แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 223

บทที่ 223 คุณจะช่วยใครก่อน?

บุริศร์มองเห็นนรมนมีเสน่ห์เช่นนี้ เขาอดใจไม่ไหวต้องการยิ่งขึ้น ทั้งสองกอดรัดกันอย่างรวดเร็ว

อุณหภูมิภายในห้องเพิ่มสูงขึ้นฉับพลัน ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายที่แตกต่าง

มองเห็นว่ากำลังจะห้ามใจไม่ไหว จู่ๆนรมนก็ผลักบุริศร์ออก ใบหน้าแดงเล็กน้อย

บุริศร์ชะงักงัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาต้องการจะทำต่ออีกครั้ง กลับถูกนรมนห้ามเอาไว้

“ฉันยังไม่หมดเลย”

เสียงของเธอเบามาก เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่บุริศร์ยังมีปฏิกิริยาตอบสนอง รู้สึกหงุดหงิดทันที

“เหลืออีกกี่วัน?”

“คุณนับเองสิ!”

นรมนผลักเขาออกเดินตรงไปห้องน้ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ

ทำไมตนเองถึงเกือบถูกทำให้เคลิบเคลิ้มไปได้นะ?

บุริศร์รู้สึกเหี่ยวแห้ง มองดูร่างกายที่ขึงตึงของตนเอง และถอนหายใจออกมายาวๆ จากนั้นลุกขึ้นไปเทน้ำน้ำตาลทรายแดงให้นรมนถ้วยหนึ่ง

รอนรมนออกมาจากห้องน้ำ บุริศร์จึงส่งน้ำน้ำตาลทรายให้แก่เธอ และกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า:“ดื่มอะไรอุ่นๆสักหน่อย ผมจะไปเข้าห้องน้ำ”

ส่วนจะเข้าห้องน้ำไปทำอะไรนั้น นรมนพอจะเดาออกได้บ้าง

แต่ก่อนก็เคยใช้ชีวิตคู่กับบุริศร์ แต่กลับไม่เหมือนในปัจจุบันที่ไม่สามารถหยุดมันได้ เคยคิดมาตลอดว่าคนเราเมื่อมีอายุมากขึ้น ความต้องการในเรื่องนั้นจะค่อยๆลดลง ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่สำหรับเธอและบุริศร์

นรมนทำท่าเหมือนแอบหลบหนีออกมาจากห้อง ดันเจอเข้ากับพฤกษ์บริเวณทางเดิน

“เกิดอะไรขึ้น?มีเรื่องด่วนหรือ?”

นรมนเพียงแค่ถามออกไปอย่างไม่คิดอะไร แต่พฤกษ์กลับนิ่งไปสักพักและตอบว่า :“ตระกูลวัชโรทัยเริ่มโต้ตอบแล้ว”

“ตระกูลวัชโรทัย?”

สีหน้าของนรมนไม่สู้ดีนัก

ตระกูลวัชโรทัย ต้องเป็นรเมศแน่ๆ เขาคิดจะทำอะไรอีก?

“เขาทำอะไร?”

นรมนเอ่ยถาม พฤกษ์ตอบเสียงเบาว่า:“ตระกูลวัชโรทัยเริ่มจัดหาเงินทุน ไม่รู้ว่าเงินทุนร่วมมาจากไหน ดูเหมือนถอนสภาพคล่องได้แล้ว แม้กระทั่งที่ดินของพวกเรา ตอนนี้แทบจำไม่มีค่าอะไร กลายเป็นว่าตอนนี้พวกเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ”

“อะไรนะ?”

เรื่องที่ดินนั้น นรมนรู้เพียงเล็กน้อย วันนี้ได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ เดิมทีเข้าใจเรื่องนี้อยู่ในกำมือของบุริศร์ ตอนนี้กลับกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างฉับพลัน ดูเหมือนว่ารเมศจะมีความสามารถจริงๆ

“บุริศร์อยู่ในห้อง รออีกสักพักคุณค่อยเข้าไปหาเขา”

“ครับ”

พฤกษ์ไม่กล้ารบกวนต่อ นรมนมาที่สวนดอกไม้คนเดียว

แสงแดดด้านนอกกำลังดี แต่เธอกลับไม่มีความสุขอย่างยิ่ง

สุดท้ายแล้วยังต้องเป็นศัตรูกับรเมศหรือ?

ในขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้ จู่ๆก็มีข้อความส่งเข้ามือถือของนรมน

นรมนไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อเปิดอ่านดู กลับตกใจทันที

ข้อความบนมือถือเป็นข้อความรูปภาพ รายละเอียดด้านในเป็นภาพของพ่อแม่เธอ

พวกเขาถูกมัดไว้กับเก้าอี้ และโดนปิดปาก มองดูแล้วมีการต่อสู้ดิ้นรนที่เจ็บปวดทรมานอย่างยิ่ง

หัวใจของนรมนก็เต้นแรงขึ้นทันที

ใครกัน?

ใครเป็นคนลักพาตัวพวกเขาไป?

ใครเป็นคนส่งข้อความให้เธอ?

นรมนรีบโทรกลับไปทันที แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งข้อความกลับไป

“แกเป็นใคร?แกทำอะไรกับพ่อแม่ของฉัน?”

นรมนรู้สึกกระวนกระวายใจ

สำหรับพ่อแม่ของเธอ เธอรู้สึกติดค้าง เพราะห้าปีนี้ทำให้พวกเขาเจอกับความกดดันมากเกินไป และวันนี้ยังทำให้พวกเขาต้องมารับเคราะห์แทนตนเองอีก ความรู้สึกแบบนี้ สำหรับคนที่เป็นลูก คงไม่มีใครรับได้

ฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบอยู่นานมาก รอจนนรมนทนไม่ไหวโทรกลับไปอีกครั้ง เขาจึงปิดเครื่อง

นรมนกระวนกระวายใจ แต่รู้ว่าตอนนี้ไม่สามารถใจร้อนได้

เธอกลับมาในห้องผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว มองเห็นบุริศร์กับพฤกษ์กำลังคุยอะไรกันอยู่ เธอจึงไม่เข้าไปรบกวน

คุณนายโตเล็กมาปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เมื่อเห็นนรมนจึงเอ่ยถามเสียงเบาว่า:“เป็นอะไรไป? มีเรื่องกังวลใจหรือเปล่า?”

นรมนมองเห็นคุณนายโตเล็ก จึงตอบด้วยความไม่สบายใจ:“พ่อแม่ของฉันถูกลักพาตัวไป อีกฝ่ายส่งภาพมา แต่กลับไม่รับสายฉัน และยังไม่ทำอะไรต่อ ตอนนี้ฉันหวาดกลัวมา ไม่รู้จะทำอย่างไร ?”

นรมนกังวลเรื่องนี้มาตลอด จนถึงกับขอให้กิมจิหาคนไปตรวจสอบข่าวของพ่อแม่ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวกลับมา คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมีคนส่งข้อความมาหาเอง กลับยังคงอยู่ในเมฆหมอกเหมือนเดิม ทำให้คนมองเห็นไม่ชัดเจน

คุณนายโตเล็กมองดูรูปภาพจากข้อความ ขมวดคิ้วและกล่าวว่า:“สถานที่นี้ดูไม่เหมือนอเมริกา”

“ฉันเองก็คิดแบบนี้ แต่อาศัยจากภาพด้านหลัง กลับไม่ปรากฏอะไรสักอย่าง ฉันอยากให้บุริศร์ช่วยฉันตรวจสอบว่าหมายเลขโทรศัพท์นั้นอยู่ที่ไหน เพียงแต่ดูเหมือนตอนนี้เขาค่อนข้างยุ่ง”

นรมนเอ่ยเสียงเบา

ตอนนี้บุริศร์มีเรื่องมากมาย เธอจึงไม่อยากขอความช่วยเหลือจากเขา เพียงแต่ทักษะคอมพิวเตอร์ของเขาไม่ธรรมดา เธอแค่เพียงต้องการรู้ตำแหน่งแม่นยำ

คุณนายโตเล็กตบไหลของเธอและเอ่ยว่า:“ไม่เป็นไร มันจะต้องมีเบาะแส บุริศร์น่าจะคุยจบแล้ว เธอเข้าไปหาเขาเถอะ”

คุณนายโตเล็กพูดแบบนี้ นรมนจึงเงยหน้าขึ้น มองเห็นบุริศร์กับพฤกษ์คุยกันจบแล้วจริงๆ พฤกษ์กำลังขอตัวกลับ

นรมนพยักหน้าให้คุณนายโตเล็ก และเดินไปหาบุริศร์

“เป็นอะไรไป? คุณคุยอะไรกับแม่?”

บุริศร์ลูบศีรษะของเธอด้วยความรักและเอ็นดู รู้สึกยิ่งรักเธอมากขึ้นกว่าเดิมจึงถอนตัวไม่ขึ้น แม้แต่เส้นผมก็เรียบลื่นน่าหลงใหล

นรมนจะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในแววตาของบุริศร์ได้อย่างไร เธอกระแอมไอหนึ่งทีและกล่าวว่า:“ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วย คุณเข้ามาก่อน”

“มีเรื่องอะไรถึงต้องเข้าไปคุยในห้อง?นรมน ผมจะบอกคุณให้นะ ผมเพิ่งจะอาบน้ำเย็นออกมา ถึงแม้วันนี้จะไม่หนาว แต่ก็ไม่ได้อุ่นนะ ถ้าผมเป็นหวัด……”

“คิดอะไรของคุณเนี่ย?”

ใบหน้าของนรมนแดงขึ้นมาอีกครั้ง

ตอนนี้ทำไมในสมองของผู้ชายคนนี้ถึงได้มีแต่เรื่องแบบนี้นะ?

บุริศร์เห็นเธอแก้มแดง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย

ไม่ใช่ว่าเขาจะมองไม่เห็นสายตาของคุณนายโตเล็กกับพฤกษ์ที่มองมาจากทางนั้น แต่เขาไม่ใส่ใจ ตอนนี้เขาเหมือนเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดสิบแปด เต็มไปด้วยความคึกคะนอง อยากจะกดทับลงไปบนร่างของนรมนทุกนาที

นรมนรู้โดยปริยายว่าบุริศร์กำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแต่เธอกลับลากเขาเข้าไปในห้อง เมื่อบุริศร์กำลังจะเข้ามาใกล้ จึงใช้แขนขวางเขาเอาไว้

“ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ”

“จูบก่อนแล้วค่อยพูด”

บุริศร์ได้คืบจะเอาศอก

นรมนกัดริมฝีปากและเอ่ยว่า:“เกี่ยวกับพ่อแม่ของฉัน”

คำนี้ทำให้บุริศร์ชะงักงันทันที

ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย สะสมจนเป็นกองพะเนิน ถึงแม้จะให้คนไปตรวจสอบเรื่องของพ่อแม่นรมน แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีเบาะแส ตอนนี้ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ บุริศร์ชะงักงันเล็กน้อย จึงปล่อยนรมนออก

“คุณได้ข่าวมาหรือไง?”

“อืม เมื่อกี้มีคนส่งมาให้ คุณสามารถตรวจสอบได้ไหมว่าหมายเลขของอีกฝ่ายเป็นของที่ไหน”

นรมนยื่นมือถือส่งให้บุริศร์

สีหน้าของเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย

เขารับมือถือมา จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว เริ่มค้นหาหมายเลขโทรศัพท์มือถือ แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที คิ้วของบุริศร์ก็ขมวดเข้าหากัน

“เป็นอะไรไป?”

นรมนกังวลใจมาก

บุริศร์ตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ:“หมายเลขนี้ถูกเข้ารหัสไว้ นอกจากนี้ยังมีการรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ตอนนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ที่ไหน หากตรวจเจอจะถูกบล็อกโดยอัตโนมัติทันที สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก อีกฝ่ายน่าจะเป็นคนมีฝีมือ”

ได้ฟังบุริศร์ตอบแบบนี้ นรมนกลุ้มใจขึ้นมาฉับพลัน

ถ้าแม้แต่บุริศร์ยังไม่สามารถถอดรหัสได้ แล้วจะมีเบาะแสอะไร?

เห็นนรมนมีความกลุ้มใจ บุริศร์ยืนขึ้นและกล่าวว่า:“ผมจะดูว่ายังมีวิธีการอื่นอีกไหม คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปก่อน”

“อืม แล้วพฤกษ์มาหาคุณมีธุระอะไรหรือคะ?ถ้าคุณมีธุระก็ไปจัดการก่อนได้เลย ส่วนฉันทางนี้จะลองค้นหาดู”

นรมนรู้ว่าบุริศร์มีเรื่องเยอะมาก จึงไม่อยากเป็นภาระของเขา

บุริศร์ปิดคอมพิวเตอร์และตอบว่า:“ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องของตระกูลวัชโรทัย”

“รเมศ?”

“อืม ผมเริ่มทำสงครามกับตระกูลวัชโรทัยแล้ว”

บุริศร์เหลือบมองนรมนเมื่อพูดประโยคนี้ออกไป เห็นได้ชัดเจนว่าเขาต้องการดูว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

นรมนถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า:“เริ่มไปเถอะ เขาทำมากเกินไปจริงๆ”

พูดประโยคนี้ออกไป นรมนรู้สึกกดดันมาก

คนบางคน เรื่องบางเรื่องไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว

บุริศร์มองนรมน กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า:“สำหรับคนที่มีค่า ทุ่มเทให้เท่าไหร่ก็ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีค่า ไม่จำเป็นต้องไปเสียใจ ชีวิตคนเรายังอีกยาวไกล ไม่จำเป็นต้องเก็บทุกคนและทุกเรื่องเอาไว้ในใจ”

“แต่เขาเคยช่วยชีวิตของฉันและลูกๆ”

“แต่เขาก็ทำร้ายกมล”

เสียงของบุริศร์ไม่ได้ขึ้นลงมากนัก แต่นรมนสัมผัสได้ว่าเขายังคงรู้สึกไม่ดี

สำหรับเรื่องของรเมศ เป็นเรื่องยากที่นรมนกับบุริศร์จะมองในจุดเดียวกัน

“เขาทำอะไร?”

นรมนจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวข้อ เพราะเธอได้กลิ่นความเกลียดชังที่รุนแรงส่งมาจากร่างกายของบุริศร์

บุริศร์หรี่ตา ตอบเสียงเบา:“ก็ไม่มีอะไร เพียงแค่หาบริษัทมาร่วมทุนได้แค่นั้น”

“คุณสามารถทำลายมันได้ไหม?”

นรมนยังคงเป็นห่วงบุริศร์เล็กน้อย

ในความเป็นจริงการทำธุรกิจมาถึงระดับของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจของครอบครัว อาจมีปัญหาเงินทุนติดขัดเล็กน้อย แต่ถึงแม้จะเกิดขึ้น ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญจัดหาเงินทุนหมุนเวียนมาให้ ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพียงเพื่อให้ธุรกิจครอบครัวมีความพฒนาขึ้น พึ่งพาความได้เปรียบของผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผลประโยชน์ที่อยู่เบื้องหลังล้วนมีวัตถุประสงค์ แต่ในขณะเดียวกันต้องยอมรับความเสี่ยงที่ตามมา

ถึงแม้นรมนจะไม่รู้ว่าบริษัทไหนมาร่วมทุนกับตระกูลวัชโรทัย แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะทำให้บุริศร์ถูกขัดขวาง หรือไม่ก็รเมศอาจจะลงมือกับบุริศร์โดยตรง

นี่คือสิ่งที่นรมนไม่อยากเห็นที่สุด

บุริศร์มองเห็นแววตาที่เป็นห่วงตนเองของนรมน ทันใดนั้นก็รู้สึกดีขึ้นเยอะมาก

“เป็นห่วงผม?”

“คุณพูดอะไรไร้สาระ? คุณเป็นสามีของฉันนะ”

นรมนถลึงตาใส่เขา กลับถูกบุริศร์ดึงเขาไปใกล้อ้อมอกทันที นอกจากนี้ยังขังเอาไว้

“ถ้าวันหนึ่งผมกับรเมศเจอกับอันตรายพร้อมกัน คุณจะช่วยใครก่อน?”

คำถามนี้ปัญญาอ่อนมาก ไม่มีใครถามกัน นับประสาอะไรกับผู้ชายอย่างบุริศร์ แต่เขากลับถามออกมา

เมื่อความรักอยู่ตรงหน้า ในความเป็นจริงทุกคนต่างจิตใจว้าวุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศัตรูหัวใจปรากฏตัว และศัตรูหัวใจคนนี้มีบุญคุณต่อผู้หญิงของตนเอง

นรมนมองท่าทางพยายามสงบนิ่งของบุริศร์ รู้สึกรักอย่างสุดหัวใจขึ้นมาทันที

ผู้ชายคนนี้ เธอเคยมอบหัวใจให้เขาไปเมื่อห้าปีก่อน แต่จนถึงตอนนี้ เขายังคงว้าวุ่น ยังคงรู้สึกไม่ปลอดภัย

หรือเป็นเพราะความรักยังไม่ลึกซึ้ง?หรือเป็นเพราะความรักลึกซึ้งเกินไป?

นรมนไม่รู้ เธอยิ้มและเอ่ยว่า :“คุณเดาสิ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย