บทที่ 136 ลูกเป็นลูกแท้ๆ ของฉันจริงไหม?
“แม่ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิด มีหลายเรื่องที่แม่ยังไม่เข้าใจ แม่รอผมมีเวลาก่อนจะอธิบายให้ฟังอย่างดี”
“อธิบายอะไรอีก แม่ไม่เข้าใจ ป้าโอดูแลลูกมาหลายปีแล้ว หรือป้าโอกล้าโกหกแม่เหรอ? ผู้หญิงที่เธอไม่ชอบ ลูกก็รีบเลิกให้แม่เร็วๆ ซะ แล้วแม่ได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นมีลูกด้วย? บุริศร์ ตระกูลโตเล็กของเราไม่ได้ขาดเงินหรอกนะ แต่แม่ไม่อยากเลี้ยงลูกให้คนอื่น กิจจาเป็นลูกของตรินท์ ยังไงก็ได้ ถ้าลูกเอาเด็กนามสกุลของคนอื่นเข้ามา แล้วจะแบ่งมรดกยังไง? ถ้าให้น้อย เขาก็จะบอกว่าพ่อเลี้ยงคนนี้ไม่ดี ให้เขามาก แม่ก็ไม่โอเค ยังไงแล้วก็ไม่ใช่ลูกของตระกูลโตเล็กเรา ไหนบอกแม่สิ อายุโตป่านนี้แล้ว ทำไมยังทำอะไรพล่อยๆไม่ไตร่ตรองอีก? แม่คิดว่าลูกฉลาดมาก แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? แม่ได้ยินป้าโอบอกว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาดูหลอกล่อด้วยเสน่ห์มากเลยใช่ไหม? แม่จะบอกลูกให้นะ จะแต่งงานต้องเลือกคนที่เหมาะสม เรื่องนี้ลูกต้องฟังแม่”
คุณแม่ของบุริศร์ไม่ให้โอกาสบุริศร์อ้าปากอธิบายเลย
บุริศร์ค่อนข้างปวดหัวนิดหน่อย
“แม่ กานต์เป็นลูกชายผม เป็นสายเลือดแท้ๆ ของตระกูลโตเล็ก ถ้าแม่ไม่เชื่อ ผมเอาผลทดสอบดีเอ็นเอให้แม่ดูก็ได้ แล้วแม่คิดว่าลูกชายแม่โง่จริงๆ เหรอ? ถ้าไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องกับผม ผมจะเสี่ยงชีวิตไหม? ป้าโอไม่รู้เรื่อง กานต์เพิ่งกลับมา ผมกลัวว่าจะมีคนวางแผนร้าย เลยไม่ได้เปิดเผยตัวตนชั่วคราว แคทเธอรีก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนนอกอย่างที่แม่พูด เรื่องพวกนี้ผมจะคุยกับแม่ในภายหลังโอเคไหม? แม่อย่าไปฟังป้าโอ ป้าโอมีปัญหากับเธอ”
“เฮ้อ นี่ยังไม่ทันเข้าบ้าน ลูกก็ปกป้องแล้วเหรอ? ป้าโอมีปัญหากับเธอเหรอ? ทุกอย่างที่ป้าโอทำมีเรื่องไหนบ้างที่ไม่หวังดีกับลูก? ลูกลองคิดดีๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ป้าโอคิดรอบคอบกว่าที่แม่แท้ๆ อีก บุริศร์อ่า หลายๆ เรื่องลูกเองน่ะก็ต้องให้คนนอกมองเข้ามาถึงจะมองทะลุปรุโปร่งกว่า เราเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้สังเกตการณ์ แน่นอนว่าชัดเจนกว่าลูกอยู่แล้ว เราพูดอะไรลูกต้องฟัง แม่ไม่ได้มองโลกในแง่ดีกับผู้หญิงคนไหนอยู่แล้ว แม้แต่ด่านป้าโอยังผ่านไปไม่ได้ ก็อย่าคิดว่าจะผ่านด่านแม่ไปได้ แล้วยังทำให้ลูกรับบาดเจ็บอีก ลูกของตระกูลโตเล็กของเรา ไม่จำเป็นต้องพยายามอย่างหนักขนาดนี้ สิ่งที่บรรพบุรุษเราทิ้งไว้ลูกใช้มันได้ไปสองสามชั่วอายุคน เสียสละเพื่อศรัทธาและความยุติธรรมให้แค่ตรินท์คนเดียว แม่มีลูกชายคนเดียว ลูกอย่าทำให้แม่กังวลอีกได้ไหม?”
คุณแม่ของบุริศร์ประโยคนี้พูดอย่างค่อนข้างหนักแน่น
บุริศร์ยังอยากพูดอะไร ทางนั้นก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น
“เอาล่ะ แม่มีธุระ ไม่คุยกับลูกแล้วนะ ลูกให้พฤกษ์ดูแลลูกให้ดี อีกสองวันแม่จะหาเวลาไป แม่จะกลับไปเยี่ยมลูก อีกอย่างแม่ได้ยินว่าลูกส่งป้าโอไปที่ชานเมืองเหรอ? มันเป็นความคิดของผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม? ลูกฟังแม่นะ ย้ายป้าโอกลับไปที่บ้านเก่าตระกูลโตเล็กซะ! ไม่งั้นแม่ไม่จบกับลูกแน่ ได้ยินไหม! เจ้าเด็กแสบ ปีกกล้าขาแข็ง เพื่อผู้หญิงคนเดียวแม้แต่แม่นมก็ไม่เอาแล้ว ทำอะไรพล่อยๆไม่ไตร่ตรองเลยจริงๆ”
คุณแม่ของบุริศร์พูดจบก็วางสายวิดีโอคอลไป การคุยครั้งนี้จบอย่างไม่มีความสุข
พฤกษ์ได้ยินอย่างชัดเจนจากข้างๆ ไม่พูดอะไร จริงๆ ตอนนี้เขาก็ให้คำแนะนำดีๆ อะไรไม่ออกเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าป้าโอเป็นคนเริ่มก่อน และไม่รู้ว่าคุยอะไรกับคุณแม่บ้าง ถึงบุริศร์จะบอกว่ากานต์คือหลานชายแท้ๆ ของเธอก็ไม่ทำให้เธอประทับใจเลย ไม่แม้แต่ถามสักประโยคเดียว
บุริศร์รู้สึกกลัดกลุ้มนิดหน่อย
แม่และแม่นมถ่วงแขนถ่วงขาแบบนี้ เขาไม่สามารถรับมือได้จริงๆ นรมนดันเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามาตลอดชีวิต กานต์ก็เป็นลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง แต่เอากลับไปที่ตระกูลไม่ได้ ในใจเขาเองก็ไม่สามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้
นึกถึงเรื่องทั้งหมดเมื่อห้าปีก่อน บุริศร์ก็ยิ่งปวดใจและรู้สึกผิด
“เรื่องนี้อย่าเพิ่งให้คุณนายรู้นะ ทางด้านคุณแม่เดี๋ยวฉันหาเวลาติดต่อเธอไปอีกครั้ง ส่วนป้าโอ ฉันต้องคุยกับเธอให้ดี”
บุริศร์ถอนหายใจ ดูเหมือนกังวลอยู่บ้าง
ว่ากันว่ามีผู้หญิงสามคนมาอยู่ร่วมกันแล้วจะวุ่นวาย ตอนนี้เขาสัมผัสมันแล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจ ครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยให้นรมนน้อยใจแม้แต่นิดเดียวเป็นอันขาด
พฤกษ์พยักหน้า รีบทำตามอย่างรวดเร็ว
นรมนพากานต์กลับมาช้ากว่ากำหนด
พฤกษ์เห็นพวกเขา ก็รีบยิ้มแล้วพูดขึ้น “คุณชายน้อยกานต์ ฉันซื้อปลาน้ำแดงที่คุณโปรดปรานที่สุดมาด้วย”
“อาพฤกษ์ใจดีมากเลย”
กานต์ยิ้มแล้วเดินไป กอดพฤกษ์อย่างเต็มที่ เห็นได้ชัดว่าเข้ากันได้ดีกับนรมน
ถึงแม้บุริศร์จะรู้สึกกลัดกลุ้มในใจ แต่เมื่อเห็นภรรยาและลูกแล้ว ก็อารมณ์ดีขึ้นมากเช่นกัน
“กานต์ แล้วพ่อไม่ใจดีเหรอ?”
กานต์มองบุริศร์เรียบๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่แววตาหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด บุริศร์เห็นแล้วก็ชอบใจ
เจ้าเด็กแสบคนนี้ยิ่งมองก็ยิ่งน่าดึงดูด แม้แต่ท่าทางหยิ่งแบบนี้ก็เท่!
มองบุริศร์จนพอใจแล้ว นรมนก็ส่ายหน้าพูดขึ้น “ตอนนี้ร่างกายคุณทนอะไรไม่ได้อีกแล้ว รีบกินข้าวซะ ทำให้ตัวเองดีขึ้น รอให้คุณหายดีก่อน คุณไปอเมริกากับฉันหน่อย”
“ไปทำอะไรที่อเมริกา?”
บุริศร์ได้ยินคำว่าอเมริกาก็เครียดเป็นพิเศษ เขาไม่ลืมว่าที่อเมริกายังมีศัตรูหัวใจอยู่
ตอนนี้รเมศแข่งกับเขาไม่ได้ เพราะอยู่ค่อนข้างห่างไกล และรเมศมีลูกสาวที่ป่วยอยู่ยื้อไว้ เขาไม่สามารถมาได้สักพักหนึ่ง
ตอนนี้ความรู้สึกของเขากับนรมนยังไม่มั่นคง ถ้าไปอเมริกาล่ะก็ ถ้ารเมศทำอะไรขึ้นมา เขาจะรับมือได้ไหม?
เห็นบุริศร์มีท่าทางเครียด นรมนก็ยิ้มพูดขึ้น “ไม่มีอะไร จะพาคุณไปเจอคนหนึ่ง ถ้าคนคนนี้ตกลงให้เราอยู่ด้วยกัน ฉันก็จะอยู่กับคุณ”
“อืม ฉันตกลง”
กานต์ก็รีบพยักหน้า
ถ้ากมลชอบบุริศร์มากพอ เพื่อน้องสาวกานต์ก็รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่มีอะไรต้องทะเลาะกับผู้ชายคนนี้ และตอนนี้รู้สึกว่าเขาดูน่าเชื่อถือมาก น่าจะมีคุณสมบัติในการเป็นแด๊ดดี้ของเขาและกมล
แต่บุริศร์กลับเข้าใจผิด คิดว่านรมนและกานต์อยากพาเขาไปให้รเมศดู
เมื่อไรกันที่เขาอยากได้ภรรยาและลูกตัวเองกลับมาแล้วต้องให้ศัตรูหัวใจเห็นด้วย?
แต่เห็นใบหน้าหนักแน่นของนรมนและกานต์ ก็นึกขึ้นได้ว่ากานต์เอาแต่พูดว่ารเมศดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ในใจบุริศร์ก็ไม่มีความสุข
แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่เต็มใจที่จะพ่ายแพ้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...