บทที่ 160 บุริศร์นี่ดื้อรั้นได้ใจจริงๆ
“ตะโกนอะไร? หุบปาก!’
ผู้คุมเคาะแผงประตูผ่านประตูด้านนอก เสียงกระบองนั้นทำให้เขมิกาสะดุ้งโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นก็มุดเข้าอ้อมกอดของตังเม
“แม่ แม่ช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วย! แม่รีบช่วยหนูออกไป!”
เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของเขมิกา ตังเมเจ็บปวดใจมาก
เธอพูดเสียงเบา “ลูกฟังแม่นะ ในนี้มียาขวดหนึ่ง สามารถทำให้ลูกจิตผิดปกติไปชั่วคราว พรุ่งนี้ประมาณแปดโมง จะมีหมอมาตรวจสุขภาพให้ลูก จำไว้นะ ดื่มก่อนครึ่งชั่วโมง ยานี้มีฤทธิ์แค่สองชั่วโมงเท่านั้น ลูกต้องทนไว้นะ เขมิกา ตราบใดที่ลูกออกไปจากที่นี่ได้ แม่ก็มีวิธีสามารถให้ลูกเริ่มใหม่อีกครั้งได้ แค่ออกไปจากที่นี่ ลูกถึงจะมีโอกาส ลูกรู้ไหม?”
เขมิกามองขวดยาที่ตังเมเอาให้ ในใจรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“แม่ นี่คือยาอะไร? จะมีผลอะไรที่ไม่ดีต่อหนูไหม?”
“สบายใจได้ แม่ให้กำเนิดลูกนะ แม่จะทำร้ายลูกเหรอ? นึกถึงนรมน คิดดูลูกชายของลูก ลูกชายที่ลูกตั้งครรภ์เก้าเดือนกว่าจะคลอดออกมา จะให้ไปเป็นลูกชายของนรมนเปล่าๆงี้เหรอ?”
“ไม่! ไม่ได้! กิจจาเป็นของฉัน! บุริศร์ก็เป็นของฉัน! ทั้งตระกูลโตเล็กก็เป็นของฉัน!”
เขมิกาซ่อนยาอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้เธอทุ่มสุดตัวแล้ว
ตังเมพูดถูก!
เพียงแค่ออกไปจากที่นี่ เธอถึงมีความหวัง
ตังเมเห็นเธอแบบนี้ ตบมือเธอพร้อมปลอบเบาๆ “ไม่ต้องกลัว หมอที่มาในวันพรุ่งนี้แม่เป็นคนหามาให้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรกับลูก ลูกอย่าต่อต้านนะ พยายามร่วมมือก็พอ”
“ค่ะ”
เขมิกาอยู่จนพอแล้วที่นี่
ตอนกลางคืนหนาวเปียกชื้นไม่พอ แม้ว่าผู้คุมด้านนอกจะไม่ทำอะไรเธอ แต่ท่าทีก็ทำให้เธอรับไม่ได้
ตังเมว่าจะคุยกับเขมิกาสักหน่อย แต่กลับถูกผู้คุมด้านนอกเคาะประตู พูดเสียงเบา “คุณนายตังเม คุณรีบไปเถอะครับ ถ้าหากคนตระกูลโตเล็กรู้ว่าคุณมาที่นี่ ทางเรายากที่จะอธิบายนะครับ”
“รู้แล้ว”
ตังเมมองเขมิกาอย่างทิ้งไม่ลง มุมตาเปียกชื้นเล็กน้อย
“พรุ่งนี้แม่มารับลูกออกไปนะ.
“หนูรอแม่นะ แม่ ต้องช่วยหนูออกไปให้ได้!”
เขมิกาไม่เคยรู้สึกไร้ความช่วยเหลือขนาดนี้มาก่อน
ตังเมจากไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
เขมิกาขดตัวอยู่ที่มุมสักแห่งด้วยตัวคนเดียว เหมือนกับเด็กที่ถูกทอดทิ้ง
เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะได้มาอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ดีเท่าหมูหมา และทุกสิ่งทุกอย่างนี้นรมนเป็นคนมอบให้เธอ
นรมน!
ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!
แววตาของเขมิกานั้นเย็นชา
ทางฝั่งตังเมเพิ่งกลับไป ทางนู้นก็มีคนส่งวิดีโอในห้องและบทสนทนาส่งให้บุริศร์แล้ว
ไม่ได้รบกวนคนในสถานีตำรวจสักคน รวมทั้งระบบป้องกันด้วย
บุริศร์มองดูบทสนทนาของพวกเขาสองแม่ลูก แววตาเย็นชาลงอีกครั้ง
ดูแล้วเขมิกาไม่รู้เรื่องที่กิจจาถูกคนวางยาพิษใส่ เขาต้องหาคนบอกให้เขมิการู้เรื่องนี้ให้ชัดเจน
เขาจะรอดูว่าเขมิกาสามารถทำเพื่อลูกได้ถึงขั้นไหน
ถ้าหากเขมิกาสามารถสละทุกอย่างเพื่อลูก บางทีเขาอาจจะเห็นแก่กิจจาอภัยให้เธอ
บุริศร์คิดแบบนี้ ก็โทรหาคนคนหนึ่ง
“ไปสืบดูว่าหมอที่ตังเมหามาคือใคร เอาข่าวที่กิจจาถูกวางยาพิษและมีอันตรายถึงชีวิตบอกกับเขมิกา ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม”
“ครับ!’
หลังจากวางสาย บุริศร์ก็ยืนสูบบุหรี่ข้างหน้าต่าง
ทันทีที่เขาจุดไฟ ก็นึกได้ว่านรมนไม่ชอบให้ตัวเขามีกลิ่นบุหรี่ เขาดับลงโดยจิตใต้สำนึก แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองขี้ขลาดเกินไปในขณะที่ดับลง
นรมนทำกับเขาขนาดนั้น ทำไมเขาต้องเชื่อฟังเธอด้วย?
บุริศร์เหมือนเด็กจุดไฟขึ้นอีกครั้ง สูบเข้าไปอย่างแรง แต่กลับสำลักและไอขึ้นมา
จนเขาต้องดับบุหรี่ ไฟตรงหน้าอกกระจายอย่างทุกข์ทรมาน
แม้รู้ว่านั่นเป็นกลยุทธ์ไส้ศึกของนาวิน แต่ทำไมนรมนไม่อธิบายว่าเธอไม่ใช่แบบนั้นที่เขาพูดล่ะ?
เธอพูดกับเขาว่าเธอมีความจำเป็นที่ทุกข์ใจด้วยปากตัวเอง
ความจำเป็นที่ทุกข์ใจแบบไหนที่ทำให้เธอมีแผนการอื่นต่อเขา?
เมื่อก่อนสิ่งที่นรมนอยากได้ที่สุดก็คือใจของเขาบุริศร์ ความรักจากบุริศร์ ตอนนี้เขาให้เธอโดยไม่เผื่อใจเลยสักนิด แต่เหมือนกับว่าเธอยังมีสิ่งอย่างอื่นที่จะตามหา
เธออยากได้อะไรแน่?
เอาทั้งตระกูลโตเล็ก
หรือว่าบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด?
ครั้งนี้ที่นรมนกลับมานั้นกลับมาในนามของผู้ออกแบบบริษัทHJกรุ๊ปจำกัด
ในห้าปีที่ผ่านมานี้เธออยู่กับรเมศมาโดยตลอด และตระกูลวัชโรทัยก็มีใจเอาธุรกิจที่ต่างประเทศมาพัฒนาในประเทศ หรือว่านรมนจะกลับมาเพื่อรเมศ?
เมื่อนึกถึงความเป็นได้นี้ ใจของบุริศร์ก็ยิ่งเจ็บแปลบ
ภรรยาของเขาช่วยผู้ชายคนอื่นวางกับดักใส่เขา หลอกใช้เขา ความรู้สึกนี้นั้นแย่มาก
บุริศร์ต่อยที่ขอบหน้าต่างแรงๆ นิ้วของเขาแตก และมีเลือดไหลออกมา แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่นรมนอยู่ข้างกายละก็ เธอจะบ่นเขาว่าไม่รักตัวเองแน่เลย
แต่ตอนนี้แม้แต่การบ่นแบบนี้ก็กลายเป็นดาบอ่อนอย่างหนึ่ง ค่อยๆแทงเข้าไปในใจเขาทีละนิด ทำให้เขารับไม่ค่อยได้
ทางฝั่งนรมนไม่รู้อยู่แล้วว่าบุริศร์จะทนความเจ็บปวดในใจอย่างไร ในตอนที่เธออยากจะโทรไปหาอีกครั้ง เบอร์โทรถูกบล็อกอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...