แอบรัก นิยาย บท 24

"นี่ ... แบบนี้จะเรียกว่าไม่ช่วยได้ไงละ" จู่ๆซูเฉินก็รู้สึกอยากช่วยขึ้นมา เขาจึงบอกความจริงว่า "ป้า คือฉัน ... ฉัน ฉันมีอุปสรรคในใจ!"

เมื่อซูเฉินกล่าวเช่นนั้น รอยยิ้มก็ปรากฏอีกขึ้นบนใบหน้าของเฉินซู่ชิว โอกาสมาละ !

"ซูเฉิน นายสามารถฝ่าอุปสรรคในใจของนายได้ เห็นไหม ... พี่ชายและพี่สะใภ้ของนายที่แรกก็ไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังไปรับนายมาที่นี้?" เฉินซู่ชิวกล่าว

เมื่อกี้ ซูเฉินเอาแต่ปฏิเสธจนลืมคิดว่าเรื่องนี้หลิวอี้อี้ได้เห็นด้วยหรือป่าว

เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินซู่ชิว ในตอนนี้ ในใจของซูเฉินก็ไม่ได้อยากปฏิเสธอะไรมากมายแล้ว แต่การต่อต้านในใจของเขาก็ยังไม่ได้หายไป เขายังคงเงียบและไม่พูดอะไร

เวลานี้ก็เย็นแล้วด้วย พอเฉินซู่ชิวพูดเรื่องนี้ให้ซูเฉินเสร็จ เขาก็พาลูกชายออกไปซื้อของเลย

ในขณะนั้นเหลือเพียง ซูเฉิน และ หลิวอี้อี้ที่อยู่ในบ้านกันสองคน

"พี่ พี่สะใภ้ ... " ซูเฉินเรียกด้วยริมฝีปากที่แห้งผากของเธอและกล่าว

ดวงตาของหลิวอี้อี้ แดงและดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะร้องไห้มา ...

"คุณไม่เป็นไรใช่ไหมพี่สะใภ้" ซูเฉินรู้สึกทุกข์ใจทันทีที่เห็นสภาพของหลิวอี้อี้ในตอนนั้น "พี่สะใภ้อย่าร้องไห้นะ ... ฉันจะไม่พูดตกลงกับป้าแน่"

เขาไม่พูดถึงเรื่องนั้นยังดี พอพูโทั้งนั้นแหละ น้ำตาของหลิวอี้อี้ ก็เริ่มร่วงหล่นลงอย่างเรื่อยๆ

"พี่สะใภ้!" ซูเฉินรู้สึกทุกข์ใจมากเขาจึงดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอดของเขา แล้วตบหลังของ หลิวอี้อี้เบา ๆ และพูดด้วยเสียงอ่อน ๆว่า : "อย่าร้องไห้โอเคไหม ... เดี๋ยวรอป้ากับพี่ชายกลับมา , ฉันจะไปบอกพวกเขาเองว่าฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น ... และฉันจะกลับไปโรงเรียนเลย "

ถึงปากเขาจะพูดแบบนี้ แต่ในใจเขาก็ผิดหวังเล็กน้อย เขาไม่ได้เลยว่าหลิวอี้อี้จะต่อต้านเขามากขนาดนี้!

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าสาเหตุที่ หลิวอี้อี้ร้องไห้เสียใจก็เพราะว่าการกระทำของ ซูเฉินนั้นเอง ! เธอต้องทนกับการล่อลวงมากมาย แล้วซูเจิ้งก็ยังผลักตัวเธอให้คนอื่นเพื่อสืบทอดตระกูลของเขา!

"ซูเฉิน พี่สะใภ้ไม่ได้โกรธนาย” หลิวอี้อี้ พยายามอดทนความเศร้านี้และเช็ดน้ำตาออกทีละิดทีละน้อย

"แล้วที่คุณร้องไห้เพราะพี่ชายเหรอ?” ซูเฉินถาม

หลิวอี้อี้ พยักหน้าและอย่างพูดเบา ๆว่า : "ฉันแค่รู็สึกผิดหวังต่อเขามาก บางครั้งฉันก็ไม่รู้ลยว่าทั้งชีวิตของผู้หญิงนั้นทนกับอะไรบ้าง"

ซูเฉินไม่รู้จะตอบคำถามของหลิวอี้อี้ ยังไง เขาทำได้แค่กอดเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาอย่างเงียบ และมือของเขาก็ค่อยๆลูบหลังของเธอ ความเงียบสงบและปลอบใจนี้กลับทำให้หลอวอี้อี้ รู้สึกสบายใจ

"ซูเฉินของเรา โตขึ้นแล้วนะ ... " หลิวอี้อี้พูดด้วยเสียงเบา ๆ ในอ้อมกอดของซูเฉิน

ในไม่ช้าเฉินซู่ชิว ก็กลับมาพร้อมกับ ซูเจิ้ง ทั้งสองเดินเข้ามา ในมือของซูเจิ้งถือผักผัดและเนื้อปรุงสุกอยู่ ทันทีที่เฉินซู่ชิวเดินเข้ามาเขาก็เรียก ซูเฉิน และ หลิวอี้อี้ มากินข้าวกัน

ทั้งสี่คนนั่งลงกินข้าวกันในรอบโต๊ะซูเจิ้งได้แค่ก้มหน้าลงกินข้าวและซูเฉินก็ก้มหน้าลงเพื่อกินข้าวเหมือนกันเพราะเธอรู้สึกอายที่จะมองหน้าเขา

หลังจากที่หลิวอี้อี้ รู้สึกผิดหวังและไม่พอใจแล้ว เขาก็เคี้ยวอาหารอย่างช้าๆพอกินเสร็จเธอก็กลับไปที่ห้อง!

"อี้อี้ ... " ซูเจิ้งอ้าปากและตะโกนเบา ๆ

หลิวอี้อี้ ไม่สนใจเขาและเดินกลับไปที่ห้องอย่างเย็นชาและก็ปิดประตู

เฉินซู่ชิวเหลือบไปมองลูกชายของเขาและพูดด้วยเสียงต่ำ: "ปล่อยเธอไปถึงจุดนี้แกอยากเสียใจที่ที่หลังหรือไง"

ซูเจิ้งผงะครู่หนึ่งจากนั้นก็ปิดปากลงอีกครั้ง

ในตอนที่ หลิวอี้อี้ ออกไปรับ ซูเฉินนั้น เฉินซู่ชิว ก็ได้บอกเขาว่า ... ถ้าหายังปล่อยเรื่องดำเนินต่อไปยังนี้อีก ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลิวอี้อี้ก็จะสิ้นสุดลงในไม่ช้านี้

อีกด้านซูเจิ้งก็รู้ด้วยว่าหลิวอี้อี้เป็นผู้หญิงที่มีความต้องการสูงและเธอก็ไม่สามารถให้มันกับเธอได้ เธอคิดปฏิเสธไปแล้วหลายครั้ง แต่ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปหลิวอี้อี้เกิดความต้องการขึ้นมาไปมีชู้ละ!

หลังจากที่พ่อของซูเจิ้งเสีย เฉินซู่ชิว ก็เคยพาผู้ชายเข้ามาที่บ้านอยู่เรื่อยมาเมื่อเขานึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเขาก็เริ่มไม่มีความเชื่อใจต่อหลิวอี้อี้

ถ้าหากมีลูกกันแล้ว ... บางทีหลิวอี้อี้ อาจมุ่งเน้นไปที่การดูแลเด็กแล้วครอบครัวของก็ได้แล้วก็ทั้งสามคนก็จะมีความสุข!

ด้วยความที่ซูเจิ้งก็ใฝ่ฝันเรื่องนี้อยู่เขาจึงรับฟังคำแนะนำจากเฉินซู่ชิว

"ซูเฉินคืนนี้นายไปนอนที่ห้องของฉันสิ" ซูเจิ้งกำหมัดแน่นและพูดอย่างไม่เต็มใจ

"หือ?" ซูเฉินตกตะลึงมากจากนั้นมองไปที่เฉินซู่ชิวและพูดว่า: "ป้า ... ฉันทำไม่ไหวเหรอ! นอกจากนี้ฉันก็ยังไม่ได้ตอบตกลงกับพวกคุณด้วยนี้!"

"คืนนี้แค่อยากให้แกไปรองเตียงเฉยๆแค่นอนกับอี้อี้คืนเดียว ป้าคนไม่ได้ขอให้แกทำอะไรสักหน่อย หลังจากที่แกและอี้อี้ได้ทำความคุ้นเคยกันอย่างช้าๆแล้วอุปสรรคในใจแกก็จะได้ทะลุไง?" เฉินซู่ชิวกล่าวด้วยประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมของเขา

ให้ชายและหญิงอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน แล้วซูเฉินก็กำลังอยู๋ในวัยที่มีความพึงพอใจอย่างมากส่วนหลิวอี้อี้ก็สวยและน่าดึงดูดมากและทั้งสองก็จะอยู่บนเตียงเดียวกันด้วย ฉันทนได้ไม่นานเหรอ!

"รองเตียง?" ซูเฉินผงะไปครู่หนึ่งและพูดว่า: "ตอนที่พี่ชายกับพี่สะใภ้แต่งงานกันฉันก็เคยไรองแล้วไปนี้"

รองเตียงหรือที่เรียกว่ารองเตียงตอนแต่งงานเป็นหนึ่งในประเพณีการแต่งงานในหมู่บ้านของซูเฉิน คืนก่อนที่ชายหนุ่มและหญิงสาวจะแต่งงานกันเจ้าบ่าวต้องเชิญน้องชายสักคนหนึ่งหรือสองคนมานอนที่เตียงใหม่!

แน่นอนว่าการรองเตียงนี้ก็มีเงื่อนไขเหมือนกันไม่ใช่ใครๆก็มารองนอนได้

ก่อนอื่นคนนั้นต้องมีอายุน้อยกว่าเจ้าบ่าวซึ่งมักจะเป็นน้องชายของเขาเองหรือพี่น้องฝั่งคุณลุงหรือลูกพี่ลูกน้องฝั่งคุณป้า หากภายในญาตินี้ไม่มีบุคคลดังกล่าวของเจ้าบ่าวแล้วเจ้าบ่าวก็ยังสามารถหาเพื่อนในหมู่บ้านหรือเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่สนิทก็ได้ เงื่อนไขที่สอง คนคนนั้นต้องเป็นเยาวชนที่ยังไม่ได้แต่งงาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก