ถ้าเป็นเพียงแค่เนื้อหนังมังสาล่ะก็ งั้นหลิวอี้อี้ก็คงปฏิเสธซูเฉิน
เธอได้ใช้ชีวิตผ่านช่วงอายุที่สวยงามที่สุดมาแล้ว แต่ซูเฉินเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง ความห่างระยะเวลาห้าปีตรงกลางนั้น จะบอกว่านานก็นาน จะบอกว่าสั้นก็สั้น
ผ่านไปอีกสองปี เธออาจจะมีความดึงดูดต่อซูเฉินอยู่ แต่ถ้าหลังจากนั้นอีกสี่ปี หรือหกปี หลังจากที่ซูเฉินเห็นเธอแล้ว จะรู้สึกเบื่อหน่ายหรือเปล่า และถึงตอนนั้นตอนที่เขาได้เจอผู้หญิงคนอื่น เขาจะเปลี่ยนไปต่อสู้เพื่อคนอื่นหรือเปล่า?
"ผมชอบคุณ ก็คือชอบที่คุณเป็นคุณคนนี้ อี้อี้ ถ้าคุณไม่อยากมีอะไรกับผม....ก็ไม่เป็นไร แค่คุณจูบผมบ้างก็พอแล้ว" หลังจากที่ซูเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ยิ้มและพูดออกมา
เขาพูดอีกว่า "ผมชอบความรู้สึกที่ได้อยู่กับคุณ ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่ได้ดมกลิ่นหอมๆของคุณ ก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้แล้ว"
"ผมไม่แตะต้องคุณก็ได้ แค่นั่งบนโซฟาด้วยกัน....ดูทีวีไปพร้อมกับคุณ ได้ดูด้วยกันกับคุณ หัวใจผมก็เต้นรัวแล้ว"
"อี้อี้....ผมอยากจูบคุณ อยากกอดคุณ ไม่ใช่เป็นเพราะความปราถนาทางร่างกาย แต่เป็นเพราะผมชอบคุณ ก็เลยทำให้ผมหลงไหลคุณ ทำให้ผมจูบคุณ และลูบคลำคุณ..........."
"ผมอาจจะอธิบายได้ไม่ชัดเจน แต่เพียงแค่คุณยินยอม คุณพูดอะไรผมจะเชื่อฟังคุณทั้งหมด ผมจะเป็นลูกหมาให้คุณ"
หลิวอี้อี้ได้ยินคำพูดของซูเฉิน เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ตอนที่เธอกำลังคิดว่าลูกหมาหมายถึงอะไร ก็เห็นว่าซูเฉินแอบหันไปมองในห้องครัว
หลิวอี้อี้ได้ยินเสียงที่หยางถิงเก็บของเสร็จหมดแล้ว เธอก็เลยรีบหยิบมิชชูขึ้นมาเช็ดน้ำตา
ซูเฉินก็เงียบลง เขาไม่ได้คำตอบจากหลิวอี้อี้ รู้สึกใจคอเหี่ยวแห้ง แต่เมื่อเห็นท่าทางซาบซึ้งใจของหลิวอี้อี้ เขาก็รู้สึกว่าไม่ใช่จะไม่มีโอกาสเลย
"กำลังคุยอะไรกันอยู่หน่ะ พอฉันมาก็เงียบกันหมด?" ในมือของหยางถิงถือจานมะม่วงที่ปอกเสร็จแล้วมาด้วย เธอพูดว่า " มากินมะม่วงกันสิ"
"อืม" ซูเฉินยิ้ม และรีบหยิบมะม่วงมาหนึ่งชิ้น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ส่งให้หยางถิง และพูดว่า " พี่ถิงถิงล้างจานมาเหน็ดเหนื่อย พี่กินก่อน"
"น่ารักมาก" หยางถิงยิ้มเบาๆ และยื่นมือไปรับ
ซูเฉินหยิบขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้นและยื่นให้หลิวอี้อี้ พูดว่า " พี่สะใภ้"
หลิวอี้อี้ไม่ได้โทษเขาที่ไม่หยิบให้ตัวเองก่อน เธอรู้ว่าซูเฉินตั้งใจเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้หยางถิงถามต่อ เธอก็เลยรับมะม่วงจากซูเฉิน และกินเข้าไป
ส่วนซูเฉิน เขายังสับสนกับท่าทางของหลิวอี้อี้ ก็เลยไม่มีความอยากกิน
..........................
ทั้งสามคนนั่งดูหนังบนโซฟา ต่อมาโทรศัพท์ของซูเฉินก็ดังขึ้น จ้าวซีโทรมา
ซูเฉินในตอนนี้ไม่มีอารมณ์ เมื่อได้ยินจ้าวซีถามว่าเมื่อไหร่จะกลับมาที่มหาวิทยาลัย ซูเฉินก็เลยโกหกว่า "พี่สะใภ้ของฉันได้รับบาดเจ็บ บังเอิญที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้บอกให้ฉันกลับไป ฉันก็เลยจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลพี่สะใภ้ก่อน"
"งั้นนายจะกลับมาตอนไหนหล่ะ?" จ้าวซีพูดด้วยความเป็นห่วงว่า " ฉันเห็นใบหน้าของหวังฟานมีแผลด้วย นายไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย?"
"ไม่เป็นอะไร" หลังจากที่ซูเฉินตอบกลับไปอย่างนิ่งๆแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงจ้าวซีสะอื้นเบาๆ เขาก็เลยรู้ตัวว่าน้ำเสียงของตัวเองเย็นชาเกินไป เขาก็เลยลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง ปิดประตู และค่อยๆพูดปลอบใจจ้าวซี
หลังจากที่ซูเฉินออกไปแล้ว หยางถิงก็หันไปมองแผ่นหลังของเขา และพูดว่า " เด็กคนนี้มีเสน่ห์ไม่เบานะ ดูสิทำเอาสาวน้อยหลงน่าดู"
พูดจบ หยางถิงก็หันไปมองหลิวอี้อี้ เพื่อรอคำตอบจากเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก