ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 795

ตอนที่ 795 ใครรอด คนนั้นก็ต้องรับความเจ็บปวด

น้ำเสียงสุดแสนจะเย่อหยิ่ง

พฤติกรรมเรียกได้ว่าเป็นการกบฏครั้งใหญ่

แต่บางทีเขาก็เป็นคนเรียบง่าย เป็นคนใสซื่อไม่คิดอะไรเลยถึงขนาดนี้ กระทั่งบอกได้ว่าเขาเป็นภาพจำลองนิสัยของอิ๋งโกว เพียงแต่เมื่ออยู่ในระดับใดระดับหนึ่งเขาอาจจะพูดได้ว่าเป็นอิ๋งโกวที่ยิ่งกว่าอิ๋งโกวเสียอีก

แม้เขาจะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสู้อยู่กับใครก็ตาม แต่ก็ยังไม่สะทกสะท้าน

บางทีอาจเป็นเพราะนิสัยอย่างนี้ละมั้ง หลังจากหลุดพ้นจากอิ๋งโกว เขาจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสังเวชนี้

ต่อต้านฟ้า ต่อต้านดิน ต่อต้านอากาศ มักจะบังเอิญโชคร้ายเสมอ ดันไปต่อต้านสิ่งมีชีวิตที่คุณยั่วยุไม่ได้ หรือกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่คุณไม่สามารถยุ่งวุ่นวายได้

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไม่นึกเสียใจใดๆ เดิมทีก็เพิ่งออกจากความ ‘ไม่มีอะไร’ เขาไม่มีอะไรจะเสีย อยู่ต่อไปอีกวัน พูดเยอะอีกประโยค จริงๆ แล้วได้กำไรต่างหาก

คนอื่นบอกว่าไหแตกแล้วแตกอีก แต่เขาไม่มีแม้แต่แผ่นกระเบื้องด้วยซ้ำ แล้วจะมีอะไรที่ยังปล่อยวางไม่ได้อีกล่ะ

จู่ๆ นัยน์ตาส่วนลึกของทนายอันก็เปล่งแสงสีเหลืองทองออกมา แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามสูงสุด

‘วืด!’

‘พรืด!’

ความเร็วนี้เร็วเกินไปจริงๆ เร็วเสียจนไม่มีใครตอบสนองได้ทัน ลำแสงสีเหลืองทองดุจกระบี่คมกริบแทงทะลุอกขวาของโจวเจ๋อโดยตรง ทะลวงจนเกิดรูใหญ่เท่ากำปั้น!

เมื่อร่างกายแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของผีดิบอยู่ต่อหน้าลำแสงสีเหลืองทองกลับเปราะบางประหนึ่งกระดาษแผ่นบางๆ แต่ทว่าหลังจากลำแสงสีเหลืองทองทะลุผ่านร่างกายของโจวเจ๋อก็พลันหายวับไปกับตา เห็นได้ชัดว่านี่คือร่องรอยปราณกระบี่ที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยตั้งแต่เริ่มต้น จัดว่าเป็นวัสดุสิ้นเปลืองใช้แล้วทิ้ง

ร่างของโจวเจ๋อสั่นเทิ้มเล็กน้อย แต่ยังคงบีบคอของทนายอันไม่ยอมปล่อยพร้อมยกขึ้น ตรงบาดแผลเริ่มมีปราณพิฆาตสีดำผุดขึ้นมากลืนกินปราณกระบี่ที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้อย่างบ้าคลั่ง ต่อมาเลือดเนื้อเลื้อยขยุกขยิกด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และบาดแผลอันน่าสยดสยองนี้ก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างเชื่องช้า

“มองเห็นหรือยัง จำได้หรือยัง อยากจะเรียนก็อย่าเรียนแค่ผิวเผิน พอออกไปจะได้ไม่ทำให้ข้าขายหน้า!” ขณะที่พูดโจวเจ๋อก็จ้องทนายอันที่อยู่ตรงหน้าไม่วางตาและพูดต่อ “มาเลย มาดูกันว่าเจ้ามีพลังเหลือล้นอีกสักเท่าไร เจ้านึกว่าเป็นสมัยนั้นหรือ เจ้านึกว่าปัจจุบันเป็นสมัยโบราณอยู่หรือ สะบัดสะบิ้งสำเนียงบ้าๆ พรรค์นั้นของเจ้าต่อสิ ข้าชักอยากเห็นแล้วสิว่าเจ้ามีวิชาความสามารถงัดออกมาทิ้งได้อีกสักเท่าไรเชียว!”

แต่ทว่าในตอนนี้เอง จู่ๆ กลุ่มแสงสีเหลืองทองหลั่งไหลทะลักเข้าไปในบาดแผลเล็กๆ บนฝ่ามือซ้ายของอิงอิงอย่างบ้าคลั่ง โจวเจ๋อเอื้อมมือไปบีบคอทนายอันชูขึ้น แต่ความสนใจไม่ได้อยู่บนตัวของเขาอีกต่อไป

มันบุกทะลวงฝืนยัดเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่รอให้การยึดร่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ สีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวของอิงอิงยิ่งรุนแรงขึ้น แต่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ต่อมากลับฝืนข่มเอาไว้

นางรอไม่ไหวแล้ว นางไม่อาจจะรอคอยได้อีกต่อไปแล้ว หนึ่งคือความโกรธปะทุในใจ คนตรงหน้านี้ล่วงเกินนางอย่างร้ายแรง สองคือภายใต้สถานการณ์แบบนี้อาศัยแค่วิธีเล่นที่แก้ปัญหาไม่ถูกจุดอย่างการควบคุมทนายอัน มันไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกต่อไปแล้ว

อิงอิงยืนขึ้น สีหน้าเย็นชาไม่แยแส แต่แววตาข้างซ้ายกลับฉายแววดิ้นรนขัดขืน การแย่งชิงยังไม่สำเร็จสมบูรณ์ แต่เหลืออีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น

‘พลั่ก!’

โจวเจ๋อโยนทนายอันในมือออกไป ทนายอันถูกทุ่มกระแทกกำแพง ร่วงผล็อยลงมาและหมดสติไป

คนผู้นั้นที่ควบคุมร่างกายและจิตใจของเขาเมื่อครู่นี้แยกออกไปแล้ว และเข้าสู่ร่างของอิงอิง

“หึๆ” โจวเจ๋อหัวเราะ อยากจะกระโจนเข้าไปสู้ต่อ อยากจะสู้ศึกก่อนหน้านี้ต่อไป พูดตามตรง เขาถูกผนึกขังไว้ที่นี่โดยที่ไม่รู้วันเวลา บังเอิญเป็นช่วงที่กำลังคันไม้คันมือไปทั้งตัว อีกทั้งเขารีบร้อนอยากจะพิสูจน์ให้เจ้าหมาน้อย ‘รุ่นหลัง’ ของเขาได้เห็นว่า ‘สุนัขอัจฉริยะ’ อย่างเขาที่คนทั้งหมู่บ้านขนานนามนั้นเจ๋งขนาดไหน

มันช่างคล้ายกับการกัดกันของเด็กๆ มาก ทั้งที่ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่มีชีวิตอยู่มายาวนานขนาดนี้ นิสัยกลับตรงไปตรงมา กระทั่งเต็มใจเสี่ยงต่อการถูกอิ๋งโกวโต้กลับ เสนอตัวเข้าร่างโจวเจ๋อเพื่อช่วยโจวเจ๋อต่อสู้อย่างไม่ลังเลอีกต่างหาก

แต่ในความเป็นจริง คนเราอยากจะไต่เต้าขึ้นไป อยากจะเป็นคนเหนือคน จุดประสงค์ก็เพื่อการนี้ไม่ใช่หรือ เมื่อไม่พอใจใคร ไม่จำเป็นต้องแสร้งโอนอ่อนผ่อนตาม ทำให้มันทนทุกข์ ทำให้มันตาย ทำให้มันฉิบหายไปเลย เมื่อมองอะไรไม่ชอบไม่เข้าตา ก็ตำหนิ ต่อว่า และกำจัดทิ้งให้จบไป

บางทีนี่อาจจะเป็นชีวิตของผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงชื่นชอบ และเป็นอิสระภาพที่แสวงหาอยู่ ไม่ใช่การพยายามไต่เต้าให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วยิ่งเรียนรู้ที่จะอดทน ยิ่งเรียนรู้ที่จะกลืนความโกรธ ยิ่งเข้าใจมากว่าการไม่อดทนต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ จะเดือนร้อนได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ละก็จะไต่เต้าบ้าบอคอแตกไปทำไม

เพียงแต่ว่า โจวเจ๋อหยุดหลังจากก้าวฝีเท้าไปข้างหน้าสองก้าว เขาก้มหน้าและต่อว่าตัวเอง “โง่เง่า!”

ส่วนอิงอิงที่อยู่ตรงหน้าก็หยุดหลังจากก้าวไปข้างหน้าสองก้าวเช่นกัน อิงอิงก้มหัวและตำหนิด้วยน้ำเสียงเดียวกันกับอีกฝ่าย “บังอาจ!”

เดิมทีทั้งสองคนกำลังจะต่อสู้กัน แต่ดันถูกจิตสำนึกอื่นในร่างฝืนบังคับเอาไว้

ไม่ว่าจะมองจากจุดยืนของโจวเจ๋อหรือว่าอิงอิง หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดทำร้ายอีกฝ่ายล้วนยอมรับไม่ได้ทั้งสิ้น

“…” ทนายอันที่สลบเหมือดอยู่ข้างๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับกระแสน้ำใหญ่ ความตั้งใจของแต่ละคนก็เล็กลง

ตอนที่ 795 ใครรอด คนนั้นก็ต้องรับความเจ็บปวด 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล