บทที่ 139 คุณอยากทำอะไรกับฉัน?
“บุริศร์ คุณกำลังพูดอะไร? คุณว่าฉันแบบนี้ได้ยังไง? ห้าปีมานี้ฉันตั้งอกตั้งใจทำเพื่อคุณกับกิจจา ฉันทำอะไรผิดกันแน่?”
ท่าทางเขมิกาในตอนนี้ทำให้บุริศร์เอือมระอาอย่างมากโดยทันที
เขาไม่เก่งทำอะไรกับผู้หญิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขมิกาในตอนนี้คงไม่พูดความจริงหากไม่ถูกฆ่า แทนที่จะเสียเวลากับเธอแบบนี้ สู้เปลี่ยนกลยุทธ์ดีกว่า
บุริศร์มองเขมิกาอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะให้คุณ เขมิกา แค่คุณพูดทุกอย่างที่คุณทำกับตระกูลโตเล็ก ฉันสัญญากับคุณว่าจะไม่ให้คุณติดคุก แต่ถ้าคุณทิ้งโอกาสครั้งนี้ไป ต่อไปคุณกับตระกูลโตเล็กก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีก แน่นอนว่าในความทรงจำของกิจจา คุณจะป่วยและตายจากไป”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ เขมิกาก็ตื่นตระหนกทันที
“คุณจะทำอะไรฉัน?”
“มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณจะพูดกับฉัน”
ความโหดร้ายของบุริศร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนทำลายภาพลวงตาอันน้อยนิดสุดท้ายของเขมิกา
“คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ! บุริศร์ ฉันใช้เวลาเยาว์วัยห้าปีช่วยคุณเลี้ยงลูก ช่วยทำทุกอย่างให้ตระกูลโตเล็ก คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง?”
บุริศร์มองเขมิกาที่โวยวายจะพุ่งเข้ามาหาตน รีบดึงผู้คุมด้านข้างมาขวางด้านหน้าตนไว้
เขมิกาไม่ได้ระวังตัว จึงกอดกับผู้คุมทันที
ผู้คุมยังเป็นเด็กหนุ่ม โดนเขมิกากอดแบบนี้ ก็หน้าแดงทันที รู้สึกทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อย
เขมิกาอับอายจนโกรธ
“นายเอาเปรียบฉันเหรอ? รนหาที่ตายหรือไง?”
เธอตบหน้าทันที
ผู้คุมไม่ได้ระวังตัว โดนตบหน้า และโกรธขึ้นมาจริงๆ
บุริศร์รู้สึกโชคดีที่ตนไม่ได้โดนเขมิกาสัมผัส ไม่อย่างนั้นเขาคงขยะแขยงไปหลายวัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสะอิดสะเอียนไปถึงนรมนหรือเปล่า คิดถึงตรงนี้ สีหน้าเขาก็ไม่พอใจอีกครั้ง
“ดูเหมือนคุณไม่รู้จักกลับใจนะ ที่นี่เป็นที่ที่ดี คุณลองคิดดีๆ แล้วกัน คิดได้แล้วก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ”
พูดจบ บุริศร์ออกไปโดยไม่มีความคิดถึงใดๆ และพูดกับอธิบดีข้างๆ “ที่นี่เล็กเกินไป เอาคุณเขมิกาขังไว้ที่ห้องสอบปากคำได้ ถ้าเธอไม่อธิบาย ก็ไม่อนุญาตให้เธอดื่มน้ำ และไม่อนุญาตให้เธอกินข้าว จนกว่าเธอจะพูด”
อธิบดีรีบพยักหน้า
เขมิกาแหลกสลายไปทั้งร่าง
“บุริศร์ คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ! กิจจายังเด็กอยู่ เขาแยกกับฉันที่เป็นแม่ไม่ได้! หรือคุณไม่กลัวเหรอว่าเขาจะเกลียดคุณเมื่อรู้ความจริง? คุณทำผิดกับตรินท์แล้ว ยังจะให้ลูกชายของเขาสูญเสียแม่แท้ๆ ไปอีกใช่ไหม? คุณจะให้ตรินท์ที่อยู่ข้างล่างมายังไง?”
เขมิกาต้องย้ายไปที่ตรินท์ที่เสียชีวิตไปแล้ว
ดวงตาบุริศร์เกร็งทันที เขารีบหันตัว ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า บีบคอเขมิกาเอาไว้ ดวงตานั้นแดงก่ำน่ากลัว
“คุณยังมีหน้าพูดถึงตรินท์เหรอ? ฉันจะบอกคุณให้ ถ้าคุณพูดถึงตรินท์อีกคำเดียว ฉันจะให้คุณลงไปอยู่กับเขาเลยเชื่อไหมล่ะ?”
บุริศร์ไม่มีท่าทางล้อเล่นสักนิด กลิ่นอายจิตสังหารแผ่ไปทั่วร่างทำให้อธิบดีและผู้คุมที่อยู่ข้างๆ ตกใจ
เขมิกากลัวทันที
เธอรู้สึกได้จริงๆ ว่าบุริศร์อยากให้เธอตายจริงๆ !
ความเกลียดชังในดวงตาเขารุนแรงขนาดนั้น มากจนเขมิกาสั่นไปทั้งร่าง
“บุริศร์ คุณ……”
“คุณคิดว่าฉันไม่รู้จริงๆ เหรอ? ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการตายของตรินท์? คุณไม่รู้สักนิดเลยเหรอ? ถ้าไม่เห็นแก่ที่คุณคลอดลูกชายของตรินท์ คุณคิดว่าคุณจะมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้เหรอ? การต่อสู้ห้าปีก่อนนั้น คุณได้ตายไปกับหัวหน้าแก๊งไปแล้ว!”
บุริศร์ผลักเขมิกาออก แต่คำพูดของเขากลับทำให้เขมิกาสั่นไปทั้งตัว สีหน้ายิ่งขาวซีดน่ากลัว ปากพูดอะไรไม่ออกสักคำ
บุริศร์พยายามระงับอารมณ์ตัวเองอย่างหนัก หน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
“เขมิกา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณอย่าพูดชื่อตรินท์อีก ถ้าฉันได้ยินคุณพูดถึงตรินท์อีกครั้ง ฉันจะฝังคุณไว้ในหลุมศพเขา ให้คุณไปหาเขาเป็นการส่วนตัว ฉันพูดจริงทำจริง! ทางที่ดีก็อย่ามาข้ามเส้นฉัน!”
พูดจบบุริศร์ก็ออกไปจากห้องพักเดี่ยวโดยไม่หยุดใดๆ
อธิบดีรู้ว่าตัวเองเข้าใจบุริศร์ผิด ก็ไม่กล้ายืดเยื้ออย่างแน่นอน รีบให้ผู้คุมพาเขมิกาที่ตกใจแทบบ้าไปที่ห้องสอบปากคำทันที
เมื่อพวกเขาออกมา ก็คิดว่าบุริศร์ไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าบุริศร์กำลังพิงหน้าต่างสูบบุหรี่อยู่
ทันใดนั้นก้นบุหรี่ก็หายไป บุริศร์หันหลังให้พวกเขา มองวิวนอกหน้าต่าง แต่ความกดอากาศทั้งร่างกายทำให้ทุกคนไม่กล้าหายใจ
อธิบดีเดินไปถามด้วยแรงกดดันที่อธิบายไม่ถูก “ประธานบุริศร์ คุณยังมีคำสั่งอะไรอีกไหมครับ?”
บุริศร์สูบบุหรี่อย่างหนัก จากนั้นก็ใช้นิ้วดับมัน
ความรู้สึกแสบร้อนราวกับหัวบุหรี่มันไหม้บนหน้าอกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...