วันหนึ่งได้ทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่าง เพื่อช่วยชีวิตปู่ เธอยอมคุกเข่าต่อหน้าเขา และก้มลงกราบแบบที่เขาต้องการ
"ช่วยปู่ฉันด้วย ช่วยท่านด้วยนะ" น้ำตาของหญิงสาวเอ่อล้นออกมา เพราะตอนนี้เห็นมีแต่เขาที่ช่วยได้
"พามันไปโรงพยาบาล" มาเฟียหนุ่มสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหน้า โดยไม่ก้มลงไปดูผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่แทบเท้าเขาเลยแม้แต่น้อย
ลูกน้องของเขาก็ไม่รอช้า รีบเข้ามาอุ้มร่างของชายชราเดินไปที่รถ
วันหนึ่งรีบวิ่งตามไป เธอกำลังจะขึ้นรถคันนั้น แต่ถูกชายหนุ่มกระชากแขนของเธอกลับมา
"คุณจะเอายังไงอีก ปล่อยฉันนะฉันจะไปกับปู่"
"จะไปเกะกะเขาทำไม เดี๋ยวก็ไปร้องไห้ฟูมฟาย" ความคิดของชายหนุ่มตอนนี้ คือลูกน้องของเขาต้องพาปู่เธอไปถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด และมันก็คงจะอันตรายมากในการขับรถถ้าปล่อยให้เธอไปด้วย เขากลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
"งื้ออ ปล่อยนะ!!" วันหนึ่งรัวกำปั้นเข้าที่แผ่นอกหนา เพราะตอนนี้เธอคิดว่าเขาจะกีดกันเธอออกจากปู่
"ไปขึ้นรถอีกคัน" มาเฟียหนุ่มกระชากแขนหญิงสาวให้เดินตามมา
"แม่ไปด้วย" ผกากรองรีบเดินตามหลังลูกสาวไปแต่ก็ถูก...
"ไม่ต้อง" พอมาเฟียหนุ่มสั่งแบบนั้นผกากรองถึงกับหยุด ไม่กล้าก้าวเดินตามไปขึ้นรถ
แต่ตอนนี้วันหนึ่งไม่สนใจแล้ว เธอรีบเดินไปขึ้นรถคันที่เขาจะพาเธอตามอีกคันไป
เพียงไม่นาน รถของเขาก็มาถึงโรงพยาบาล
"เป็นไงบ้าง"
"ถูกส่งเข้าห้องไอซียูครับ" ลูกน้องของเขาคนที่พาปู่ของเธอมาก่อนหน้านั้นรายงานผู้เป็นนาย
"คุณพยาบาลคะ ปู่ฉันเป็นยังไงบ้าง" วันหนึ่งไม่สอบถามจากพวกของเขา เธอรีบตรงไปหาพยาบาลที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า
"คนไข้ชื่ออะไรคะ"
"ทวีทรัพย์ ทรัพย์ไพศาลค่ะ" ที่เธอต้องแจ้งชื่อนามสกุลใหม่ ก็เพราะว่า โรงพยาบาลนี้ ไม่ใช่โรงพยาบาลที่เธอพาปู่ไปรักษา และโรงพยาบาลนี้ขึ้นชื่อว่าค่ารักษาแพงมาก
"ตอนนี้คุณหมอกำลังพยายามช่วยชีวิตคนไข้อยู่ค่ะ ญาติรอข้างนอกก่อน เดี๋ยวถ้ามีอะไรคืบหน้าทางเราจะแจ้งให้ทราบอีกที"
วันหนึ่งถึงกับนั่งไม่ติดที่เธอเดินไปแล้วก็เดินมา สายตาของหญิงสาวมองไปที่ประตูนั้น ตอนนี้เธอลืมความเจ็บปวดที่ได้รับ ถึงแม้ว่ามันยังเจ็บอยู่มาก แต่เธอเป็นห่วงปู่ของเธอมากกว่า
"นายจะกลับก่อนไหมครับ เดี๋ยวทางนี้พวกผมจะดูแลเอง" ขอนไม้เดินมาถามผู้เป็นนาย ที่กำลังยืนพิงผนังหน้าห้องไอซียู สายตาของเขาให้ความสนใจแต่ผู้หญิง ที่กำลังเดินไปเดินมาอยู่นั้น
"ไปบอกเธอให้นั่งสิ ฉันเวียนหัว"
"อะไรนะครับ?" ขอนไม้มองตามสายตาของผู้เป็นนายไป เขารู้ดีว่านายของเขาไม่ได้เวียนหัวหรอก ถ้าเวียนคงจะมองไปทางอื่นแล้ว แต่นี่ดูท่าทางว่า..จะเป็นห่วงมากกว่า
"เชิญคุณวันหนึ่งนั่งก่อนครับ เจ้านายของผมเวียนหัว" แต่ขอนไม้ก็เดินมาพูดตามที่นายสั่ง
เธอคิดว่าเขาคงจะเวียนหัวจริง หญิงสาวก็เลยเดินไปนั่งลง แต่เพียงไม่นานหมอก็ออกมาจากห้องนั้น
"ฉันขอคุยกับเจ้านายของคุณหน่อยได้ไหมคะ"
ลูกน้องหันไปดูหน้าของผู้เป็นนายนิดนึง ว่าจะยอมคุยกับเธอไหม
แล้วลูกน้องของเขาก็หลีกทางให้ เหมือนกับพวกเขาจะรู้กัน เพราะไม่เห็นลูกพี่ไม่เอ่ยปากสักคำ แต่เขาก็หลบทาง
"ฉันยังพอมีอะไรจะขายให้คุณได้อีกไหม" คำแรกที่หญิงสาวพูดกับเขา ดวงตางามคู่นั้นบดบังไปด้วยม่านน้ำตาที่มันเอ่อล้นออกมา
เขาไม่พูดอะไรสักคำ ใบหน้าของเขานิ่งมาก ดวงตาของเขา มันไม่ได้สื่ออะไรออกมาเลย
แค่นี้วันหนึ่งก็รู้แล้วว่าเขาคงจะไม่ช่วยเธอ ถ้าเป็นเธอก็คงจะไม่ช่วย เพราะตอนนี้เธอรู้ความจริงหมดแล้วว่า ปู่ของเธอได้ทำอะไรกับครอบครัวของเขาไว้บ้าง มันไม่แปลกหรอกที่เขาจะไม่ช่วย
หญิงสาวหันหลังให้เขาทันที
"พูดแค่สิบสามคำเนี่ยนะ แลกกับเงินค่าผ่าตัดตั้งหลายล้าน" คำพูดของเขาเมื่อเห็นเธอหันหลังให้ เพราะดูเหมือนว่า เธอจะถอดใจ
"สิบสามคำหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวรีบหันหน้ากลับไปหาเขาใหม่อีกครั้ง
เธอคิดดูอีกทีสิบสามคำคงจะเป็นคำที่เธอพูดกับเขามาเมื่อกี้ ดวงตากลมโตเริ่มจะส่องประกายขึ้นมาอีกครั้ง
"คุณจะให้ฉันพูดอะไรคุณบอกมาได้เลย ฉันพูดได้ทุกอย่าง คุณอยากจะฟังเพลงไหม ฉันจะร้องให้ฟัง ฉันร้องเพราะนะ" ตอนนี้หญิงสาวพูดยิ่งกว่าต่อยหอย เพราะถ้าเขาอยากจะฟังที่เธอพูดเยอะกว่านี้ เธอก็จะพูด ขอแค่ให้เขาช่วยค่าผ่าตัดของปู่
"หึ..จะร้องเพลงหน้าห้องไอซียูเนี่ยนะ" มาเฟียหนุ่มถึงกับขำความคิดของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นนพิศวาส