บทที่ 105 มีเธอก็เพียงพอแล้ว
“รีบกลับเมืองชลธี!”
บุริศร์ตัดสินใจทันที
พฤกษ์ไม่ได้รู้ว่าบุริศร์นั้นบาดเจ็บ หลังจากได้ยินคำสั่งของบุริศร์ ก็รีบจัดการจองตั๋วกลับเมืองชลธี
หลังจากที่นรมนได้ยินข่าวพอดีกลับที่กำลังออกมา เธอยังมีข้อสงสัยที่อยากจะถามต่อหน้าบุริศร์ กลับพบกานต์เดินมาอย่างหนักใจ
“เป็นอะไร? กานต์? ทะเลาะกับกิจจาหรือ?”
สิ่งที่เธอสามารถคิดได้มีเพียงปัญหานี้ แถมเขาก็ไม่คิดว่ากิจจาสามารถที่จะรังแกกานต์ได้
กานต์มองไปที่นรมน ถามอย่างสงสัย “ หม่ามี๊มีพ่อแม่ไหม? ผมมีคุณตาคุณยายไหม?”
“ทำไมถึงถามแบบนั้น?”
นรมนรู้สึกปวดใจไม่น้อย
ห้าปีมานี้เธอไม่ได้เคยพูดถึงพ่อแม่ให้ลูกฟัง ไม่ใช่ไม่ยากพูดแต่แค่ไม่รู้จะพูดยังไง อีกอย่างอาการของกมลห้าปีมานี้ทำให้เธอเหนื่อย น้อยนักที่เธอจะมีโอกาสพูดถึงพ่อแม่ตัวเอง แต่ตอนนี้กานต์อยู่ดีดีกลับถามเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้นรมนรู้สึกแปลกใจ
“ลูกใช่ไม่ใช่ไปได้ยินอะไรมา?”
“อืม เมื่อกี้ผมได้ยินผู้ช่วยของบุริศร์พูดกับเขาว่า พ่อแม่ของคุณนรมนมีเรื่องรีบร้อนต้องไปต่างประเทศ แต่เหมือนเรื่องจะมีบางอย่างผิดปกติ คุณนรมนคือ หม่ามี๊หรือเปล่า?”
กานต์นำเรื่องที่เมื่อกี้แอบฟังมาบอกกับนรมน
นรมนรู้สึกสับสนทันที
“ลูกได้ยินผู้ช่วยของบุริศร์พูดอย่างนั่นกลับหูจริงๆ?”
“อืม”
กานต์เห็นนรมนตื่นตระหนกขึ้นมา ก็มั่นใจไม่น้อยว่าคุณนรมนคนนั้นคงจะเป็นนรมน
“หม่ามี๊ไม่ต้องรีบร้อน บุริศร์เพิ่งกำลังเตรียมกลับยังไม่ได้ไป หม่ามี๊สามารถกลับไปพร้อมกับเขาได้ ผมจะอยู่ที่นี้ดูแลตัวเองอย่างดี หม่ามี๊ไม่ต้องเป็นห่วงผม”
กานต์ปลอบนรมนอย่างรู้เรื่องรู้ราว
นรมนรู้สึกว่าสวรรค์มอบลูกชายคนนี้เป็นของขวัญให้เธอ ในเวลานี้เธอควรที่จะดูแลกานต์หรือเปล่า? แต่ว่าหากว่าพ่อแม่เกิดเรื่องขึ้นจริง เธอไม่สามารถที่จะนั่งมองโดยไม่สนใจได้
“กานต์ อยู่ที่นี้ให้ดีรู้ไหม? ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ลูกก็ไปหาครูแชมป์ เขาจะปกป้องลูก ยังมีอีกอย่างดูแลกิจจาดีดี”
ถึงแม้นรมนไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่บุริศร์พูด แต่หากว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงล่ะ?
หากว่ากิจจาเป็นลูกชายของน้องชายเขาที่เสียไป อย่างนั้นเธอก็ไม่ควรไปทะเลาะกับเด็กคนหนึ่ง อีกอย่างกานต์ก็ดีกับเขาจริงๆ
กานต์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังคงพยักหน้า
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ ผมจะคอลวิดีโอกับน้องทุกวัน หม่ามี๊วางใจเถอะ”
“เด็กดี!”
นรมนรู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าที่จะล่าช้าต่อไป หากว่าบุริศร์ไปแล้วขึ้นมา เธอก็ไม่รู้จะจากที่นี้ไปอย่างไร
“ไปบอกน้าคมทิพย์ ว่าหม่ามี๊มีธุระจะต้องกลับไปก่อน ให้เธอไม่ต้องเป็นห่วง เข้าใจไหม?”
“อืม เข้าใจแล้ว แล้วเจอกันหม่ามี๊”
กานต์รู้สึกทนไม่ได้อยู่บ้าง กอดนรมนแน่นๆครั้งหนึ่ง
นรมนมองลูกชายอย่างทนไม่ได้ จุ๊บเขาไปครั้งหนึ่งและรีบจากไป
เธอต้องรีบไปตามบุริศร์
ตอนที่นรมนมาถึง พอดีกับบุริศร์ที่เตรียมพร้อมออกเดินทาง
“บุริศร์! นายรอก่อน!”
นรมนตะโกนเรียกอย่างรีบร้อน
บุริศร์ค่อยๆแข็งทื่อไปเล็กน้อย หันกลับไป ก็เห็นนรมนวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง
“เธอช้าๆหน่อย อย่าสะดุดล้ม!”
บุริศร์มองอย่างหวาดผวา
ในความทรงจำของเขา นรมนเป็นคนที่ไม่เก่งเรื่องกีฬามาตลอด วันนี้วิ่งแบบไม่คิดชีวิตแบบนั้น บ้าไปแล้วหรือไง?
เขาก้าวเท้าเดินไปทางนรมนอย่างไม่รู้ตัว
พฤกษ์เห็นบุริศร์แบบนั้นก็ไม่ได้ห้ามเขา
บุริศร์มาอยู่ข้างๆนรมน ตอนนี้นรมนวิ่งจนหอบแล้ว
“มีอะไรหรือ? อาลัยอาวรณ์ฉัน?”
หายากที่บุริศร์จะเริ่มพูดเรื่องตลก
นรมนกลับไม่มีกระจิตกระใจไปเล่นกับเขา เมื่อเธอจับคอเสื้อของบุริศร์ได้ก็ถามอย่างดุร้าย “ใช่หรือเปล่าที่พ่อแม่เกิดเรื่องขึ้น? ใช่หรือเปล่า?”
สีหน้าของบุริศร์เปลี่ยนไปไม่น้อย
พฤกษ์สูดหายใจเข้า คนด้านข้างอย่างแชมป์ก็รู้สึกตกใจ
“เฮ้เฮ้ นี่เป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าจับคอประธานบุริศร์”
“เธอนั่นไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...