"พอแล้ว หยุดก่อกวนได้แล้ว ทั้งจูบทั้งหอมจนแก้มเต็มไปด้วยน้ำซุปบะหมี่หมดแล้ว" หลิวอี้อี้ทนไม่ไหวเอามือมาปิดหน้าตัวเอง
ซูเฉินก้เพิ่งนึกขึ้นได้ในตอนนี้ ว่าเมื่อกี้ตัวเองกินบะหมี่อยู่ยังไม่ทันได้เช็ดปากก็มาหอมหลิวอี้อี้แล้ว เขาก็เลยยิ้มด้วยความอาย และพูดว่า "ผมไปบ้วนปากก่อน"
"กินข้าวก่อน ตกลงก็เรื่องของตกลง แต่พี่ยังมีเรื่องจะคุยกับนายอีก" หลิวอี้อี้ปรับสภาพจิตใจ และพูดด้วยความจริงจัง
"หา?" ซูเฉินรู้สึกเหมือนจะมีอะไรไม่ค่อยดี แต่ก็กลัวว่าเพิ่งจะได้สร้างความสัมพันธ์กัน เขาก็เลยนั่งลงอย่างเชื่อฟัง เพราะกลัวว่าหลิวอี้อี้จะเปลี่ยนใจ
"เห่อ เห่อ" หลิวอี้อี้เห็นว่าซูเฉินนั่งตั้งใจฟัง เธอก็เลยหัวเราะ และพูดต่อว่า " ก่อนอื่น ถ้าพี่ไม่ยินยอม มือไม้นายห้ามทำอะไรมั่วๆเด็ดขาด ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เข้าใจมั้ย?"
"เข้าใจครับ" ซูเฉินดีใจ คิดว่า ยังมีโอกาสอยู่!
เมื่อวานหลิวอี้อี้พูดว่าจะไม่มีอะไรกับซูเฉิน แต่วันนี้พูดว่าต้องให้หลิวอี้อี้ยินยอมถึงจะทำได้ นี่ถึงแม้จะมีความแตกต่างกันอยู่ไม่กี่คำ แต่ท่าทางที่พูดต่างกันมาก
"อีกอย่าง ความสัมพันธ์ของพวกเราต้องปิดเป็นความลับไว้ก่อน พี่...ถ้าพี่ไม่พูด นายห้ามบอกใครเด็ดขาด " หลิวอี้อี้พูดต่อ
เธอตอบตกลงเพราะโดนคำพูดของซูเฉินบีบบังคับ แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะต้องไปเผชิญหน้ากับคนอื่นๆอย่างไร
"งั้นบอกพี่ถิงถิงได้มั้ย?" ซูเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และถามออกไป
"ไม่ได้.....หยางถิง เดี๋ยวต่อไปพี่จะบอกกับเธอด้วยตัวพี่เอง จำไว้ ตอนนี้ห้ามบอกใครเด็ดขาด " หลิวอี้อี้พูด
ตอนนี้คนที่อยู่ข้างๆหลิวอี้อี้ก็มีแค่หยางถิงคนเดียว ครอบครัวของเธออยู่อีกเมืองกันหมด ส่วนครอบครัวของซูเฉินและซูเจิ้งก็อยู่ที่บ้านเกิดของพวกเขา ที่หลิวอี้อี้เสนอข้อเรียกร้องนี้ ก็เพราะกลัวว่าหยางถิงจะแกล้งตัวเอง ก็เลยตั้งใจว่ายังไม่บอกหยางถิงก่อน
แต่ซูเฉินไม่ได้ติดแบบนี้ พูดตรงๆ เขามีความสามารถในการควบคุมตัวเองต่ำ ถ้าไม่บอกเรื่องนี้กับหยางถิงล่ะก็ งั้นต่อไปเวลาที่หยางถิงอยู่กับเขาเพียงลำพัง เธอต้องยั่วยวนตัวเขาแน่นอน....
เมื่อคิดแบบนี้ ซูเฉินก็เริ่มลุกลี่ลุกลน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบหยางถิง แต่ตอนนี้หยางถิงพักด้วยกันกับหลิวอี้อี้ เกิดวันนี้โดนจับได้ขึ้นมา ก็ซวยกันหมด..
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินก็รู้สึกเย็นวูบในใจ
"ตอนนี้ก็แค่สองข้อนี้" หลิวอี้อี้พูด และยื่นตะเกียบสาดอาดคู่ใหม่ให้ซูเฉิน และพูดว่า " รีบกินเถอะ กินข้าวเสร็จเดี๋ยวพี่ไปส่งที่มหาวิทยาลัย"
"หา?" ซูเฉินชะงัก เหมือนกับจะไม่ยินยอม
"เสียเวลาเรียนมาตั้งกี่วันแล้ว?" หลิวอี้อี้ขมวดคิ้วและพูดว่า " มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของมณฑลเราเลยนะ ถ้านายยังเป็นแบบนี้อยู่ ถ้าดร็อปเรียนต่อปจะไม่ได้ปริญญาบัตรนะ!"
"เอ่อ." ซูเฉินได้ยินหลิวอี้อี้พูดแบบนี้ เขาก็เลยไม่ได้โต้แย้ง
ชวงที่ผ่านมาเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวซีติวหนังสือให้เขาล่ะก็ วิชาเอกต่างๆเขาคงเรียนไม่ทันไปนานแล้ว ส่วนเรื่องดร็อปเรียน ซูเฉินไม่ได้กลัวเลย
การสอบของมหาวิทยาลัยค่อนข้างสบายๆ ถึงแม้จะเป็นมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงก็เถอะ จ้าวซีเรียนเก่งขนาดนั้น ถ้าถึงวันที่ซูเฉินสอบไม่ได้ จ้าวซีต้องช่วยเขาแน่ๆ...........
"ครับ" ซูเฉินพยักหน้า และพูดว่า อี้อี้ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปแล้ว ก็เหลือพี่เพียงคนเดียว แล้วจะทำอย่างไร?"
"พี่ยังมีเรื่องที่ต้องทำ รอให้ทำธุระเสร็จก่อน แล้วเสาร์อาทิตย์จะไปรับนายนะ" หลิวอี้อี้พูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก