ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 770

ตอนที่ 770 เตือน

“คุณจะลงไปเมื่อไร” ทนายอันถาม เขาเดินจนขาชาแล้ว เดินกับชายชราจมูกแดงจากถนนจงหนานกลับไปถึงถนนหนานต้า

ชายชรากลับไม่เป็นไร เขาอีกสักพักจะลงไปแล้ว ร่างกายนี้ไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกต่อไป ถึงแม้จะเดินแล้วปวดเมื่อยก็ยังทนไหว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางใช้อีกเป็นครั้งที่สอง ขึ้นมาครั้งหน้าค่อยเลือกกายเนื้อใหม่

ทว่าทนายอันไม่ไหวแล้ว เขารักร่างนี้เป็นอย่างมาก และยังรอสวนผักข้างๆ ช่วยปลูกแขนของตัวเองกลับมาใหม่แต่ชายชราจมูกแดงบอกว่าอยากเดินเล่นในเมืองนี้ ทนายอันจึงต้องตามใจ ได้ ฉันจะปรนนิบัติคุณ ไม่ว่าอย่างไรอะไรที่ควรพูดก็พูดแล้ว อะไรที่ควรจัดการก็ทำแล้ว เหมือนการฝึกระดมทหารของอีกฝ่ายให้ก่อกบฏ กลายเป็นสายลับให้ฝ่ายของตัวเอง เวลานี้จึงต้องดูแลเขา ปกป้องเขา และทะนุถนอมเขาเป็นธรรมดา

ในที่สุดร้านหนังสือก็อยู่ตรงหน้า ชายชราจมูกแดงนั่งลงยองๆ หยิบขวดเหล้าขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋า จิบหนึ่งที ก่อนจะเอ่ยว่า “จริงๆ แล้ว ฉันสงสัยมาตลอด แกบอกฉันว่า สิ่งที่อยู่ในร่างของคนนั้นไม่ได้มีแค่เจ้าทะเลแห่งความตายเท่านั้น ยังมีเงาของไท่ซาน แต่ฉันรู้สึกอยู่ตลอดว่า ดูเหมือนแกจะมีอะไรตกหล่นที่ยังไม่ได้พูดกับฉัน และความรู้สึกนั้น ตอนนี้ยิ่งรุนแรงมากขึ้น”

“เพราะว่ารู้สึกก็พอแล้ว” ทนายอันไม่ได้ตอบตามตรง

“เหอะๆ ก็จริง พอแล้วจริงๆ” ชายชราจมูกแดงอ้าแขนทั้งสองข้าง บิดขี้เกียจ จากนั้นชี้ไปที่ร้านขายยาที่อยู่ทางซ้ายพลางเอ่ยว่า “แต่การวางหมากนี้มันยืดเยื้อเกินไป เดิมทีฉันคิดว่าผู้ชายหน้าตาดีคนนั้นสร้างค่ายกลขึ้นมา ตอนนี้รู้สึกว่า ไม่เหมือนลายมือของเขา เขาทำอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ไม่ได้ เพราะฉันถูกเขาปิดผนึกมาแล้วหนึ่งครั้ง เขาเก่งมาก ใช้ค่ายกลที่ค่อนข้างผิดแผกออกไป กระทั่งทำให้ฉันรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจ แต่เขาไม่ได้สร้างรูปแบบนี้ขึ้นมา”

“ร้านขายยา ทำไมเหรอ” ทนายอันจำได้ว่าหมอหลินเป็นคนเปิดร้านขายยานี้ เปิดร้านให้เถ้าแก่ของเขาเล่นๆ ไม่ว่าอย่างไร ไม่มีกฎหมายกำหนดว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะไม่สามารถไปหาผู้ชายขายตัวหรือเอาเงินทุ่มให้ผู้ชายเล่นไม่ได้ แต่ชายชราจมูกแดงพูดเช่นนี้ ทนายอันรู้สึกแปลกอยู่บ้าง หรือว่าหมอหลินคนนั้นมีปัญหาอย่างอื่น

ไม่เหมือนนะ ทนายอันรู้จักหมอหลินนานแล้ว ไม่ ตอนนั้นเป็นผู้อำนวยการหลินแล้ว จากนั้นเจอโจวเจ๋อครั้งแรกตอนที่อยู่บนรถของผู้อำนวยการหลิน ผู้อำนวยการหลินไม่มีปัญหาอะไร

“เหอะๆ ฝีมือเยี่ยมยอด ไม่ว่าทำอะไร มักจะทิ้งเส้นบางๆ เอาไว้ อนาคตจะได้เจอกันง่าย จริงๆ ไม่จำเป็นเลย”

“มา คุณลองพูดรายละเอียดให้ชัดขึ้น” ทนายอันนั่งลงยองๆ ตรงหน้าชายชราจมูกแดง หยิบบุหรี่ออกมาจุดหนึ่งมวน เขารู้ว่า ตอนแรกไอ้แก่คนนี้ได้รับคำสั่งให้เฝ้านรกชั้นที่สิบเก้า ประมาณว่าเป็นคุกในเมือง ในนั้นกักขังตัวฉกาจในนรกทั้งนั้น วิญญาณทั่วไปไม่มีสิทธิ์อยู่ในนั้น ดังนั้นตาแก่คนนี้จึงได้วิชามาหลายสิ่ง หนึ่งในนั้น คือ ‘การดู’ อันสุดยอดและทรงพลัง เขาอาจจะแก้ค่ายกลไม่ได้ ทักษะการใช้ค่ายกลไม่สูงนัก แต่เขากลับเข้าใจวิชาค่ายกลในระดับสูงสุดแล้ว

“ยังจะพูดอะไรได้ อ้าว แกไม่เห็นเหรอ เหอะๆ รูปแบบนี้คือการใช้พลังความโชคดีของทางซ้ายให้ไหลเข้าไปตรงกลาง นายรู้ไหมว่าหมายความว่าอย่างไร”

“ความโชคดีไหลเข้ามา”

“อืม หลักการเหมือนกับการบุกรุกหลุมศพบรรพบุรุษของคนอื่นแย่งฮวงจุ้ยของคนอื่น แต่ในร้านขายยาที่อยู่ทางซ้ายนี้แปลกมากจริงๆ มีบางสิ่งที่สามารถรักษาให้มันคงอยู่ได้ตลอด ในร้านขายยามีใครอยู่กันแน่ ทว่าแม้แต่คนที่ได้เงินห้าล้านหยวนโดยอาศัยโชคช่วยอย่างเดียวในช่วงก่อนที่จะมีการกวาดล้างคนโลภ โดนดูดโชคเข้าไปสองวันก็ทนไม่ไหวแล้วนี่นา”

มีใครอยู่ในร้านขายยา ทนายอันครุ่นคิด จากนั้นนึกถึงผู้ชายตัวนำโชคที่โดนต่อยยับ โดนระเบิดลอยฟ้า โดนเผาและโดนรถชนกระเด็นคนนั้น ทนายอันเบิกตาโตทันที ลมหายใจเริ่มหอบถี่ขึ้นมา โกวซินนั่นเอง เขาเป็นถ่านไฟฉายยี่ห้อหนานฝูอยู่ที่นั่น! หนึ่งก้อนทนกว่าหกก้อนไม่ใช่เหรอ!

“ราชวงศ์โบราณ ซ่อมแซมพระราชวัง กระทั่งสุสานของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ล้วนมีความพิถีพิถัน ราชวงศ์ให้ความสำคัญกับการสืบทอดมรดกของตัวเองก่อน ดังนั้นจึงมักแย่งพลังแห่งโชคลาภของฟ้าดินมาเป็นของตน แต่วิธีการที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่แตกต่างกันเลยสักนิดเดียว และวิธีการที่ละเอียดอ่อนนี้ ยิ่งเหมือนการสร้างอารามในเปลือกหอย ซึ่งยากยิ่งกว่า”

“เหอะๆ” ทนายอันชี้ไปที่สวนผักที่อยู่ทางขวา เอ่ยว่า “ทางนี้ล่ะ”

“เป็นการแย่งพลังชีวิต ร้านขายยาทางซ้ายเรียกโชคไหลย้อนกลับ ทางขวาคือเปลี่ยนถ่ายพลังชีวิต สรุปคือตำแหน่งร้านหนังสือที่อยู่ตรงกลาง ก็คือตำแหน่งที่ยุบลงไป พลังงานทั้งสองฝั่งไหลเข้ามารวมกันอยู่ที่นี่ไม่หยุดยั้ง! ซึ่งไม่ใช่ฝีมือของผู้ชายหน้าตาดีคนนั้นแน่นอน เขาทำไม่ได้! และฝีมือนี้ประณีตเหนือธรรมชาติ ไร้ซึ่งความจงใจ แต่กลับเต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ สุดยอดๆๆ สุดยอดเกินบรรยาย!

พูดจริงๆ นะ ฉันอยากจะหาคนที่สร้างค่ายกลนี้จริงๆ เพื่อขอวิชาความรู้ ด้านหนึ่งแย่งมา ด้านหนึ่งกดไว้ ด้านหนึ่งดึงไป ขณะเดียวกันยังให้โอกาสคนได้มีลมหายใจกลับมาดังเดิม หมุนเวียนกันใช้งาน เหอะๆ แต่เป็นวิธีการที่ยาวนานมาก นี่ไม่ดี ในเมื่อต้องหักหน้ากัน ก็ต้องใช้วิธีที่ถูกต้อง เลาะเส้นเอ็นกระดูกแล่หนัง ดูดพลังให้เต็มที่ไปเลยถึงจะถูก ไม่อย่างนั้น ดูเหมือนจะเป็นการต้มกบในน้ำอุ่น แต่ตัวเองมีหรือที่ตัวจะไม่ได้อยู่ในหม้อต้มที่ใหญ่กว่านี้”

“อย่างนั้นเป็นใคร ในร้านหนังสือของพวกเรา พูดตามจริง มีแค่ผู้ชายที่หน้าตาดีกว่าผู้หญิงคนนั้นที่เป็นวิชาค่ายกล คนที่เหลือไม่เข้าใจ”

“ร้านหนังสือของพวกแก ใครเป็นคนซ่อมแซมปรับปรุง” ชายชราจมูกแดงถามขึ้นในทันใด

ทนายอันหลับตา ลูบคางสีหน้านิ่ง จากนั้นลุกขึ้นเอ่ยว่า “คุณลงไปได้แล้ว”

“เหอะๆ อันปู้ฉี่ แกยังไม่เชื่อฉัน”

“ผมเชื่อคุณ ถึงแม้คุณจะนิสัยเสีย แต่ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”

“อย่างนั้นแก…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล