แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 104

บทที่ 104 นายคงไม่ใช่ว่าสมองเพี้ยนไปแล้วใช่ไหม

นรมนกลับรู้สึกอยากไล่อยู่บ้าง

“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนาย”

นรมนไม่อยากที่จะไปสนใจบุริศร์ ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะเล่าเรื่องที่ค่อนข้างซึ้งใจ แต่ว่าคนนั้นก็ไม่ใช่เขา เธอมีสิทธิ์อะไรออกไปกับเขา

บุริศร์แถบไม่ให้เธอได้พูดก็จับแขนของนรมน ลุกขึ้นและเดิน

“เฮ้ๆๆๆ บุริศร์ นายเป็นโจรหรือไง? ฉันยังกินข้าวไม่เสร็จ”

กำลังของนรมนไม่เท่าบุริศร์ ที่สำคัญในตอนนี้เธอดันนึกถึงบาดแผลของบุริศร์ขึ้นได้

หากว่าใช้กำลัง ปากแผลของเขาอาจเปิดขึ้นได้?

ช่วงระหว่างที่นรมนลังเล นรมนก็ถูกบุริศร์ลากออกไป

“บุริศร์ นายอย่าทำเกินไปนะ!”

ถึงแม้นรมนจะตะโกนโวยวายแต่ว่ามือที่ออกแรงกลับไม่ได้ใช้แรงมาก รู้สึกได้ถึงตรงนี้ ปากของบุริศร์ค่อยๆยกขึ้น

ผู้หญิงคนนี้ช่างปากแข็งใจอ่อน ใครบอกว่าเธอไม่จำวันเก่าๆกัน?

พฤกษ์เห็นบุริศร์ออกมา เดิมที่คิดที่จะรายงานผลการทำงาน แต่ว่ามองเห็นเขาลากแขนนรมนออกมา แถมยังมาพร้อมใบหน้าลูกพีชแบบนั้น พฤกษ์จึงถอนไปด้านหลังอย่างเงียบๆอีกครั้ง

นรมนมองเห็นพฤกษ์แล้ว รีบพูด “นายไม่ใช่มาหาบุริศร์เพราะมีเรื่องหรือไง? รีบพาเขาไป”

พฤกษ์ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน ยิ้มแล้วยิ้มอีก แล้วเดินถอยไป

นรมนรู้สึกว่าพฤกษ์นั่นช่างน่ารังเกียจ พูดง่ายๆก็เหมือนกับบุริศร์ไม่มีผิด!

บุริศร์กลับรู้สึกดีใจอยู่บ้าง เดินพานรมนไปที่ทะเล

ลมทะเลค่อนข้างแรง บุริศร์ถอดเสื้อนอกของตัวเองคลุมให้นรมน

นรมนกำลังคิดที่จะเอาออก ก็ได้ยินเสียงบุริศร์พูด “ไม่อยากให้ฉันออกแรง อยู่นิ่งๆเป็นดีที่สุด”

“ทั้งหมด พูดเหมือนกับว่าตอนนี้มีแรงมาขัดขืน และก็ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ก่อนหน้านี้เหมือนคนป่วยนอนรอเลือดจากเด็กทั้งสองอยู่ที่ห้องผ่าตัด”

นรมนพูดจี้จุดอย่างไม่สนใจความรู้สึกบุริศร์

ตอนนี้บุริศร์รู้สึกว่าตัวเองไม่มีอารมณ์ใดใดต่อนรมน ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรก็เหมือนดาบ น่าเสียดายที่เขาชอบฟังที่เธอพูด

เขารู้สึกว่าตัวเองมีความซาดิสม์เล็กน้อย

ห้าปีก่อนนรมนดีต่อเขา อ่อนโยน เขากลับไม่ตระหนักถึงความรู้สึกที่มีต่อเธอ วันนี้เธอยิ่งต่อต้าน ยิ่งเย็นชา เขากลับยิ่งชอบอย่างมาก

ทันใดนั้นบุริศร์ก็ยิ้มขึ้น สำหรับนรมนนั้นค่อนข้างแปลกใจ

“นายคงไม่ใช่ว่าสมองเพี้ยนไปแล้วใช่ไหม?”

บุริศร์ยื่นอยู่ข้างนรมน มองดูทะเลพูดเสียงเบา “กิจจาเป็นลูกของน้องชายฉัน ฉันกับน้องชายเป็นฝาแฝด ปีนั้นเขมิกากลับมาหาฉัน บอกว่าท้องลูกของน้องชายฉันแถมน้องชายฉันก็สละชีวิตไปแล้ว เด็กคนนี้เป็นเด็กไร้พ่อ น่าเสียดายน้องชายคนนี้ของฉันไม่รู้ว่าตัวเองมีลูก ตอนที่เธอเห็นฉันกับเธอตรวจครรภ์อยู่ที่โรงพยาบาล ที่จริงคือกำลังพาเธอไปตรวจน้ำคร่ำ ฉันกับน้องชายฉันนั้นมีDNAที่เหมือนกัน หากว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของน้องชายฉันจริงๆ ผลตรวจจะต้องตรงกันแน่นอน”

นรมนแข็งทื่อไปทั้งตัว เธอเพียงมองไปที่บุริศร์อย่างโง่ๆ เวลานี้ในสมองขาวโผล่

“นายพูดเหลวไหล”

เธอตอบสนองกลับไปอย่างไม่คิด

นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!

“เขมิกาเป็นแฟนเก่านาย ทำไมถึงไปอยู่กลับน้องชายนายได้?”

บุริศร์รู้ว่าสิ่งนี้ยากที่จะทำให้นรมนเชื่อ แต่ว่าก็พูดอธิบาย

“ฉันก็แปลกใจ ดังนั้นจึงให้คนไปสืบ ตอนที่เขมิกาจากเมืองชลธีไป ก็ไปผ่อนคลายอยู่ที่ยูนนาน คิดไม่ถึงว่าจะบุกรุกเขตแดนพม่าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไปเห็นการแลกเปลี่ยนยาเสพติดด้วยตาตัวเอง ถูกตามไล่ฆ่าเธอวิ่งหนีออกมาจนได้พบกับน้องชายของฉัน ตอนนั้นเข้าใจว่าพบฉันจึงร้องขอความช่วยเหลือสุดชีวิต จนถึงตอนเรียกชื่อฉันออกไป น้องของฉันก็รู้ว่าเป็นเพื่อนของฉัน จึงช่วยเขมิกาไว้สองคนที่รู้จักกันจนรู้สึกดีต่อกัน ก็กลายเป็นอยู่ด้วยกัน”

บุริศร์พูดเรื่องพวกนี้จบ ก็มองนรมนและพูด “ก่อนหน้านี้ไม่บอกเรื่องพวกนี้กับเธอ เพราะไม่รู้จะเริ่มพูดเรื่องน้องชายฉันยังไง ที่จริงหลังจากเธอแต่งเข้ามาในตระกูลโตเล็ก ก็ไม่รู้ว่าน้องชายของฉันคนนี้ ถ้าอยู่ดีๆมาพูดให้เธอฟัง เธอก็คงไม่อาจเชื่อได้ อีกอย่างตอนที่เขมิกากลับมาก็มาพร้อมข่าวการตายของน้องชายฉัน ตอนนั้นใจของฉันเจ็บปวดอย่างมาก แน่นอนว่าไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของเธอ ความคิดของฉันในตอนนั้นเพียงแค่อยากมั่นใจว่าที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงไหม และลูกในท้องของเธอแท้ที่จริงเป็นของน้องชายฉันไหม หากว่าใช่ นั้นก็เป็นลูกของตระกูลโตเล็ก ไม่ว่ายังไง ฉันก็ไม่มีทางให้ลูกของน้องชายฉันไปอยู่ข้างนอก แถมตอนนั้นข้อแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวของเขมิกาคือการเข้ามาอยู่ในบ้านเก่าในตระกูลโตเล็ก เธอบอกว่าถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไรในนั้น เธอก็อยากให้ลูกของน้องชายฉันเกิดในตระกูลโตเล็ก นี่เป็นความหวังเดียวก่อนตายของน้องชายฉัน ดังนั้นฉันทำได้แค่ตกลง เพียงแต่ว่ายังไม่ทันได้อธิบายให้เธอฟังและก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะอธิบายให้เธอฟังยังไง ตอนนั้นเธอกลับท้องแล้ว”

“ความสัมพันธ์ของเธอกับเขมิกาฉันเข้าใจชัดเจน ปีนั้นถึงแม้เขมิกาจะออกจากเมืองชลธี แถมหลังจากนั้นก็ไปอยู่กับน้องชายฉัน แต่ว่าฉันไม่กล้ารับประกันว่าหลังจากที่เขมิกามาอยู่ที่ตระกูลโตเล็กจะคิดไม่ดีกับเธอไหม อีกอย่างในท้องของเธอยังท้องลูกของฉัน หากว่าเขมิกาอยากได้มรดกของตระกูลโตเล็ก แน่นอนว่าต้องลงมือบางอย่างกับเธอ ฉันก็คิดอยู่นานถึงได้ตัดสินใจเรื่องส่งเธอไปต่างประเทศเพื่อบำรุงครรภ์ เดิมทีแม่ของฉันก็อยู่ที่ต่างประเทศ ฉันวางแผนส่งเธอไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ สองคนคอยช่วยดูแลกัน แต่ว่าสิ่งที่ฉันคิดไม่ถึงก็คือ ระหว่างทางเธอจะเกิดเรื่อง”

บุริศร์พูดมาตั้งมากมาย สมองของนรมนทั้งหมดนรมนต่างว่างเปล่า

เธอไม่รู้ว่าควรไม่ควรเชื่อบุริศร์ แต่ว่าทำไมบุริศร์ต้องอธิบายให้เธอฟังครั้งแล้วครั้งเล่าล่ะ?

เธอนอกจากเป็นนักออกแบบของบริษัทHJกรู๊ปจำกัด บุริศร์ยังมีความคิดใดกับเธออีก?

รวมถึงจุดประสงค์ของการกลับมาของเธอ นอกจากรเมศก็ไม่มีใครรู้แล้ว เธอไม่คิดว่ารเมศจะขายเธอ ถ้าอย่างนั้นทำไมบุริศร์ถึงพยายามให้เธอกลับไปล่ะ?

หรือว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิดหรือ?

นรมนรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถรับได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย