ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 777

ตอนที่ 777 ลงโทษชั่วนิรันดร์

จริงๆ แล้ว ในช่วงนี้ มาตรการการคุ้มครองผู้ที่โดนทำร้ายในกรณีพิเศษ มีความคล่องตัวมากแล้ว อย่างเช่นสามารถช่วยคุณเปลี่ยนตัวตนแล้วใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นความปรารถนาดีที่สุดที่สังคมนี้มีต่อผู้ที่โดนทำร้าย และยังแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางด้านอำนาจตุลากรของประเทศจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับเด็กสาวแล้ว อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ก่อนที่เธอจะฟื้นขึ้นมาจริงๆ จัดการเรื่องราวของเด็กให้เสร็จสิ้น ทำให้เธอไม่ต้องรับรู้อย่างสิ้นเชิง ว่าตัวเองเคย… ไม่อย่างนั้น อาจจะรู้สึกไม่สบายใจไปตลอดชีวิต

โจวเจ๋อขับรถพลางคิดเรื่องพวกนี้อยู่ในหัว ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่หวังเคอพูดกับเขา จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลย กลัวตายก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่หลังจากที่เดินทางไปนรกแล้ว วิธีการตายบางอย่าง ดูเหมือนจะสามารถรับได้บ้าง

อย่างเช่น ในช่วงนี้ ปากกาพิฆาตไม่ได้อยู่ในร่างของเขา หากเป็นเมื่อก่อนนี่เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้อย่างสิ้นเชิง แต่ตอนนี้กลับเกิดขึ้นแล้ว ถึงแม้เจ้าโง่จะแอบเพิ่มไฟโกรธในอารมณ์ของเขาเมื่อตอนกลางวัน ทำให้เขาโกรธเดือดดาลขึ้นมา แต่โจวเจ๋อไม่ได้ดึงปากกาพิฆาตออกมาจากหน้าอกของเหล่าจางจากนั้นแทงเข้าไปในร่างของตัวเองอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง

หากจะพูดว่าเชื่อใจ ดูเหมือนจะคิดเองเพียงฝ่ายเดียวเกินไป หากจะพูดว่าเป็นมิตรภาพ ดูเหมือนจะมั่นใจเกินไป ปล่อยให้ไม่เข้าใจ ไม่ชัดเจน อยู่แบบงุนงงแบบนี้ก็ดีแล้ว

ทุกคนเหมือนสุนัขสองตัวที่กำลังคำรามใส่รั้วเหล็กไม่หยุด ถ้าหากรั้วเหล็กหายไปกะทันหัน กลับไม่คุ้นชิน เพราะเหตุนี้ถึงแม้มันจะหายไป ทุกคนยังคิดว่ามันคงอยู่

เจ้าโง่เงียบหายไปนานครึ่งค่อนวัน และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ไม่ได้ถูกไท่ซานกดทับอยู่ข้างใต้ร้อง ‘โอ๊ยๆๆ’ อยู่ใช่ไหม

แต่ตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน หลังจากที่ตื่นมาคราวก่อน ดูเหมือนเจ้าโง่เริ่มจะพูดบ่อย เอะอะก็ชอบ ‘ทำเสียงพากย์’ ในชีวิตประจำวันของคุณ และเขาก็ไม่คำนึงว่าจะรบกวนคุณหรือไม่ ตอนนี้เหรอ นานๆ จะเงียบสักที

ตอนที่รถขับมาถึงร้านหนังสือ โจวเจ๋อมองโทรศัพท์หนึ่งที ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว ผ้าม่านของร้านหนังสือถูกปลดลงมา เมื่อยืนจากด้านนอกจึงมองไม่เห็นด้านในเลยสักนิด

อืม กำลังทำอะไรอยู่

โจวเจ๋อผลักประตูเดินเข้าไป ในนั้นมืดสนิท ดูเหมือนจะมีกลิ่นเผากระดาษลอยอยู่ในอากาศ เปลวไฟสีเขียวเข้มเป็นกลุ่มก้อนค่อยๆ ลอยเข้ามาจากหลายทิศทาง ไหวเอนไปมา เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด เสียงเพลงอึมครึมน่ากลัวดังขึ้น ผสมกับเสียงกรีดร้องที่ไม่รู้มาจากที่ไหน

อย่าให้พูดเลยว่าได้บรรยากาศแค่ไหน บนเคาน์เตอร์ร้านหนังสือมีผ้าเคลือบน้ำมันสีดำคลุมอยู่หนึ่งชั้น ด้านหลังมีแผ่นป้ายคำขวัญ บนนั้นเขียนว่า ‘เที่ยงตรงโปร่งใส’ ทั้งสองด้านมีเก้าอี้วางเรียงกันสองแถว และไม่รู้ว่าเก้าอี้ไม้นี้ได้มาจากที่ไหน

“เฮ้” โจวเจ๋อตะโกนหนึ่งที

“เวยอู่[1]!!!!!!!”

“เวยอู่!!!!!!!”

“เจี๊ยกๆๆๆ!!!!!”

อืม มีสิ่งแปลกประหลาดปนเข้ามา เวลานี้ โจวเจ๋อเห็นทนายอันกับนักพรตเฒ่าเดินเข้ามา ทั้งสองคนใส่ชุดเจ้าพนักงานในศาล ไม่รู้ว่าไปยืมเสื้อผ้ามาจากที่ไหน

“เถ้าแก่ ตกแต่งแบบนี้ ถูกใจไหม” ทนายอันถาม เหมือนกำลังโชว์ผลงาน

“ทำอะไรกัน”

“ศาลเตี้ยไง” ทนายอันพูดอย่างไม่แคร์ “ไม่ว่าอย่างไรคนก็ตายกลายเป็นผีแล้ว พวกเราจะลงทัณฑ์ทรมานอย่างไรก็ได้”

“แล้วตกแต่งแบบนี้ทำไม” โจวเจ๋อชี้ไปรอบๆ การตกแต่งนี้ สามารถให้คนนำไปถ่ายทำละครย้อนยุคได้เลย

“หืม เถ้าแก่บอกให้ผมเป็นคนเตรียมไม่ใช่เหรอ” ทนายอันแปลกใจอยู่บ้าง

“ผม” โจวเจ๋อชี้มาที่ตัวเอง จากนั้นมองไปที่นักพรตเฒ่า นักพรตเฒ่าตกตะลึงเล็กน้อย ทำสีหน้างุนงง หรือว่าตัวเองบอกเล่าเจตนาของเถ้าแก่ผิดไป

ย้ายของออกไปให้หมด ร้านหนังสือถูกจัดคืนตามสภาพเดิมในไม่ช้า คนสองสามคน และก็ไม่มีใครแล้ว ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ไม่รู้ว่าไปปล้นชุดการแสดงงิ้วมาจากที่ไหน ไม่อย่างนั้นจะมีอุปกรณ์มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร

โจวเจ๋อนั่งลงบนโซฟา อิงอิงใช้เวลาล้างเครื่องสำอางเล็กน้อย เธอก่อนหน้านี้แต่งตัวเป็นจ่าศาล หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว อิงอิงจึงรีบไปชงกาแฟให้โจวเจ๋อ

ในห้องส่วนตัวทางโน้น เงาร่างของทั้งสี่คนนั้นยืนอยู่ หน้าผากถูกแปะด้วยยันต์กระดาษ ยืนนิ่งทื่ออยู่ตรงนั้น

“เจ้าลิง มา เอาสมุดหยินหยางมาให้ฉัน” โจวเจ๋อกวักมือเรียกเจ้าลิงน้อย

เจ้าลิงน้อยที่ยังคงใส่ชุดเจ้าพนักงานในศาลรีบกระโดดลงมาทันที หยิบสมุดหยินหยางออกมาจากกระเป๋าเล็กของตัวเองมาวางตรงหน้าโจวเจ๋อ จากนั้นจึงนั่งลงยองๆ ริมโต๊ะน้ำชาอย่างสงสัยอยากรู้ อยากดูโจวเจ๋อว่าจะทำอะไรกันแน่

“เหล่าจางล่ะ” โจวเจ๋อถาม ปากกาพิฆาตยังอยู่ที่เหล่าจาง ต้องยืมใช้หน่อย

พูดตามจริง สมุดหยินหยางนี้ โจวเจ๋อยังไม่เข้าใจว่ามันใช้อย่างไรกันแน่ รู้แต่ว่าต้องใช้คู่กับปากกาพิฆาต ถึงจะสามารถเร่งให้เกิดผลพิเศษบางอย่างออกมา

“เหล่าสวี่ ทำอาหารมื้อดึกหน่อยสิ ทำอาหารมื้อดึกเสร็จแล้วเหล่าจางก็น่าจะถึงแล้ว” ทนายอันตะโกนพูดกับสวี่ชิงหล่าง

สวี่ชิงหล่างพยักหน้า แล้วเข้าไปในห้องครัว

โจวเจ๋อมองทนายอันหนึ่งที ถามว่า “วิญญาณสี่ดวงนั้นตอนเย็นเข้ามาด้วยตัวเองเหรอ”

“จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ผมใช้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ โทรหาเหล่าจางขอวันเดือนปีเกิดของทั้งสี่คน แล้วใส่พลังเหนี่ยวนำพิเศษเข้าไป วิญญาณทั้งสี่คนจึงถูกดึงมาที่นี่ จริงๆ แล้วยังไม่ถึงเวลา แต่สี่คนนี้เพิ่งตายโหง ยังสดใหม่มาก เดิมทีก็ยังไม่ได้ลงนรก ผมถึงดึงมาที่นี่เลย มีบางเรื่องตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ทำไม่สะดวก ตอนนี้คนตายแล้ว จึงไม่ต้องกังวลอะไร”

โจวเจ๋อหันไปมองห้องส่วนตัวหนึ่งที ไม่ได้ซักถามทนายอันว่าทำแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ไม่ว่าอย่างไรเรื่องการทำลายกฎระเบียบของยมโลก เถ้าแก่โจวก็ไม่ได้ทำเป็นคนแรก ถ้าหากถาม จะดูเหมือนหาเรื่องอีก

“เถ้าแก่ เด็กสาวคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง” นักพรตเฒ่าถามด้วยความเป็นห่วง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล