จ้านอวี่หานลงจากรถที่จัตุรัสหน้าโรงพยาบาล จากนั้นคนขับก็เอารถเข้าไปจอดยังที่จอดรถชั้นใต้ดิน
หลินหยางที่อยู่ในอ้อมกอดหลับสนิทมาก ดวงหน้าเล็กที่เนียนนุ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ
น่ารักจนทำให้จ้านอวี่หานอยากจะแอบงับเขาเข้าให้สักทีอยู่ตลอดเวลา
ลูกชายของเขาที่อยู่ที่บ้านตระกูลจ้านก็อายุพอๆ กับหลินหยางเช่นกัน โดยมีถังหยงแม่ของเขาเป็นคนเลี้ยงให้
แต่นอกจากดูจากในรูปแล้ว จ้านอวี่หานก็ไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยคนนั้นจะน่ารักเหมือนกับเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาไหม
เมื่อถังหยงได้ข่าวว่าลูกชายของตัวเองมาถึงแล้วก็มารอเขาอยู่ที่ห้องโถงเพื่อต้อนรับ
เมื่อเห็นว่าลูกชายของเธอเดินเข้ามา กระบอกตาของเธอก็ร้อนผ่าวทันที “อวี่หาน ลำบากแย่เลย!”
“แม่” จ้านอวี่หานเอ่ยทักทาย
เขาอยู่ที่ต่างประเทศมาโดยตลอดและไม่ค่อยได้ติดต่อกับแม่ของเขาสักเท่าไหร่
เมื่อถังหยงสังเกตเห็นว่าลูกชายตัวเองกำลังอุ้มเด็กตัวน้อยอยู่ในอ้อมแขน จึงยื่นมือออกไปรับอย่างเป็นธรรมชาติและเอ่ยขึ้น “ยังไงลูกก็สำคัญสินะ ลูกกลับไปรับจ้านอี้ที่บ้านมาเหรอ?”
“เปล่านะครับ” จ้านอวี่หานส่งหลินหยางให้แม่เขาอุ้ม “เขาชื่อหลินหยางครับ ผมยังไม่ได้เจอจ้านอี้เลย”
“หลินหยาง?” ถังหยงมุ่นคิ้ว ข้างบนก็มีหลินซิงอยู่คนหนึ่งแล้ว แล้วนี่ยังมีหลินหยางเพิ่มมาอีกคนอีกเหรอ?
แถมเด็กทั้งสองคนนี้ยังหน้าตาเหมือนกันมากอีก หรือว่า…
ถังหยงรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาทันที “ลูกใคร?”
“เห็นบอกว่าแม่ชื่อหลินซวง”
หลินซวงอีกแล้วเหรอ?
ถังหยงขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิม หญิงกาลกินีคนนั้นชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วเมืองตี้จิงเลยนะ!
แต่เจ้าหนูน้อยในอ้อมกอดคนนี้ช่างน่ารักเสียจริง!
ผิวนุ่มๆ ทั้งยังขาวละมุน แค่ได้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเธอ ถังหยงก็รู้สึกยอมแพ้แล้ว
ถ้าหลินซิงกับหลินหยางเป็นหลานของเธอก็คนจะดีไม่น้อย
“ลูกมีลูกกับหลินซวงจริงๆ เหรอ?” ถังหยงเงยหน้าขึ้นมองลูกชายตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ผู้หญิงที่ผมเคยมีอะไรด้วยมีแค่คนเดียว” จ้านอวี่หานเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “เมื่อสองวันนั้นที่กลับมารับมอบหน้าที่จากตระกูลจ้านตอนห้าปีก่อน”
“แต่พวกเขาหน้าเหมือนลูกมากเลย” เดิมทีถังหยงอยากจะบอกให้เขาไปตรวจดีเอ็นเอซะ แต่เมื่อคิดไปคิดมา ลูกชายของตัวเองไม่มีทางโกหกเธอ ในเมื่อเขาบอกว่าผู้หญิงที่เขาเคยมีอะไรด้วยมีแค่คนเดียว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นเยี่ยชิงชิงอย่างไม่ต้องสงสัย
น่าเสียดายที่จ้านอวี่หานรู้สึกสะอิดสะเอียนที่เยี่ยชิงชิงคิดวางแผนจับเขา ถึงแม้เธอจะให้กำเนิดจ้านอี้ออกมา แต่เขาก็ไม่ยอมรับเธออยู่ดี
ดังนั้นจึงยังไม่ยอมจัดงานแต่งงานสักที
ทุกคนพากันขึ้นไปยังชั้นบน และเมื่อจ้านอวี่หานเข้าไปเยี่ยมปู่ของเขาก็พบว่าอาการของชายชราไม่สู้ดีนัก
จ้านอวี่หานเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยด้วยสีหน้าเศร้าสลด
“ไม่ต้องห่วง” ถังหยงอุ้มไท่หยางที่ตัวหนักอึ้งไว้ในอ้อมกอด “พ่อลูกเขาให้คนติดต่อยอดฝีมือซิ่งหลินไปแล้วล่ะ ทางโน้นรับปากแล้วว่าจะมารักษาให้ปู่ลูกพรุ่งนี้”
“งั้นก็ดีเลยครับ” จ้านอวี่หานคลึงหัวคิ้ว “ยอดฝีมือสร้างปาฏิหาริย์มาหลายครั้งแล้ว ปู่น่าจะมีทางรอดแล้ว”
“งั้นเรากลับบ้านไปพักกันก่อนเถอะ นั่งเครื่องมาตั้งนาน ลูกเองก็เหนื่อยแล้ว”
“ครับ!” จ้านอวี่หานเองก็เหนื่อยแล้วจริงๆ นั่นแหละ
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องพักที่อยู่ตรงหน้าก็เปิดออก หลินซิงเอ่ยออกมาเสียงหวาน “ทั้งหล่อทั้งมีเสน่ห์ขนาดนี้ คุณต้องเป็นแด๊ดดี้แน่ๆ”
“จ้านอี้?” จ้านอวี่หานขมวดคิ้ว “หนูมาได้ไงครับ? ไม่ได้ไปเรียนเหรอ?”
“นี่ไม่ใช้จ้านอี้นะ!” ถังหยงเอ่ยอย่างลำบากใจเล็กน้อย “ซิงซิงต่างหาก หลินซิง!”
“หลินซิง? ลูกใครครับ?” จ้านอวี่หานรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันที เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“หลินซวง”
“…” จ้านอวี่หานสำลักลมหายใจตัวเองทันที ไท่หยางที่ตัวเองอุ้มกลับมาก็คนหนึ่งแล้ว ที่นี่ยังมีซิงซิงที่รอเขาอยู่อีกคนเหรอเนี่ย?
พระเจ้า หลินซวง ยัยผู้หญิงบ้านั่นกำลังเล่นลูกไม้อะไรของเธอ!
จ้านอวี่หานรู้สึกปวดหัวมาก แต่เด็กชายตัวน้อยตรงหน้าที่กำลังกะพริบตาโตๆ ที่มีประกายความฉลาดล้ำพร้อมกับมองมาที่ตัวเอง และดวงหน้าเล็กน่ารักนั้นที่เต็มไปด้วยความคาดหวังกับ ‘แด๊ดดี้’ นั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดสี่บันดาลรัก
ยังรออยู่นะคะ จุ้บๆ...
รออ่านตอนต่อไปนะคะ...