หยางถิงพูดแบบนี้ ซูเฉินก็อยู่นิ่งไม่ได้แล้ว
คุณสวยจริงๆ แต่ผมพูดเมื่อไหร่ว่าคุณสวย? และไหนยังบอกว่าชอบคุณอีก? "
ระหว่างที่พูด ซูเฉินรีบหันไปมองหลิวอี้อี้ แต่กลับพบว่าหลิวอี้อี้มีสีหน้าปกติ ยิ้มแล้วพูดว่า "กินผลไม้เถอะ"
หยางถิงหัวเราะ แล้วหยิบสตรอเบอร์รี่ขึ้นมากิน
ซูเฉินเห็นหลิวอี้อี้ไม่โกรธ ก็สบายใจ นั่งบนโซฟาหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมากัด
มีแค่หลิวอี้อี้ เธอรู้นิสัยของเพื่อนสนิทเธอดี ชอบแกล้งคนอื่น นิสัยเทาๆหน่อย เธอเคยชินนานแล้ว
ทั้งสองคนพูดคุยอยู่ครู่หนึ่ง ก็ถึงเวลาอาหารเที่ยง หยางถิงเสนอว่าให้ออกไปกินข้างนอก
หลิวอี้อี้เองก็ไม่มีอารมณ์ทำกับข้าว ก็เลยตอบตกลงไป
หลังจากออกจากบ้าน ทั้งสามคนรอรถแท็กซี่ที่หน้าหมู่บ้าน แต่ใครจะไปรู้ว่ารอนานมากแล้ว ไม่มีรถแท็กซี่ว่างซักคัน
" ตอนนี้เป็นเวลาเร่งรีบ รถแท็กซี่ที่ขับผ่านมาก็มีคนนั่งมาทั้งนั้น ถ้างั้นพวกเรานั่งรถเมล์กันมั้ย?" จู่ๆหยางถิงก็เสนอขึ้นมา
เห็นเธอพูดอย่างนี้ หลิวอี้อี้ก็พยักหน้า ที่หน้าหมู่บ้านมีป้ายรถเมล์ เป็นรถเมล์ที่ขับตรงไปยังธุรกิจนานาชาติ แถวนั้นมีห้างสรรพสินค้าที่คึกคักมาก มีร้านอาหาร ความบันเทิง แหล่งช็อปปิ๊ง เป็นห้างที่ใหญ่โต
หลังจากรอประมาณสองสามนาที รถเมล์ก็มาถึง ทั้งสามคนรีบขึ้นรถเมล์ไป
เพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน บนรถเมล์คนเยอะแยะ ซูเฉินคอยปกป้องหลิวอี้อี้ หลังจากหยางถิงและหลิวอี้อี้ทั้งสองคนขึ้นรถไปแล้ว เขาถึงค่อยขึ้นตามมา
รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป หลิวอี้อี้เห็นว่าด้านหลังคนค่อนข้างน้อย ก็เลยเบียดคนอื่นๆเข้าไป
ซูเฉินอยากจะตามเข้าไป พอหลิวอี้อี้เดินไปแล้ว ก็มีคนมายืนขวางทาง
ตอนนั้น หยางถิงดึงแขนของซูเฉินเบาๆ แล้วพูดว่า " ไม่มีที่ให้จับ ให้ฉันจับแขนนายหน่อย"
รูปร่างของหยางถิงไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิวอี้อี้ เอวบางร่างน้อยสูง167ซม. ขาสองข้างยาวเรียวดั่งปากกา ถึงแม้ไม่มีที่จับ แต่ก็สูงพอที่จะจับราวเหล็กบนรถเมล์
แต่เธอพูดมาอย่างนี้แล้ว ซูเฉินก็ไม่ได้เป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักวางตัว เขาก็เลยหยุดยืนตรงนั้น ปล่อยให้หยางถิงจับแขนต่อไป
หยางถิงยิ้มๆแล้วถามว่า " พ่อหนุ่มน้อย นายชอบพี่สะใภ้ใช่มั้ย?"
"ไม่ใช่" ซูเฉินตอบอย่างปากแข็ง
"จริงอ่ะ?" หยางถิงถามต่อ
"จริงครับ" ซูเฉินตอบออกไป แล้วรีบหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถ เพราะกลัวว่าหยางถิงจะถามต่อ
ใครจะไปรู้ว่าหยางถิงไม่วางใจ เห็นซูเฉินหันหน้าออกไป เธอก็เข้ามาใกล้มากขึ้น และถามมาว่า "งั้นพี่สะใภ้นายชอบนายมั้ย?"
"เอ่อ......" ซูเฉินชะงักไป ไม่อยากจะพูดออกไปว่าไม่ชอบสองคำนี้ แต่เห็นหยิงถิงกระตือรือร้นต่อเรื่องนี้มาก และกลัวว่าจะส่งผลไม่ดีต่อหลิวอี้อี้ ก็เลยตอบไปว่า " พี่สะใภ้ผมชอบก็คือพี่ถังของผมไง!"
"ยังไงพวกเธอสองคนก็ไม่ได้ชอบกันล่ะก็...." หยางถิงยิ้มๆ แล้วเข้าใกล้ซูเฉิน พูดว่า "งั้นฉันก็ไม่ใช่มือที่สามน่ะสิ?"
"อะ.......อะไรนะ!" ซูเฉินตกใจมาก
"ฉันชอบนาย" หยางถิงพูดออกมาตรงๆ
ซูเฉินกลืนน้ำลาย พูดด้วยความตื่นเต้นว่า " พี่ถิงถิง คุณอย่ามาแกล้งผมนะ...."
"ใครแกล้งนาย?" หยางถิงเอาเรือนร่างตัวเองมาถูร่างกายซูเฉินเบาๆ แล้วพูดว่า " ฉันชอบผู้ชายหนุ่มๆ มีกล้ามเนื้อ"
"คุณ ไม่ใช่ว่ามีแฟนแล้วหรอ?" ซูเฉินถามตะกุกตะกัก
"งั้นก็ต้องดูนายแล้ว"หยางถิงตอบ "ถ้านายตกลง เขาก็จะเป็นแฟนเก่าของฉัน!"
ซูเฉินได้ยินดังนั้น รู้สึกควบคุมไม่ได้ ความสวยของหยางถิงไม่เป็นรองพี่สะใภ้ของผม อีกทั้งร่างกายของเธอก็น่าเย้ายวน ดูท่าบนเตียงคนจะเร้าใจไม่น้อย!
อาจจะเพราะว่าอยู่กับหลิวอี้อี้นาน ซูเฉินรู้สึกว่า เขาไม่รู้สึกต่อต้านผู้หญิงอายุเยอะอย่างหลิวอี้อี้และหยางถิง
เห็นท่าทางหยางถิงที่ยั่วเย้า มือของซูเฉินก็ไปคล้องเอวหยิงถิงไม่รู้เนื้อรู้ตัว
สัมผัสแรงมือใหญ่ๆของซูเฉิน หัวใจหยางถิงเต้นรัว เธอไม่มีแรงขัดขืนหนุ่มละอ่อนอย่างซูเฉิน
สูง184ซม. หน้าตาคมชัด เพราะชอบเล่นบาสเก็ตบอล รูปร่างก็เลยดี เสียดสีกันโดยมีแค่เสื้อยืดกั้น ทำให้กล้ามเนื้อตรงนั้นก็แข็งขึ้น ไม่สามารถควบคุมได้
เริ่มแรก หยางถิงก็แค่อยากจะแกล้งให้ซูเฉินตื่นเต้น เพื่อจะดูว่าซูเฉินอาจจะหลุดพูดอะไรออกมา
เพราะเมื่อคืนเธอรออยู่ที่หน้าประตูโรงแรมยี่สิบนที ก็ไม่เห็นซูเฉินและหลิวอี้อี้ออกมา บวกกับวันนี้ตอนไปบ้านของหลิวอี้อี้ สังเกตเห็นได้ชัดว่าสายตาของทั้งสองคนลุกลี้ลุกลน
โดยเฉพาะหลิวอี้อี้ที่หน้าแดงก่ำ การเขิลอายแบบนี้เป็นปฏิกิริยาที่เกิดเพราะผู้ชาย
สิ่งที่มีไม่เหมือนหลิวอี้อี้ก็คือ หยางถิงมีประสบการณ์โชกโชน เธอที่อายุยี่สิบสี่ปี แต่กลับเปลี่ยนผู้ชายทุกๆสองเดือน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก