บทที่ 138 ไม่ใช่ให้เธอมาเสวยสุข
“ช่างเถอะ คุณอย่าเพิ่งพูดเลย”
สุดท้ายบุริศร์ก็ไม่สามารถทนต่อความวิตกทางจิตใจได้ ปฏิเสธคำตอบนรมนทันที
นรมนมองเขา ไม่รู้ว่าควรอธิบายเรื่องกมลกับเขาอย่างไรดี ไม่คิดว่าบุริศร์จะนึกถึงรเมศ เมื่อได้ยินว่าบุริศร์บอกไม่อยากฟังแล้ว เธอก็โล่งอก
เมื่อบุริศร์เห็นเธอโล่งใจ เขาก็อารมณ์หดหู่อีกครั้ง เดิมทีรู้สึกซุปไก่มันหวานเลี่ยนแต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันจืดชืดไร้รสชาติ
“ไม่กินแล้ว อิ่มแล้ว”
“คุณกินอีกสองคำสิ”
นรมนเห็นชามซุปในมือ ก็มองเขาอย่างหดหู่
“บาดเจ็บ กินอะไรก็เลี่ยน”
บุริศร์หาข้ออ้างที่ไม่ใช่ข้ออ้างในการหลีกเลี่ยง
นรมนมองออกว่าเขาไม่พอใจ แต่ตอนนี้ร่างกายบุริศร์ไม่ดี ถ้าบอกเขาเรื่องกมล เขาต้องรีบไปอเมริกาโดยไม่หยุดยั้งแน่ๆ ด้วยสภาพร่างกายเขาในตอนนี้ อย่าว่าแต่กมล กลัวว่าเขาจะล้มลงก่อนถึงอเมริกา
เห็นบุริศร์อารมณ์เสีย นรมนก็ไม่สนใจ เธอเทซุปลงในกระติกน้ำร้อน พูดขึ้นเรียบๆ “ถ้าคุณหิวก็ค่อยกินอีกที กระติกนี้มันช่วยให้อุ่น ไม่ทำให้เย็น ถึงจะบอกว่าเลี่ยนไปหน่อย แต่มันก็มีประโยชน์กับแผลคุณ ยังต้องกินนะ”
เห็นนรมนไม่อยากอธิบายความสัมพันธ์ของตัวเองกับรเมศสักนิด บุริศร์ก็ยิ่งอารมณ์เสีย
“ฉันเหนื่อยแล้ว อยากนอน”
“อืม นอนเถอะ ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ”
นรมนรู้ว่าเขาโวยวายเอาใจยาก และไม่ได้คิดเหมือนเขา จึงทำตามคำที่เขาบอก ซึ่งมันยิ่งทำให้บุริศร์กลัดกลุ้มมากขึ้นเรื่อยๆ
อยากทำหน้าไม่พอใจ แต่เห็นรอยคล้ำใต้ดวงตานรมน เขาก็หยุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร
“ขึ้นมา นอนด้วยกันสักพัก เห็นรอยคล้ำใต้ตาคุณ คนไม่รู้จักอาจจะคิดว่าฉันทำรุนแรงกับคุณ”
นรมนเห็นว่าทั้งๆ ที่บุริศร์หดหู่ใจแต่ก็เป็นห่วงตน ก็ยิ้มขึ้นมาทันที ในใจก็อบอุ่น
“ฉันพักผ่อนเตียงกานต์ดีกว่า คุณมีแผลอยู่ อย่าทรมานเลย อยากอยู่กับฉัน ก็รีบๆ ทำให้ตัวเองหายดีสิถึงจะเป็นเรื่องสำคัญ”
คำนี้มันทำร้ายบุริศร์อีกแล้ว
เขาล้มตัวลงนอนแล้วพลิกตัว หันหลังให้กับนรมน
เห็นการกระทำเขาเป็นเด็ก มุมปากนรมนก็ยกขึ้นเล็กน้อย ราวกับบุริศร์ห้าปีก่อนกลับมาอีกครั้ง ราวกับห้าปีไม่เคยเกิดขึ้น พวกเขายังเป็นพวกเขาในตอนนั้น
แต่เธอรู้ ว่าสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ค่อยเหมือนเดิม
พวกเขามีลูกแล้ว และมีความห่างเหินห้าปี
นรมนนอนบนเตียงกานต์เบาๆ เดิมทีคิดว่าจะนอนเงียบๆ สักพัก ไม่คิดว่าความเหนื่อยจะโจมตี เธอหลับไปก่อนเลย
บุริศร์ไม่ได้ยินเสียงนรมนเลย ทันใดนั้นเขาก็หันหน้ามาเห็นใบหน้าสงบนิ่งของนรมน
แตกต่างจากเมื่อห้าปีก่อน นรมนตอนนี้ชอบนอนขดตัว สองมือกอดอกตัวเองไว้แน่น ราวกับทำท่าป้องกันตัวเอง
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อห้าปีก่อน
หญิงสาวร่างบอบบางกำลังต่อสู้ดิ้นรน ขอความช่วยเหลือในเปลวไฟ สุดท้ายก็เริ่มกลายเป็นสิ้นหวังอย่างเต็มเปี่ยม ต้องป้องกันตัวเองด้วยการกอดอก ทันใดนั้นบุริศร์ก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจ
เขาลุกจากเตียงเงียบๆ เอาผ้านวมคลุมร่างนรมน จากนั้นก็จูบหน้าผากเธอเบาๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าลวกๆ แล้วออกจากห้องคนไข้ไป
บอดี้การ์ดหน้าประตูเมื่อเห็นบุริศร์ก็ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียง เห็นได้ชัดว่าฝึกฝนเป็นอย่างดี
“ปกป้องคุณนายให้ดี ถ้าเธอตื่นแล้วถามว่าฉันไปไหน ก็บอกว่าฉันกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้าสองสามชุด เดี๋ยวกลับมา”
“ครับ!”
บุริศร์สั่งแล้วก็ปิดประตูห้อง จากนั้นก็เดินออกมาจากโรงพยาบาลทหาร
ขณะที่เขามาถึงสถานีตำรวจ อธิบดีค่อนข้างประจบ รีบออกไปต้อนรับเขาเป็นการส่วนตัว
“ประธานบุริศร์ คุณมาได้ไง? มีอะไรคุณสั่งได้เลย เราจะต้องพายามอย่างเต็มที่แน่นอน”
ด้วยไมตรีจิตต่ออธิบดี บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร แค่พูดอย่างเย็นชา “เขมิกาอยู่ไหน?”
อธิบดีไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเขมิกาและบุริศร์ มีข่าวลือจากภายนอก แต่มีหนึ่งอย่างที่เป็นจริง นั่นก็คือเขมิกาให้กำเนิดทายาทของบุริศร์เมื่อห้าปีก่อน โดยอาศัยสิ่งนี้เพียงอย่างเดียว อธิบดีจึงไม่กล้าทรมานเขมิกามากเกินไป ถึงแม้พฤกษ์จะบอกว่าทำอย่างไรก็ได้ แต่อธิบดีไม่กล้าจริงๆ
ตอนนี้บุริศร์มาด้วยตัวเอง แถมยังถามถึงเขมิกา อธิบดีรู้สึกว่าตัวเองทำถูกแล้ว หนุ่มสาวคู่นี้คืนดีกันเหรอ?
บุริศร์ถึงได้มารับด้วยตัวเอง
คิดถึงตรงนี้แล้ว อธิบดีก็ยิ้มกว้างพูดขึ้น “คุณเขมิกาตั้งแต่มาที่นี่ก็อารมณ์ไม่ดีอยู่ตลอด ผมเตรียมห้องพักเดี่ยวให้เธอ ถึงอาหารจะไม่มากมาย แต่ก็อร่อย ประธานบุริศร์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ คุณเขมิกาไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่นี่”
เมื่อบุริศร์ได้ยินอธิบดีพูดแบบนี้ สีหน้าก็ขุ่นมัวลงทันที
“ฉันให้เธอมาเสวยสุขที่นี่เหรอ? นายถึงได้จัดเตรียมอย่างรอบคอบระมัดระวัง ฉันว่านายอย่าเรียกที่นี่ว่าสถานีตำรวจเลย เปลี่ยนเป็นโรงแรมเถอะ”
พูดจบเขาก็เดินเข้าไปด้านในอย่างโกรธเกรี้ยวนิดหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...