่มหนึ่งที
‘อ้อใช่ มีเรื่องหนึ่ง ผมยังไม่เคยได้ถามคุณเลย จำได้ว่าตอนแรกที่อยู่ในนรก คุณมั่นใจได้ยังไงว่าจะมีคนเปิดทางให้พวกเรา คุณถึงมั่นใจว่าผมจะเดินออกมาจากสะพานไน่เหอได้’
‘ไม่…แน่…ใจ…’
‘คุณโกหก ทหารของจิ่วหลี คุณไม่ได้แตะต้องพวกเขา คาดว่าสิ่งที่คุณไม่ได้แตะต้อง คงมีอยู่ไม่น้อย คุณเสียดายไม่อยากใช้งาน เพราะอยากกลับไปใช้งานอย่างเปิดเผยเวลาที่กลับไปไม่ใช่เหรอ’
‘เหอะ…เหอะ…’
‘คุณหัวเราะอะไร รู้สึกร้อนตัวในสิ่งที่ผมพูดใช่ไหม’
‘เป็น…หมา…ก็…เฝ้า…บ้าน…ให้…ดี…’
‘เหอะ โอเคๆ ไม่ถามแล้ว เลิกถามแล้ว ผมก็ขี้เกียจลงไปนรกกับคุณแล้วเหมือนกัน ตอนนี้ชีวิตดีมาก ผมโคตรรักเลย’
เหล่าจางประคองชายชราจมูกแดงกลับมา ชายชราจมูกแดงรอบนี้ไม่นั่งข้างคนขับแล้ว เขาไปนั่งเบาะหลังกับเหลนชายคนโตของตัวเองแทน
“ไม่ต้องกลัว จริงๆ แล้ววัฒนธรรมองค์กรในร้านหนังสือของพวกเรา มีความปรองดองกันมาก” โจวเจ๋อเอ่ยพูดปลอบใจ
เหล่าจางอยากจะถามเป็นอย่างยิ่งว่าวัฒนธรรมองค์กรในร้านหนังสือของพวกเราคืออะไร
“รอไปที่ร้านแล้ว ผมจะให้นักพรตเฒ่าของพวกเราเล่าให้คุณฟัง หรือไม่ก็พาคุณไปเดินเล่นในทงเฉิง พาคุณไปรู้จักสภาพแวดล้อมและประเพณีท้องถิ่นในทงเฉิงของพวกเรา อ้อ ใช่แล้ว นักพรตเฒ่าอย่างน้อยมีอายุอานามพอๆ กับคุณ พวกคุณน่าจะพูดภาษาเดียวกัน”
เหล่าจางได้ยินดังนั้น รีบจับมือของปู่ทวดตัวเองอย่างแน่น
“โอ๊ย…แกบีบฉันทำไม ไอ้เหลนเหี้ย ไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ตัวเองมือหนักแค่ไหน”
เหล่าจางส่ายหน้าอย่างขมขื่น
โจวเจ๋อสตาร์ทรถอีกครั้ง พร่ำบ่นเป็นครั้งสุดท้ายถือว่าเป็นอันจบสิ้น แต่รายละเอียดการมอบงานและการจัดการต่อไป ต้องรอทนายอันกลับมาพูดกับชายชราคนนี้ อย่างแรกเลยเป็นเพราะโจวเจ๋อไม่มีเวลาว่าง กลัวความยุ่งยาก สอง หากตัวเองทำตัวสนิทสนมเกินไป คนอื่นจะดูถูกได้ง่าย
หลังจากสิบห้านาทีผ่านไป รถมาจอดที่หน้าร้านหนังสือ โจวเจ๋อลงจากรถ ผลักประตูร้านหนังสือ แล้วจึงได้กลิ่นน้ำซุปไก่เข้มข้นหลังจากเดินเข้าไป
บนโต๊ะกินข้าว มีหม้อดินใบใหญ่ใบหนึ่งวางอยู่ ข้างๆ ยังมีกับข้าวอีกสองสามอย่าง อิงอิงกำลังยกยำมะเขือเทศออกมา เธอในเวลานี้ใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพู น่ารักน่าชังเป็นที่สุด
“เถ้าแก่ ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”
“ใช่” โจวเจ๋อนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว
อิงอิงวางอาหารเรียกน้ำย่อยบนโต๊ะ พลางแอบพูดว่า “เถ้าแก่ ข้าสั่งอาหารจากข้างนอกมาให้ท่านแล้ว อยู่ในห้องข้างบน ท่านขึ้นไปกินเถอะเจ้าค่ะ”
โจวเจ๋อได้ยินดังนั้น พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางที่จริงใจของอิงอิง เขาจึงพยักหน้าตกลง
อิงอิงของเขามีความเอาใจใส่อย่างยิ่ง แม้แต่ช่วงที่ผู้ชายต้องทนฝืนตัวเองชิมอาหารแล้วยกนิ้วโป้งชมว่า ‘อร่อย’ อย่างขมขื่นก็ยังตัดออกให้เขา
บนโลกนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้ชายมากน้อยแค่ไหนที่ไม่สามารถผ่านด่านนี้ได้ แน่นอนว่า ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน นี่ก็เพื่อจะได้ไม่ไปขัดขวางความกระตือรือร้นในการทำกับข้าวของภรรยาตัวเองทำให้เธอทำกับข้าวต่อไปในภายหลังไม่ใช่เหรอ
แน่นอนว่า โจวเจ๋อแม้แต่ช่วงที่ต้องบอกว่าควันไฟทำให้ผิวพรรณของคุณเสียแล้วอะไรแบบนี้ ก็ยังสามารถข้ามไปได้ ดังนั้นมีสาวใช้ผีดิบอยู่ด้วยจึงประหยัดเวลาตัดความยุ่งยากไปได้หลายเรื่อง
ด้านนอก ชายชราจมูกแดงลงจากรถภายใต้การประคองของเหล่าจาง แต่ไม่รีบเข้าไปในร้านหนังสือ ทว่ากลับหรี่ตากวาดตามองร้านขายยาที่อยู่ด้านซ้ายของร้านหนังสือ และกวาดตามองสวนผักที่ปิดมิดชิดซึ่งอยู่ถัดไปทางด้านขวา
“รูปแบบ สถานที่ ไม่เลว!”
ชายชราจมูกแดงสบายใจแล้ว สงสัยยังไม่ถึงขั้นหมดหนทางเยียวยา
“กับข้าวพวกนี้ผีเป็นคนทำใช่ไหม ไม่อร่อยเลย” ชายชราบ่นพึมพำ แต่เขาก็พูดถูกแล้วไม่ใช่เหรอ ช่างเถอะ ไม่กินแล้ว ชายชราเดินไปที่เคาน์เตอร์ด้วยตัวเอง ค้นเจอเหล้าอู่เหลียงเย่หนึ่งขวด ซึ่งนักพรตเฒ่าซ่อนไว้ เขาหยิบออกมาโดยไม่เกรงใจ แล้วรินให้ตัวเองกับเหล่าจาง ยกแก้วขึ้นดื่ม จากนั้นเอ่ยว่า “ไอ้เหลนเวร จริงๆ แล้ว ฉันเดิมทีไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายเรื่องครั้งนี้ก็ได้ แต่ฉันทำเพื่อแก…”
“อย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ คุณรีบลงไปเร็วๆ จะดีกว่า ควรทำอะไรก็ทำอย่างนั้น”
“…” ชายชรา
เหล่าจางอยากให้ปู่ทวดของตัวเองที่โผล่มากะทันหันรีบกลับนรกอย่างไว ไม่อย่างนั้นวันพรุ่งนี้คนในร้านหนังสือกลับมาแล้ว ทุกคนคงต้องเรียกว่า ‘เสี่ยวจาง’ ‘เสี่ยวจาง’ กันถ้วนทั่ว
ชายชราถูกหลานอกตัญญูคนนี้ทำให้อัดอั้นจนบาดเจ็บภายใน! แค่ให้ทางลงหน่อยมันจะตายหรือไง!
“ช่วยอย่างไรก็ต้องช่วย พูดจริงๆ นะ อูฐที่ผอมตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า ยมโลกดูเหมือนตะวันลับฟ้า แต่อยากจะบีบคอพวกแกให้ตายกลับง่ายมาก ฉันแก่ปูนนี้แล้ว จึงอยากช่วยส่งเสริมแกนิดหน่อย เฮ้อ ลูกชายลูกสาวคือผีที่ตามทวงหนี้แท้ๆ คำพูดนี้พูดได้ถูกต้องจริงๆ” ชายชราจมูกแดงดื่มเหล้าอีกครั้ง ถอนหายใจเพียงลำพัง
เหล่าจางก็ถอนหายใจหนึ่งที เขาเป็นคนที่ถือหลักการ แต่ไม่ใช่คนโง่ ชายชราที่อยู่ตรงหน้าคิดอะไรกันแน่ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าจางจึงขี้เกียจเวิ่นเว้อ พูดตามตรงว่า “จริงๆ แล้ว หยุดความคิดเพ้อเจ้อหน่อย ทุกคนจะไม่เสียเปรียบ นิสัยเถ้าแก่ของพวกเรา จะพูดยังไงดี เขาเป็นปลาเค็…เป็นคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก อารมณ์ก็ไม่ค่อยดีนัก ชอบความตรงไปตรงมา” ความหมายคือเตือนปู่ทวดของตัวเอง ควรคุกเข่าก็รีบคุกเข่า ควรแสดงความจริงใจก็รีบแสดงความจริงใจ ปู่ทวดกับเหลนเป็นครอบครัวเดียวกัน จะหัวเราะเยาะคุณได้เหรอ
“เหอะๆ แกคิดว่าฉันกำลังใช้มาดของผู้ตรวจสอบเหรอ”
เหล่าจางไม่ตอบ แต่แสดงสายตา ‘คุณคิดว่าคุณไม่ได้ใช้เหรอ’
“ไอ้เหลนเวร!” ชายชราตบศีรษะของเหล่าจางหนึ่งที แล้วก้มศีรษะของตัวเองลงไปโดยพลัน พูดตวาดเสียงต่ำ “ฉันในฐานะของผู้ตรวจสอบ อาจจะไม่มีคุณค่าเหมือนที่แกคิด อย่างน้อย ในสายตาเถ้าแก่ของแกกับอันปู้ฉี่ ก็ไม่ได้มีคุณค่าขนาดนั้นจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมีความสัมพันธ์กับแก พวกเขาตอนนี้คงจับฉันผู้ตรวจสอบคนนี้ไปจัดการทิ้งเหมือนเนื้อหมูที่เป็นโรคอหิวาต์”
“อย่างนั้นอะไรมีค่า”
‘ปึ้ง!’
ชายชราจมูกแดงตบศีรษะอีกครั้ง แล้วเค้นเสียงต่ำ พูดดุว่า “แกนี่มันโง่จริงๆ ไม่มีมาดอันกล้าแกร่งเหมือนคนตระกูลจางรุ่นที่สี่ของพวกเรา แกคิดว่าเขาสามารถใช้ชีวิตสบายอยู่ในสถานที่บ้าๆ แบบนี้ได้ตลอดเหรอ”
……………………………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล