แอบรัก นิยาย บท 82

สรุปบท บทที่ 82 สารภาพรัก: แอบรัก

สรุปตอน บทที่ 82 สารภาพรัก – จากเรื่อง แอบรัก โดย หัวมันลู

ตอน บทที่ 82 สารภาพรัก ของนิยายการทรยศเรื่องดัง แอบรัก โดยนักเขียน หัวมันลู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ถ้าเป็นเพียงแค่เนื้อหนังมังสาล่ะก็ งั้นหลิวอี้อี้ก็คงปฏิเสธซูเฉิน

เธอได้ใช้ชีวิตผ่านช่วงอายุที่สวยงามที่สุดมาแล้ว แต่ซูเฉินเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง ความห่างระยะเวลาห้าปีตรงกลางนั้น จะบอกว่านานก็นาน จะบอกว่าสั้นก็สั้น

ผ่านไปอีกสองปี เธออาจจะมีความดึงดูดต่อซูเฉินอยู่ แต่ถ้าหลังจากนั้นอีกสี่ปี หรือหกปี หลังจากที่ซูเฉินเห็นเธอแล้ว จะรู้สึกเบื่อหน่ายหรือเปล่า และถึงตอนนั้นตอนที่เขาได้เจอผู้หญิงคนอื่น เขาจะเปลี่ยนไปต่อสู้เพื่อคนอื่นหรือเปล่า?

"ผมชอบคุณ ก็คือชอบที่คุณเป็นคุณคนนี้ อี้อี้ ถ้าคุณไม่อยากมีอะไรกับผม....ก็ไม่เป็นไร แค่คุณจูบผมบ้างก็พอแล้ว" หลังจากที่ซูเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ยิ้มและพูดออกมา

เขาพูดอีกว่า "ผมชอบความรู้สึกที่ได้อยู่กับคุณ ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่ได้ดมกลิ่นหอมๆของคุณ ก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้แล้ว"

"ผมไม่แตะต้องคุณก็ได้ แค่นั่งบนโซฟาด้วยกัน....ดูทีวีไปพร้อมกับคุณ ได้ดูด้วยกันกับคุณ หัวใจผมก็เต้นรัวแล้ว"

"อี้อี้....ผมอยากจูบคุณ อยากกอดคุณ ไม่ใช่เป็นเพราะความปราถนาทางร่างกาย แต่เป็นเพราะผมชอบคุณ ก็เลยทำให้ผมหลงไหลคุณ ทำให้ผมจูบคุณ และลูบคลำคุณ..........."

"ผมอาจจะอธิบายได้ไม่ชัดเจน แต่เพียงแค่คุณยินยอม คุณพูดอะไรผมจะเชื่อฟังคุณทั้งหมด ผมจะเป็นลูกหมาให้คุณ"

หลิวอี้อี้ได้ยินคำพูดของซูเฉิน เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ตอนที่เธอกำลังคิดว่าลูกหมาหมายถึงอะไร ก็เห็นว่าซูเฉินแอบหันไปมองในห้องครัว

หลิวอี้อี้ได้ยินเสียงที่หยางถิงเก็บของเสร็จหมดแล้ว เธอก็เลยรีบหยิบมิชชูขึ้นมาเช็ดน้ำตา

ซูเฉินก็เงียบลง เขาไม่ได้คำตอบจากหลิวอี้อี้ รู้สึกใจคอเหี่ยวแห้ง แต่เมื่อเห็นท่าทางซาบซึ้งใจของหลิวอี้อี้ เขาก็รู้สึกว่าไม่ใช่จะไม่มีโอกาสเลย

"กำลังคุยอะไรกันอยู่หน่ะ พอฉันมาก็เงียบกันหมด?" ในมือของหยางถิงถือจานมะม่วงที่ปอกเสร็จแล้วมาด้วย เธอพูดว่า " มากินมะม่วงกันสิ"

"อืม" ซูเฉินยิ้ม และรีบหยิบมะม่วงมาหนึ่งชิ้น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ส่งให้หยางถิง และพูดว่า " พี่ถิงถิงล้างจานมาเหน็ดเหนื่อย พี่กินก่อน"

"น่ารักมาก" หยางถิงยิ้มเบาๆ และยื่นมือไปรับ

ซูเฉินหยิบขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้นและยื่นให้หลิวอี้อี้ พูดว่า " พี่สะใภ้"

หลิวอี้อี้ไม่ได้โทษเขาที่ไม่หยิบให้ตัวเองก่อน เธอรู้ว่าซูเฉินตั้งใจเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้หยางถิงถามต่อ เธอก็เลยรับมะม่วงจากซูเฉิน และกินเข้าไป

ส่วนซูเฉิน เขายังสับสนกับท่าทางของหลิวอี้อี้ ก็เลยไม่มีความอยากกิน

..........................

ทั้งสามคนนั่งดูหนังบนโซฟา ต่อมาโทรศัพท์ของซูเฉินก็ดังขึ้น จ้าวซีโทรมา

ซูเฉินในตอนนี้ไม่มีอารมณ์ เมื่อได้ยินจ้าวซีถามว่าเมื่อไหร่จะกลับมาที่มหาวิทยาลัย ซูเฉินก็เลยโกหกว่า "พี่สะใภ้ของฉันได้รับบาดเจ็บ บังเอิญที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้บอกให้ฉันกลับไป ฉันก็เลยจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลพี่สะใภ้ก่อน"

"งั้นนายจะกลับมาตอนไหนหล่ะ?" จ้าวซีพูดด้วยความเป็นห่วงว่า " ฉันเห็นใบหน้าของหวังฟานมีแผลด้วย นายไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย?"

"ไม่เป็นอะไร" หลังจากที่ซูเฉินตอบกลับไปอย่างนิ่งๆแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงจ้าวซีสะอื้นเบาๆ เขาก็เลยรู้ตัวว่าน้ำเสียงของตัวเองเย็นชาเกินไป เขาก็เลยลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง ปิดประตู และค่อยๆพูดปลอบใจจ้าวซี

หลังจากที่ซูเฉินออกไปแล้ว หยางถิงก็หันไปมองแผ่นหลังของเขา และพูดว่า " เด็กคนนี้มีเสน่ห์ไม่เบานะ ดูสิทำเอาสาวน้อยหลงน่าดู"

พูดจบ หยางถิงก็หันไปมองหลิวอี้อี้ เพื่อรอคำตอบจากเธอ

ซูเฉินตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงของอีกวันหนึ่งแล้ว หยางถิงเก็บของเสร็จก็ไปทำงาน

หลิวอี้อี้เห็นว่าซูเฉินตื่นแล้ว เธอก็เลยไปต้มบะหมี่และทอดไข่ดาวให้เขา ตอนกินข้าว ซูเฉินจ้องหลิวอี้อี้ และถามว่า " พี่สะใภ้ เรื่องเมื่อวานพี่ไต่ตรองไปถึงไหนแล้ว?"

"ยังไม่ได้คิด.." หลิวอี้อี้พูด

"ผมไม่เชื่อ" หลังจากนั้นเขาก็ดูดเส้นบะหมี่เข้าไปหนึ่งเส้น และมองหลิวอี้อี้ พร้อมพูดว่า "ตอนนั้นเห็นๆอยู่ว่าพี่กำลังครุ่นคิด...ยังจะไม่พูดอีก พี่สะใภ้ พี่กำลังหนีมันอยู่ พี่จะปฏิเสธผม?"

".............ไม่ใช่ เมื่อวานฉันมัวแต่พูดคุยอยู่กับหยางถิงก็เลยไม่มีเวลามาคิด" หลิวอี้อี้พูดเบาๆ

"งั้นตอนนี้ก็มีเวลาแล้วสิ พี่ตอบผมมาซักครั้ง จะเงียบก็ได้.....ถ้าพี่ไม่พูดคำว่า ได้ ออกมา ต่อไปผมก็จะไปพูดเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว " ซูเฉินพูดจบ ก็วางตะเกียบในมือลง และพูดว่า " พี่สะใภ้ ถึงแม้ผมจะชอบพี่ แต่ผมก็ไม่อยากจะรบกวนชีวิตพี่ไปตลอด ตอนนี้ไม่มีคนอื่น มีแค่พวกเราสองคน ผมแค่อยากฟังคำตอบ"

ได้ยินซูเฉินพูดแบบนั้น หลิวอี้อี้ก็ขมวดคิ้ว

ที่จริงหลิวอี้อี้รู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าซูเฉินไม่ทำอย่างนี้ เธอก็จะทำไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป ตอนนี้เห็นสายตาที่ซูเฉินจ้องตัวเองแล้ว หลิวอี้อี้จะกล้าลังเลอยู่ได้อย่างไร

"ฉัน....ตกลง " หลิวอี้อี้หน้าแดงเล็กน้อย พูดออกมาเบาๆราวกับเสียงยุง

"จริงหรอ!" ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินดีใจมากจนอยากจะกระโดดขึ้นมา ตะเกียบลอยกระจัดกระจาย

"พี่สะใภ้....ไม่สิ อี้อี้ ต่อไปผมจะไม่เรียกคุณว่าพี่สะใภ้อีกแล้ว " ซูเฉินดีใจมากโผเข้ากอดหลิวอี้อี้ และจูบลงไปบนปากเล็กๆของเธอ

ต่อมาก็ "ม๊วฟ ม๊วฟ ม๊วฟ!" จูบไปอีกหลายครั้ง หลิวอี้อี้ถูกซูเฉินจูบจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นั่นไม่ใช่เพราะว่าเขินอาย แต่เป็นเพราะใจสั่นเหมือนกับซูเฉิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก